องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 72

เหตุการณ์พลิกผันครั้งนี้เหนือความคาดหมายของทุกคน ไส้ศึกของอาณาจักรจ้าวต่างหวังว่าองค์ชายใหญ่ฉินชงจะสังหารฉินเหยียนด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว เพื่อที่พวกเขาจะได้เป็นชาวประมงที่ได้ผลประโยชน์เสียเอง

จ้าวจีเอ๋อร์ที่แอบมีความสุขอยู่ในใจ ปล่อยให้องค์ชายอาณาจักรฉินฆ่ากันเองจะดีกว่า!

จ้าวจือหย่าที่อยู่ข้างๆ ตื่นตระหนก องค์ชายใหญ่คิดฆ่าน้องชายตัวเองได้อย่างไรกัน นางกังวลมากเกินไปจนไม่รู้จะทำอย่างไร

แต่ฉินเหยียนกลับไม่สนใจเลยแม้แต่น้อย

“มีคนอยากฆ่าข้าเยอะแยะมากมายแล้ว ข้าไม่สนใจหรอก!”

เขาดื่มเหล้าในแก้วจนหมด แล้วโยนแก้วลงไปที่พื้น

“เพล้ง”

สีหน้าของไส้ศึกแห่งอาณาจักรจ้าวเปลี่ยนไปทันที

สัญญาณแก้วแตก!

“ลงมือ!”

ไม่รู้ว่าเสียงใครดังขึ้นไปทั่วทั้งหออี๋หง

“เคร้ง”

พวกเขาทั้งหมดดึงดาบออกมาและชี้ไปที่ฉินเหยียนโดยทันที

“เข้าช่วยเหลือองค์หญิงสาม!”

“จงรักภักดีต่ออาณาจักรจ้าว!”

ไม่ทันให้รอสิ้นเสียงพูด ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในวินาทีต่อมา

“ฮู”

ทหารชั้นดีหลายคนที่ซุ่มโจมตีอยู่รอบๆ ต่างพากันชักดาบออกมาทันที แล้วจ่อเข้าไปที่คอของไส้ศึกอาณาจักรจ้าว

“อย่าขยับ! ขยับอีกครั้งล่ะก็ หัวเจ้าหลุดออกจากบ่าแน่!”

สถานการณ์พลิกผันอย่างรวดเร็ว

ทหารหน่วยกล้าตายของอาณาจักรจ้าว ถูกจัดการอย่างง่ายดาย

ด้วยสถานการณ์ที่พลิกผันอย่างรวดเร็วนี้ ทำให้บรรดาไส้ศึกที่ฝั่งอาณาจักรจ้าวประหลาดใจ ไม่กล้าแม้แต่จะเคลื่อนไหว

สถานการณ์ที่พลิกผันนี้ทำให้องค์ชายใหญ่ที่ยืนอยู่ท่ามกลางฝูงชนกลัวจนหัวหด ถือดาบไว้ในมือทั้งสองข้าง มองไปรอบๆ ด้วยสายตาตื่นตระหนก

“นี่ นี่มันเกิดอะไรขึ้น?”

ฝ่ายเสนาบดีกรมอาญาก็ไม่ได้ดีไปกว่ากันมากนัก เขาตัวสั่นด้วยความกลัว ทำไมจู่ๆ ถึงมีคนปรากฎตัวรอบกายเขามากขนาดนี้ อีกทั้งยังถือดาบในมือกันทุกคน!

มีคำถามมากมายในหัวของเขา และไม่รู้ว่าต้องหันหน้าไปทางใด

ไส้ศึกฝ่ายอาณาจักรจ้าวยืนอยู่ในห้องพื้นดิน คิดที่จะหลบหนี คิดที่จะรายงานสถานการณ์

แต่กลับไม่รู้ว่าทหารชั้นยอดที่อยู่นอกหออี๋หง รออยู่ข้างนอกนานแล้วเพื่อจับกุมไส้ศึกเหล่านั้น

บรรดานางโลมไม่เล่นละครอีกต่อไป พวกนางเผยอาวุธที่แอบซ่อนไว้ในเสื้อผ้าพร้อมที่จะต่อสู้

โดยไม่คาดคิดบรรดาทหารชั้นดีจำนวนนับไม่ถ้วนที่อยู่ในห้องพลันปรากฏตัวออกมา จัดการนางโลมทีละคน

ในเวลานี้ บรรดาไส้ศึกของอาณาจักรจ้าวทั้งภายในและภายนอก ทั้งชั้นบนและชั้นล่างของหออี๋หง ต่างถูกจับกุมไว้หมดแล้ว

“เจ้าสิบสี่ เจ้าคิดจะทำอะไร คิดก่อกบฏหรือ?”

องค์ชายใหญ่ที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย ยังคงถือดาบด้วยมืออันสั่นเทา

สถานการณ์ที่พลิกผันนี้เกิดขึ้นอย่างกะทันหันจนทำให้เขาทำอะไรไม่ถูก

“ข้าเป็นพี่ใหญ่ของเจ้า พี่ชายที่แบกความรับผิดชอบดูแลน้องเช่นเจ้า หากเจ้ากล้าทำร้ายข้า นี่ถือว่าเป็นการทรยศ!”

