องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 71

องค์ชายใหญ่ฉินชงที่อยู่ท่ามกลามสถานการณ์นี้ คิดว่าบรรดาแขกในหออี๋หงสนับสนุนเขาจริงๆ เขาจึงพูดอย่างอวดดีออกมาว่า

“เจ้าสิบสี่ ตอนนี้เจ้ากำลังตกเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ของประชาชนแล้ว ถ้าข้าที่เป็นพี่ชายของเจ้ายังไม่สั่งสอนเจ้าอีก ราชวงศ์ก็คงเป็นตัวตลกต่อหน้าคนในใต้หล้านี้แล้ว!”

ฉินเหยียนพูดด้วยสีหน้าเมินเฉย

“พี่ใหญ่ ข้าพูดว่ามาที่นี่ก็เพื่อมาสนุก ความสนุกเป็นเรื่องสำคัญที่สุดแล้ว!”

เขาก้าวขึ้นไปข้างหน้า โอบไหล่องค์ชายใหญ่และพูดว่า

“พี่ใหญ่ค่อยๆ สงบสติอารมณ์เถิด น้องชายเช่นข้าจะทำให้ท่านพี่มีความสุข รีบหาเก้าอี้มาให้ท่านพี่เดี๋ยวนี้ ทำไมไม่รู้เรื่องเอาเสียเลย!”

องค์ชายใหญ่ฉินชงโบกมือปัด

“ไม่ต้องมาแตะต้องข้า เจ้าอย่าแม้แต่จะคิดที่จะใช้อุบายใดๆ!”

ทหารชั้นดีต่างช่วยกันย้ายโต๊ะย้ายเก้าอี้ในทันที ฉินเหยียนลากองค์ชายใหญ่ฉินชงให้นั่งบนเก้าอี้ไท่ซือ แล้วยื่นแก้วเหล้าให้เขา

“พี่ใหญ่ ใจเย็นๆ ก่อน มา น้องจะรินเหล้าให้พี่ใหญ่เอง!”

ฉินเหยียนถือแก้วเหล้าที่รินจนเต็ม แล้วมอบให้องค์ชายใหญ่ฉินชง

องค์ชายใหญ่ปัดแก้วเหล้าออก สีหน้าเต็มไปด้วยความรังเกียจ

“เจ้าหยุดเปลี่ยนเรื่องได้แล้ว!”

เหล้าหกเต็มพื้น

ฉินเหยียนพูดด้วยความเสียใจว่า

“ไอหย่า พี่ใหญ่ นี่เป็นเหล้าชั้นดีเชียว เหล้านารีแดงที่บ่มมากอย่างดี เฮ้อ น่าเสียดาย”

เขาหันกลับมาแล้วนำแก้วเหล้านั้นมาให้เสนาบดีกรมอาญาแทนแล้วพูดว่า

“พี่ใหญ่ไม่อยากดื่มกับข้า แต่ดูเหมือนว่าเสนาบดีกรมอาญาอยากจะดื่มกับข้ามากกว่า เช่นนั้นเอาแก้วนี้ให้ท่านดื่มเสียดีกว่า ท่านดื่มเป็นเพื่อนพี่ใหญ่สักสองแก้ว?”

เสนาบดีกรมอาญาที่อยู่ๆ ก็ถูกเรียกชื่อพลันแสดงสีหน้าปฏิเสธ

“แก้วเหล้าขององค์ชายสิบสี่แพงเกินไป กระหม่อมดื่มไม่ได้หรอกขอรับ!”

ฉินเหยียนส่ายหัว ถอนหายใจ และเทเหล้าไปอีกแก้วแทน

“พี่ใหญ่ไม่ดื่ม เสนาบดีกรมอาญาก็ไม่ดื่ม เช่นนั้นแก้วนี้ให้เจ้าก็แล้วกันนางทาสของข้า”

ฉินเหยียนหยิบแก้วเหล้าแล้วเดินไปข้างหน้า นำแก้วจ่อไปที่ปากของจ้าวจีเอ่อร์

“ไปให้พ้น!”

จ้าวจีเอ๋อร์ขมวดคิ้ว เบือนหน้าหนี และเม้มปากแน่นเพราะกลัวว่าจะดื่มเหล้าเข้าไป

ทุกคนต่างจับตาดูการเคลื่อนไหวของฉินเหยียน ร่างกายของพวกเขาสั่นไม่หยุด

นี่มันไม่สมเหตุสมผลเลยจริงๆ องค์หญิงสามที่สูงศักดิ์ของพวกเขา กลับถูกไอ้สารเลวแห่งอาณาจักรฉินดูถูกได้ถึงขนาดนี้

หลายคนยกมือขึ้นมาไว้ข้างตัวเพื่อเตรียมตัวให้พร้อมทุกเมื่อ เหลือเพียงรอแค่คำสั่งให้ลงมือเท่านั้น

จ้าวจีเอ๋อร์ส่งสัญญาณให้บรรดาทหารหน่วยกล้าตายที่กำลังเคลื่อนตัวว่าอย่าเพิ่งทำอะไรบุ่มบ่ามออกไป

แต่การเคลื่อนไหวเล็กน้อยนี้ไม่อาจรอดสายตาของฉินเหยียนไปได้ เขาพูดอย่างยั่วยุต่อว่า

“ยังอารมณ์ไม่ดีอยู่อีก รีบอ้าปาก หรือว่าต้องให้ข้าป้อนเจ้าด้วยปาก?”

