เหตุการณ์พลิกผันครั้งนี้เหนือความคาดหมายของทุกคน ไส้ศึกของอาณาจักรจ้าวต่างหวังว่าองค์ชายใหญ่ฉินชงจะสังหารฉินเหยียนด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว เพื่อที่พวกเขาจะได้เป็นชาวประมงที่ได้ผลประโยชน์เสียเอง
จ้าวจีเอ๋อร์ที่แอบมีความสุขอยู่ในใจ ปล่อยให้องค์ชายอาณาจักรฉินฆ่ากันเองจะดีกว่า!
จ้าวจือหย่าที่อยู่ข้างๆ ตื่นตระหนก องค์ชายใหญ่คิดฆ่าน้องชายตัวเองได้อย่างไรกัน นางกังวลมากเกินไปจนไม่รู้จะทำอย่างไร
แต่ฉินเหยียนกลับไม่สนใจเลยแม้แต่น้อย
“มีคนอยากฆ่าข้าเยอะแยะมากมายแล้ว ข้าไม่สนใจหรอก!”
เขาดื่มเหล้าในแก้วจนหมด แล้วโยนแก้วลงไปที่พื้น
“เพล้ง”
สีหน้าของไส้ศึกแห่งอาณาจักรจ้าวเปลี่ยนไปทันที
สัญญาณแก้วแตก!
“ลงมือ!”
ไม่รู้ว่าเสียงใครดังขึ้นไปทั่วทั้งหออี๋หง
“เคร้ง”
พวกเขาทั้งหมดดึงดาบออกมาและชี้ไปที่ฉินเหยียนโดยทันที
“เข้าช่วยเหลือองค์หญิงสาม!”
“จงรักภักดีต่ออาณาจักรจ้าว!”
ไม่ทันให้รอสิ้นเสียงพูด ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในวินาทีต่อมา
“ฮู”
ทหารชั้นดีหลายคนที่ซุ่มโจมตีอยู่รอบๆ ต่างพากันชักดาบออกมาทันที แล้วจ่อเข้าไปที่คอของไส้ศึกอาณาจักรจ้าว
“อย่าขยับ! ขยับอีกครั้งล่ะก็ หัวเจ้าหลุดออกจากบ่าแน่!”
สถานการณ์พลิกผันอย่างรวดเร็ว
ทหารหน่วยกล้าตายของอาณาจักรจ้าว ถูกจัดการอย่างง่ายดาย
ด้วยสถานการณ์ที่พลิกผันอย่างรวดเร็วนี้ ทำให้บรรดาไส้ศึกที่ฝั่งอาณาจักรจ้าวประหลาดใจ ไม่กล้าแม้แต่จะเคลื่อนไหว
สถานการณ์ที่พลิกผันนี้ทำให้องค์ชายใหญ่ที่ยืนอยู่ท่ามกลางฝูงชนกลัวจนหัวหด ถือดาบไว้ในมือทั้งสองข้าง มองไปรอบๆ ด้วยสายตาตื่นตระหนก
“นี่ นี่มันเกิดอะไรขึ้น?”
ฝ่ายเสนาบดีกรมอาญาก็ไม่ได้ดีไปกว่ากันมากนัก เขาตัวสั่นด้วยความกลัว ทำไมจู่ๆ ถึงมีคนปรากฎตัวรอบกายเขามากขนาดนี้ อีกทั้งยังถือดาบในมือกันทุกคน!
มีคำถามมากมายในหัวของเขา และไม่รู้ว่าต้องหันหน้าไปทางใด
ไส้ศึกฝ่ายอาณาจักรจ้าวยืนอยู่ในห้องพื้นดิน คิดที่จะหลบหนี คิดที่จะรายงานสถานการณ์
แต่กลับไม่รู้ว่าทหารชั้นยอดที่อยู่นอกหออี๋หง รออยู่ข้างนอกนานแล้วเพื่อจับกุมไส้ศึกเหล่านั้น
บรรดานางโลมไม่เล่นละครอีกต่อไป พวกนางเผยอาวุธที่แอบซ่อนไว้ในเสื้อผ้าพร้อมที่จะต่อสู้
โดยไม่คาดคิดบรรดาทหารชั้นดีจำนวนนับไม่ถ้วนที่อยู่ในห้องพลันปรากฏตัวออกมา จัดการนางโลมทีละคน
ในเวลานี้ บรรดาไส้ศึกของอาณาจักรจ้าวทั้งภายในและภายนอก ทั้งชั้นบนและชั้นล่างของหออี๋หง ต่างถูกจับกุมไว้หมดแล้ว
“เจ้าสิบสี่ เจ้าคิดจะทำอะไร คิดก่อกบฏหรือ?”
องค์ชายใหญ่ที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย ยังคงถือดาบด้วยมืออันสั่นเทา
สถานการณ์ที่พลิกผันนี้เกิดขึ้นอย่างกะทันหันจนทำให้เขาทำอะไรไม่ถูก
“ข้าเป็นพี่ใหญ่ของเจ้า พี่ชายที่แบกความรับผิดชอบดูแลน้องเช่นเจ้า หากเจ้ากล้าทำร้ายข้า นี่ถือว่าเป็นการทรยศ!”
