องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 73

อาณาจักรจ้าวได้วางแผนการครั้งนี้มายาวนานเป็นเวลาถึงห้าปี หออี๋หงที่อาณาจักรจ้าวใช้เวลาถึงสามปีกว่าจะครอบครองให้เป็นฐานทัพของอาณาจักรจ้าวได้อย่างสมบูรณ์

สามารถรองรับทหารหน่วยกล้าตายได้ถึงสามร้อยคน ซึ่งพวกเขาเป็นทั้งทหารชั้นดีและนายพล

นางไม่คาดคิดว่าแผนการที่นางวางแผนมาอย่างบากลำบากนี้จะถูกฉินเหยียนที่อวดดีคนนี้กำจัดจนหมดสิ้น ซึ่งทำให้นางถึงกับหมดแรง

ฉินเหยียนพูดต่อว่า

“อ้อ ยังไม่ยอมรับอย่างนั้นหรือ? เช่นนั้นข้าจะทำให้เจ้ายอมรับข้าทั้งกายและใจ!”

เวลานี้ จ้าวจือหย่าและต้าจ้วงรีบเข้ามารายงานว่า

“อ๋องเหยียน ลานด้านหลังเหมือนจะมีบางอย่างผิดปกติ ท่านไปตรวจเสียหน่อยเถิดขอรับ!”

“นำทางข้าไป”

หลังจากพูดเช่นนั้น เขาไม่ลืมที่จะดึงองค์ชายใหญ่ที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยไปด้วย

“พี่ใหญ่ ไปกันเถอะ พวกเราไปดูด้วยกัน อ้อ ท่านเสนาบดีกรมอาญา ท่านเองก็ไปกับเราด้วย มาสิ!”

ต้าจ้วงและจ้าวจือหย่านำทางไปข้างหน้า ฉินเหยียนโอบองค์ชายใหญ่ที่ไม่เต็มใจให้เดินตามไป เสนาบดีกรมอาญาก็เดินตามไปติดๆ

เมื่อมาถึงลานด้านหลังของหออี๋หง ทั้งลานนั้นเต็มไปด้วยทหารหน่วยกล้าตายของอาณาจักรที่ถูกควบคุมตัวเอาไว้

ทางเข้าห้องใต้ดินลานด้านหลังมีทหารหน่วยกล้าตายกว่าสิบชีวิตถูกควบคุมตัวอยู่

ต้าจ้วงพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง

“อ๋องเหยียน นี่ขอรับ”

ความจริงแล้วไม่จำเป็นต้องมอง ฉินเหยียนก็พอเดาทุกอย่างได้แล้ว เขาโบกมือปัดแล้วออกคำสั่งว่า

“เปิดมัน”

ทหารชั้นดีก้าวไปข้างหน้าทันทีและดึงที่เปิดช่องเข้าไปยังห้องใต้ดินพร้อมกัน

“หนึ่ง สอง สาม ดึง!”

ขณะที่ทหารชั้นดีช่วยกันเปิดช่องห้องใต้ดินด้วยกันนั้น มีเสียง”ครืน” ดังขึ้น และห้องก็ถูกเปิดออก

ทันทีที่ห้องใต้ดินถูกเปิดออก ทุกคนที่อยู่ที่นั่นก็อดไม่ได้ที่จะตัวสั่น

เขารู้สึกได้ถึงลมหายใจเย็นๆ ล้อมรอบไปทั่วร่างกายของเขาในทันที ผสมกับกลิ่นเหม็นเน่าเปื่อยของซากศพปะทะขึ้นมา

“อุบ”

ทุกคนที่เห็นเหตุการณ์ต่างพากกันอาเจียนออกมา กลิ่นเหม็นเน่านั้นทำให้พวกเขาถึงกับต้องปิดจมูกและปิดปากอย่างรวดเร็ว

องค์ชายใหญ่ฉินชงปิดจมูกและพูดด้วยความรังเกียจว่า

“นี่มันกลิ่นอะไรกัน เหตุใดถึงได้เหม็นขนาดนี้?”

ฉินเหยียนจงใจแกล้งทำเป็นไม่รู้ ส่ายหัวแล้วพูดว่า

“ข้าเองก็ไม่รู้เช่นกันพี่ใหญ่ ทำไมท่านถึงไม่ลองดูเล่า?”

องค์ชายใหญ่ฉินชงส่ายหัวและพูดซ้ำไปซ้ำมาว่า

“สถานที่สกปรกเช่นนี้ องค์ชายอย่างข้าจะตรวจสอบได้อย่างไร”

ฉินเหยียนแกล้งทำตัวลึกลับและกระซิบข้างหูองค์ชายใหญ่ว่า

“พี่ใหญ่ หากท่านพี่ไม่ตรวจสอบดูว่ามีอะไรอยู่ข้างใน พรุ่งนี้เช้าท่านพี่จะอธิบายเรื่องทั้งหมดในหออี๋หงให้เสด็จพ่อฟังได้อย่างไรล่ะ?”