สีหน้าของจ้าวจีเอ่อร์แดงก่ำด้วยความโกรธ องค์ชายใหญ่ฉินชงไม่คาดคิดว่าฉินเหยียนจะกล้าพูดเช่นนี้ต่อหน้าคนจำนวนมาก พูดเช่นนี้เป็นการทำให้องค์หญิงสามต้องอับอายมากขึ้นและทำให้สถานการณ์ยุ่งยากมากขึ้น

“ฉินเหยียน เจ้าไม่รู้จักละอายบ้างเลยหรือ!”

หินก้อนหนึ่งทำให้เกิดคลื่นนับพัน และไส้ศึกของอาณาจักรจ้าวที่แสร้งทำตัวเป็นแขกเริ่มตำหนิฉินเหยียนในทันที

“ไอ้คนชั่วร้าย เจ้าจงใจทำลายชื่อเสียงแม่นางคนนี้!”

“น่าขยะแขยง ช่างน่าอายที่อาณาจักรฉินมีคนเช่นเจ้า!”

“คำพูดสกปรก หน้าไม่อายเสียจริง!”

เสนาบดีกรมอาญาเองก็เข้าร่วมวงด้วย พูดเติมเชื้อไฟเข้ากองเพลิงว่า

“องค์ชายสิบสี่ไร้คุณธรรม ไม่เหมาะสมที่จะเป็นชินหวาง”

“พูดถูกต้อง!”

“ถุย! น่าขยะแขยง!”

คำด่าดังขึ้นไปทั่ว จ้าวจือหย่าที่อยู่ด้านข้างได้ยินดังนั้นพลันหน้าแดงด้วยความโกรธ ต้องการปกป้องฉินเหยียน แต่เสียงของนางไม่อาจดังสู้เสียงก่นด่าทั่วห้องโถงได้

ฉินเหยียนไม่ได้ดูโกรธเลยแม้แต่น้อย เขายิ้มและมองไปยังคนที่อยู่รอบๆ เป็นไปตามที่คิดไว้ ด่ามาเลย รอให้ถึงตาเจ้าร้องไห้บ้างเถิด

องค์ชายใหญ่ฉินชงเห็นว่าฉินเหยียนไม่มีความละอายใจเลยแม้แต่น้อย เขาหัวเราะออกมาเสียงดัง ชี้นิ้วไปที่เขาพร้อมกับด่าว่า

“เจ้าได้ยินที่ประชาชนพูดแล้วหรือไม่? เจ้าไม่นึกถึงหน้าตาของราชวงศ์เลยแม้แต่น้อย ไม่สนใจความสัมพันธ์ระหว่างอาณาจักรจ้าวและอาณาจักรฉิน คิดว่ากฎหมายไม่สามารถทำอะไรเจ้าได้อย่างนั้นหรือ หากไม่ลงโทษเจ้า ความเคียดแค้นของประชาชนไม่อาจสงบลงได้!”

ฉินเหยียนยังคงยิ้มด้วยรอยยิ้มขี้เล่น

“พี่ใหญ่ ดูท่านสิ ทำไมถึงต้องโกรธถึงเพียงนี้ รีบหาเหล้ามาให้พี่ใหญ่สักแก้วให้เขาได้สงบสติอารมณ์เสียหน่อย”

“เจ้า!”

เสนาบดีกรมอาญาที่อยู่ข้างๆ พูดขึ้นมาว่า

“องค์ชายใหญ่ อย่าได้ทรงโกรธไปเลยขอรับ พรุ่งนี้ข้าจะไปยังท้องพระโรงเพื่อรายงานความผิดขององค์ชายสิบสี่ทั้งหมดให้ฝ่าบาททรงทราบ!”

ฉินเหยียนตอบอย่างไม่ใส่ใจว่า

“คนแก่อย่างท่านนี้ชอบยุ่งเรื่องชาวบ้านมากจริงเชียว แม้จะดื่มเหล้าเข้าไปก็คงไม่อาจหยุดปากของท่านได้”

เสนาบดีกรมอาญาโกรธจนหายใจแทบไม่ออก โกรธจัดจนหน้าแดง รอให้วันพรุ่งนี้ข้าได้เข้าเฝ้าฝ่าบาทเสียก่อนเถิด ข้าจะต้องรายงานความผิดขององค์ชายสิบสี่ที่ชอบรนหาที่ตายเองสักหนึ่งหน้ากระดาษ

องค์ชายใหญ่ฉินชงทนไม่ไหวอีกต่อไป เดินไปยังสมุหราชองครักษ์ที่ติดตามเขามา

“เคร้ง” เสียงดึงดาบดังขึ้น

พลันนำดาบชี้ไปที่หน้าของฉินเหยียน เขาพูดด้วยความโกรธว่า

“จะรอให้ถึงวันพรุ่งนี้ไปทำไมกัน คนที่ทำผิดต่อกฎหมายเช่นนี้ คิดต่อต้านกฎแห่งสวรรค์ ไม่คำนึงถึงความสุขของประชาชนในอาณาจักรฉิน ตราบใดที่เขายังมีชีวิตอยู่จะเป็นการนำความอับอายมาสู่ราชวงศ์!”

“วันนี้ให้ข้าที่เป็นองค์ชายและพี่น้องของเจ้า ฆ่าเจ้าที่เป็นคนสารเลวไม่รู้เรื่องรู้ราวบนโลกใบนี้เสียเถอะ เพื่อคลี่คลายความขัดแย้งระหว่างสองอาณาจักร!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์