อย่ามองว่าองค์ชายใหญ่พูดจาไพเราะ แต่ตัวเขานั้นกลับสั่นเทาอย่างช่วยไม่ได้
ต้าจ้างและต้าหย่งถือดาบและเดินออกมาข้างหน้า เมื่อพวกเขาเดินผ่านองค์ชายใหญ่ เพียงแค่มองเขา องค์ชายใหญ่ตกใจจนต้องทรุดตัวลงไปนั่งกับพื้น
“เหอเหอ เจ้าคนขี้ขลาด”
ต้าจ้วงคุกเข่าลงและรายงานว่า
“ข้าน้อยขอรายงานต่ออ๋องเหยียนว่า ภายในหออี๋หงนี้ ทหารหน่วยกล้าตายทั้งหมดของอาณาจักรจ้าวได้ถูกจับกุมแล้ว”
ต้าหย่งคุกเข่าข้างหนึ่งแล้วรายงานว่า
“องค์ชาย ทั้งภายในและภายนอกหออี๋หงได้ถูกควบคุมไว้หมดแล้ว ไม่มีใครสามารถหนีรอดไปได้ขอรับ!”
ในเวลานี้องค์ชายใหญ่และเสนาบดีกรมอาญาอยู่ในความสับสน
นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น?
ทุกคนถูกจับตัวไว้แล้ว?
ทหารหน่วยกล้าตายของอาณาจักรจ้าว!
นี่มันเรื่องอะไรกัน?
ทันทีที่จ้าวจีเอ๋อร์ได้ยินเช่นนั้น ร่างกายนางพลันหมดแรง ทรุดลงไปกับพื้น ดวงตานางเบิกกว้างด้วยความไม่เชื่อ
“เป็นไปไม่ได้! นี่มันเป็นไปไม่ได้!”
ฉินเหยียนหัวเราะเสียงดังและพูดว่า
“ทำได้ดีมาก! ข้าเรียงวิธีนี้ว่าตั๊กแตนจับจั๊กจั่น นกขมิ้นอยู่ข้างหลัง!”
จ้าวจีเอ๋อร์ที่ทรุดลงไปกับพื้นมองไปยังทหารอาณาจักรจ้าวที่ถูกจับกุม
จบแล้ว จบสิ้นแล้ว!
จบสิ้นทุกอย่างแล้ว!
ร่างกายของจ้าวจีเอ๋อร์เหมือนมะเขือยาวที่ถูกทุบด้วยน้ำแข็ง ความมั่นใจที่นางมีอยู่ในตอนแรกนั้นพลันหายไปจนหมดสิ้น
ฉินเหยียนสะบัดพัดและมองไปที่ทุกคนที่อยู่ในหออี๋หง
“นำทหารหน่วยกล้าตายของอาณาจักรจ้าวมาที่นี่ ข้าจะสอบปากคำเป็นการส่วนตัว!”
ในเวลานี้ องค์ชายใหญ่ฉินชงและเสนาบดีกรมอาญาเหมือนจะเข้าใจขึ้นมาเล็กน้อย
องค์ชายใหญ่ฉินชงถามด้วยความระแวดระวัง
“น้องสิบสี่ นี่มันเรื่องอะไรกัน?”
ฉินเหยียนโอบไหล่องค์ชายใหญ่ จับเขาให้นั่งลงบนเก้าอี้ พูดด้วยรอยยิ้มว่า
“เรื่องมันยาวมากพี่ใหญ่ แต่ในเมื่อวันนี้พี่ใหญ่ได้ตามข้ามาจนถึงครึ่งทางแล้ว ข้าจะยกความดีความชอบในวันนี้ให้ท่านครึ่งหนึ่งเสียแล้วกัน”
“พรุ่งนี้ที่ท้องพระโรง ข้าจะรายงานให้เสด็จพ่อฟังว่าเราสองพี่น้องได้ทำลายแผนการลับของอาณาจักรจ้าว”
องค์ชายใหญ่ฉินชงที่ดูเหมือนจะเข้าใจแต่ก็ไม่เข้าใจถามออกมาว่า
“อย่าบอกนะว่าความหมายที่เจ้าพูดว่าหออี๋หงนี้เป็นที่ที่อาณาจักรจ้าว...”
ฉินเหยียนพยักหน้าและหัวเราะ
“พี่ใหญ่ก็ยังเป็นพี่ใหญ่อยู่วันยังค่ำ ฉลาดจริงๆ!”
องค์ชายใหญ่ฉินชงมองไปรอบๆ ด้วยความสับสน
คนที่ถูกทหารชั้นดีจับกุมตัวนั้นมีแม่เล้าซ่ง บรรดาบริกร นางโลมที่ให้มาดูแลตอนดื่ม และบรรดาแขกทั้งหมด พวกเขา... พวกเขาทั้งหมดล้วนเป็นทหารหน่วยกล้าตายของอาณาจักรจ้าว!”
องค์ชายใหญ่ฉินชงยิ้มออกมาอย่างช้าๆ
“นี่ ข้าจะทำอย่างไรดี...”
ฉินเหยียนตบไหล่องค์ชายใหญ่ฉินชงและพูดอย่างมีน้ำใจว่า
“ไอหย่า พี่ใหญ่ พวกเราเป็นพี่น้องกัน จะกังวลเรื่องนี้ไปทำไมเล่า พรุ่งนี้รอรับรางวัลต่อหน้าเสด็จพ่อได้เลย!”
หลังจากพูดจบ ฉินเหยียนก็กลับมามีท่าทีเคร่งขรึม มองไปที่จ้าวจีเอ๋อร์ขึ้นลงและพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า
“ยอมรับแล้วหรือยัง? นางทาสของข้า?”
จ้าวจีเอ๋อร์เบือนหน้าหนี ไม่อยากจะเห็นหน้าเขา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์