เดิมทีองค์ชายฉินลงมีความลังเลใจอยู่เล็กน้อย เขาถูกเลี้ยงประคบประหงมมาอย่างดีตั้งแต่เล็กจนโต สถานที่สกปรกเช่นนี้เขาจะเคยมาได้อย่างไร

แต่และเมื่อคิดถึงสิ่งที่ฉินเหยียนพูดก็ดูสมเหตุสมผล หากในวันพรุ่งนี้เสด็จพ่อถามเกี่ยวกับรายละเอียดล่ะ เขาต้องอธิบายอะไรออกไปได้บ้าง

สามารถจับทหารหน่วยกล้าตายของอาณาจักรได้มากถึงขนาดนี้ ถือว่าประความสำเร็จครั้งใหญ่ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่อาจให้เจ้าสิบสี่ได้ความดีความชอบที่ยิ่งใหญ่นี้แต่เพียงผู้เดียวแน่

เขาจึงพูดว่า

“น้องสิบสี่ ในเมื่อข้าเป็นพี่ชายเจ้า ข้าจะต้องทำให้ดูเป็นตัวอย่าง ให้ข้าได้ตรวจสอบเสียก่อน เจ้ารอข้าที่นี่เถิด”

ฉินเหยียนพูดตอบรับทันที

“พี่ใหญ่ก็คือพี่ใหญ่ ข้าขอชื่นชมท่าน เชิญเข้าไปดูเถิด!”

แม้เขาจะพูดออกไปเช่นนี้ แต่ในใจคิดจะรอดูว่าองค์ชายใหญ่ทำเรื่องน่าอายเช่นนี้อยู่แล้ว!

องค์ชายใหญ่ฉินชงเดินปิดจมูกเดินไปข้างหน้าอย่างกล้าหาญ ยิ่งเขาเข้าใกล้มากเท่าไหร่ ก็ยิ่งได้กลิ่นเนื้อที่เหม็นเน่ามากขึ้นเท่านั้น

เขาหยุดอยู่ปากทางเข้าห้องใต้ดินเพื่อระงับความปั่นป่วนในท้อง กลิ่นเหม็นเน่านั้นรุนแรงมากจนแสบตา

ในใจพูดกับตัวเองไม่หยุด

ไม่เหม็น กลับไปค่อยอาบน้ำก็ได้ เพื่อในวันพรุ่งนี้ข้าจะได้ความดีความชอบต่อหน้าเสด็จพ่อบ้าง!”

เขาหรี่ตา ก้มลงมองข้างในห้องใต้ดิน

แต่เมื่อองค์ชายใหญ่เห็นชัดเจนว่าในห้องใต้ดินนั้นมีอะไรอยู่ เขารู้สึกว่าหัวเขาแทบจะระเบิดออกมา เลือดไหลเวียนไปทั่วร่าง

ไม่สามารถระงับอาการคลื่นไส้ได้อีกต่อไป เขาโค้งตัวและอาเจียนออกมาในที่สุด

“โอ้ก โอ้ก...”

ฉินเหยียนกลั้นเสียงหัวเราะเอาไว้ เสนาบดีกรมอาญาถามอย่างเป็นกังวลว่า

“องค์ชายใหญ่ ท่านไม่เป็นอะไรใช่หรือไม่ขอรับ! เห็นชัดหรือไม่ว่าด้านในเป็นอะไร?”

องค์ชายใหญ่ฉินชงไม่อยากจะพูดออกมาด้วยซ้ำ เขาต้องการอาเจียนออกมาให้หมดท้อง

ฉินเหยียนบีบจมูกและพูดกับเสนาบดีกรมอาญาว่า

“ใต้เท้า ในเมื่อท่านอยากรู้นักว่าด้านในมีสิ่งใด ทำไมท่านถึงไม่ไปดูเองเล่า”

เสนาบดีกรมอาญามองไปที่ฉินเหยียนด้วยสายตาเหยียดหยาม เขาที่เป็นเสนาบดีกรมอาญา เขาเคยเห็นเหตุการณ์รุนแรงมานักต่อนักแล้ว แค่เรื่องวุ่นวายในห้องใต้ดินนี้จะทำอะไรเขาได้ ขณะที่เขาเดินไปยังทางเข้าห้องใต้ดิน เขาพูดออกมาว่า

“ในเมื่อองค์ชายสิบสี่ขี้กลัวจนหัวหด เช่นนั้นข้าจะทำให้เจ้าดูเอง...”

ดังคำสุภาษิตที่ว่า อยากรู้อยากเห็นมากเกินไปจะทำร้ายตนเองได้

เสนาบดีกรมอาญายังพูดไม่ทันจบ ภาพตรงหน้าทำให้เขาสัมผัสได้ถึงลมเย็นที่พัดมาจากด้านหลัง ภายในท้องของเขาเกิดความปั่นป่วนขึ้นมาทันที

“โอ้ก! โอ้ก...”

สภาพไม่ต่างกับองค์ชายใหญ่ฉินชงเลยแม้แต่น้อย โค้งตัวและอาเจียนออกมาเสียงดัง

ฉินเหยียนคิดเอาไว้แล้วว่าเสนาบดีกรมอาญาจะต้องมีปฏิกิริยาเช่นนี้ พูดตอกย้ำด้านข้างว่า

“ไอหย่า ใครๆ ต่างพูดว่าเสนาบดีกรมอาญาต่างมีความรู้ความสามารถมาก ไม่คิดว่าท่านจะมีสภาพเช่นนี้”

เสนาบดีกรมอาญาพูดอย่างฝืนใจว่า

“เจ้าหยุดประชดข้าได้แล้ว ถ้าเจ้าได้เห็นว่ามีอะไรในห้องใต้ดิน เจ้าก็คงไม่ได้ดีไปกว่าข้านักหรอก!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์