อย่ามองว่าองค์ชายใหญ่พูดจาไพเราะ แต่ตัวเขานั้นกลับสั่นเทาอย่างช่วยไม่ได้

ต้าจ้างและต้าหย่งถือดาบและเดินออกมาข้างหน้า เมื่อพวกเขาเดินผ่านองค์ชายใหญ่ เพียงแค่มองเขา องค์ชายใหญ่ตกใจจนต้องทรุดตัวลงไปนั่งกับพื้น

“เหอเหอ เจ้าคนขี้ขลาด”

ต้าจ้วงคุกเข่าลงและรายงานว่า

“ข้าน้อยขอรายงานต่ออ๋องเหยียนว่า ภายในหออี๋หงนี้ ทหารหน่วยกล้าตายทั้งหมดของอาณาจักรจ้าวได้ถูกจับกุมแล้ว”

ต้าหย่งคุกเข่าข้างหนึ่งแล้วรายงานว่า

“องค์ชาย ทั้งภายในและภายนอกหออี๋หงได้ถูกควบคุมไว้หมดแล้ว ไม่มีใครสามารถหนีรอดไปได้ขอรับ!”

ในเวลานี้องค์ชายใหญ่และเสนาบดีกรมอาญาอยู่ในความสับสน

นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น?

ทุกคนถูกจับตัวไว้แล้ว?

ทหารหน่วยกล้าตายของอาณาจักรจ้าว!

นี่มันเรื่องอะไรกัน?

ทันทีที่จ้าวจีเอ๋อร์ได้ยินเช่นนั้น ร่างกายนางพลันหมดแรง ทรุดลงไปกับพื้น ดวงตานางเบิกกว้างด้วยความไม่เชื่อ

“เป็นไปไม่ได้! นี่มันเป็นไปไม่ได้!”

ฉินเหยียนหัวเราะเสียงดังและพูดว่า

“ทำได้ดีมาก! ข้าเรียงวิธีนี้ว่าตั๊กแตนจับจั๊กจั่น นกขมิ้นอยู่ข้างหลัง!”

จ้าวจีเอ๋อร์ที่ทรุดลงไปกับพื้นมองไปยังทหารอาณาจักรจ้าวที่ถูกจับกุม

จบแล้ว จบสิ้นแล้ว!

จบสิ้นทุกอย่างแล้ว!

ร่างกายของจ้าวจีเอ๋อร์เหมือนมะเขือยาวที่ถูกทุบด้วยน้ำแข็ง ความมั่นใจที่นางมีอยู่ในตอนแรกนั้นพลันหายไปจนหมดสิ้น

ฉินเหยียนสะบัดพัดและมองไปที่ทุกคนที่อยู่ในหออี๋หง

“นำทหารหน่วยกล้าตายของอาณาจักรจ้าวมาที่นี่ ข้าจะสอบปากคำเป็นการส่วนตัว!”

ในเวลานี้ องค์ชายใหญ่ฉินชงและเสนาบดีกรมอาญาเหมือนจะเข้าใจขึ้นมาเล็กน้อย

องค์ชายใหญ่ฉินชงถามด้วยความระแวดระวัง

“น้องสิบสี่ นี่มันเรื่องอะไรกัน?”

ฉินเหยียนโอบไหล่องค์ชายใหญ่ จับเขาให้นั่งลงบนเก้าอี้ พูดด้วยรอยยิ้มว่า

“เรื่องมันยาวมากพี่ใหญ่ แต่ในเมื่อวันนี้พี่ใหญ่ได้ตามข้ามาจนถึงครึ่งทางแล้ว ข้าจะยกความดีความชอบในวันนี้ให้ท่านครึ่งหนึ่งเสียแล้วกัน”

“พรุ่งนี้ที่ท้องพระโรง ข้าจะรายงานให้เสด็จพ่อฟังว่าเราสองพี่น้องได้ทำลายแผนการลับของอาณาจักรจ้าว”

องค์ชายใหญ่ฉินชงที่ดูเหมือนจะเข้าใจแต่ก็ไม่เข้าใจถามออกมาว่า

“อย่าบอกนะว่าความหมายที่เจ้าพูดว่าหออี๋หงนี้เป็นที่ที่อาณาจักรจ้าว...”

ฉินเหยียนพยักหน้าและหัวเราะ

“พี่ใหญ่ก็ยังเป็นพี่ใหญ่อยู่วันยังค่ำ ฉลาดจริงๆ!”

องค์ชายใหญ่ฉินชงมองไปรอบๆ ด้วยความสับสน

คนที่ถูกทหารชั้นดีจับกุมตัวนั้นมีแม่เล้าซ่ง บรรดาบริกร นางโลมที่ให้มาดูแลตอนดื่ม และบรรดาแขกทั้งหมด พวกเขา... พวกเขาทั้งหมดล้วนเป็นทหารหน่วยกล้าตายของอาณาจักรจ้าว!”

องค์ชายใหญ่ฉินชงยิ้มออกมาอย่างช้าๆ

“นี่ ข้าจะทำอย่างไรดี...”

ฉินเหยียนตบไหล่องค์ชายใหญ่ฉินชงและพูดอย่างมีน้ำใจว่า

“ไอหย่า พี่ใหญ่ พวกเราเป็นพี่น้องกัน จะกังวลเรื่องนี้ไปทำไมเล่า พรุ่งนี้รอรับรางวัลต่อหน้าเสด็จพ่อได้เลย!”

หลังจากพูดจบ ฉินเหยียนก็กลับมามีท่าทีเคร่งขรึม มองไปที่จ้าวจีเอ๋อร์ขึ้นลงและพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า

“ยอมรับแล้วหรือยัง? นางทาสของข้า?”

จ้าวจีเอ๋อร์เบือนหน้าหนี ไม่อยากจะเห็นหน้าเขา

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์