หอคอยนกกระเรียนแดงที่มีชื่อเสียงมากในอาณาจักรหลู่
เมื่อร้อยปีก่อน เดิมทีสถานที่แห่งนี้เป็นโรงแรมสำหรับนักเดินทางเพื่อมาพักผ่อน ต่อมาพวกนักวิชาการได้มาตั้งรกราก ณ ที่แห่งนี้
สูงต่ำมิอาจวัดค่าบรรพต หากมีเทพเซียนปรากฎย่อมเลื่องชื่อลือนาม ตื้นลึกไม่อาจวัดค่าผืนน้ำ หากมีมังกรประจำอยู่ย่อมศักดิ์สิทธิ์ไม่ธรรมดา
ทัศนียภาพที่นี่สวยงามมาก นักวิชาการผู้ยิ่งใหญ่คนนั้นได้สร้างอาควารสามชั้นที่นี่และตั้งชื่อว่าหอนกกระเรียนแดง ด้วยความสามารถของนักวิชาการทำให้หอแห่งนี้มีชื่อเสียงมากขึ้นเรื่อยๆ
ต่อมานักวิชาการคนนั้นเสียชีวิต และนักวิชาการจากอาณาจักรหลู่จำนวนมากมาที่นี่เพื่อตั้งรกรากและเขียนบทกวี ในแวดวงวัฒนธรรมอาณาจักรหลู่ถือว่าเป็นสถานที่น่าสนใจอยู่บ้าง
นอกจากนี้ยังเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์สำหรับนักวิชาการของอาณาจักรหลู่
ในเวลานี้ ฉินเหยียนกำลังเพลิดเพลินกับทิวทัศน์ในอาคาร
มีนักวิชาการหลายคนอยู่ในอาคารนั้น พูดเหน็บแนมเสียงดัง
“ให้ผู้หญิงเข้ามาที่โถงอาคารนี้ได้อย่างไรกัน? ช่างไร้อารยธรรมเสียจริง!”
หยางจิ่นซิ่วโต้กลับด้วยจิตใจที่กระฉับกระเฉงและมีชีวิตชีวา
“ข้าติดตามผู้หญิง พวกนางมีความจงรักภักดีและมีความกล้าหาญ ไม่เคยด้อยไปกว่าผู้ชายเลย ทหารที่ผ่านการต่อสู้เอาชีวิตไม่รอดมานับไม่ถ้วน บางคนยอมสละชีวิต และบางคนกลับมาได้รับชัยชนะในสิบปีต่อมา เจ้าเป็นใครถึงกล้ามาตัดสินข้า!”
“เจ้า เจ้า เจ้า เจ้ามันไม่มีความละอาย เป็นผู้หญิงเสียเปล่าไม่รู้จักอยู่บ้านดูแลสามีและลูก กลับกล้าพูดออกมาอย่างไร้ยางอายเช่นนี้ อ้างว่าสามารถต่อสู้และเอาชนะชุดเกราะมาได้ เจ้าเคยลงต่อสู้ในสนามรบหรือ เคยเห็นเลือดมาก่อนหรือ?”
หยางจิ่นซิ่วเผชิญหน้ากับเขาอย่างเย็นชา
“เจ้าพวกขี้ขลาด กล้าท้าทายข้าอย่างนั้นหรือ?”
เมื่อนักวิชาการหลายคนได้ยินดังนั้นพวกเขาก็โกรธจีด เตรียมลงมือจัดการ
“เฮ้ย วันนี้ลูกผู้ชายอย่างข้าขอไม่เชื่อว่าผู้หญิงสามารถพลิกโลกได้!”
“จัดการนาง!”
เขาพับแขนเสื้อขึ้นพร้อมจัดการหยางจิ่นซิ่ว ในเวลานี้หลิวเชียนเชียนกำลังมาถึงหน้าประตูอาคารพร้อมกับขอทาน บังเอิญเห็นนักวิชาการสองสามคนกรีดร้องและตกลงมาจากหน้าต่างชั้นสอง
หยางจิ่นซิ่วยืนอยู่ที่หน้าตาด้วยท่าทางแข็งแกร่งอย่างเช่นวีรบุรุษ มองดูนักชิการอย่างดูถูกและพูดอย่างกดดันว่า
“เจ้าพวกขี้ขลาสมควรแล้วที่มาเจอกับข้าสักตั้ง!”
ฉากนี้ขอทานมองไปด้วยความประหลาดใจ
“นายท่านที่พวกเจ้าพูดถึง คงไม่ใช่นางหรอกใช่หรือไม่?”
หลิวเชียนเชียนพูดอย่างเหยียดหยาม
“ไม่ใช่นาง นางเป็นองครักษ์ส่วนตัวนายท่าน”
ใจที่เป็นกังวลของขอทานค่อยๆ ผ่อนคลายลง เงยหน้าขึ้นมองหอนกกระเรียนแดงที่สง่างาม มีชายคนหนึ่งกำลังนั่งดื่มและอ่านบทกวีอยู่
“ยามรุ่งสางทหารกล้ามาพร้อมอาวุธ มายังสนามฝึก ชาวเมืองเต็มไปด้วยความทะเยอทะยาน ไม่ชอบเสื้อผ้าสีแดง แต่ชอบเล่นกับอาวุธ”
“แม้แต่เครื่องแบบทหารชุดขาวยังต้องเย็บเอง ดอกท้อกำลังผลิดอก มีชายแปลกหน้าหลายคนในโลกนี้ แต่ใครจะยอมเดินทางหลายพันลี้บนผืนทราย!”
กวีบทนี้สร้างแรงบันดาลใจจนอดไม่ได้ที่จะปรบมือ แต่จริงๆ แล้วเขียนขึ้นเพื่อยกย่องความกล้าหาญของผู้หญิง ทำให้ขอทานยากที่จะเอ่ยออกมา
“จิ่นซิ่ว เจ้าเก่งมาก มาดื่มเป็นเพื่อข้าเถิด!”
ฉินเหยียนอุ้มหยางจิ่นซิ่วไว้ในอ้อมแขนและดื่มอย่างมีความสุข โดยไม่สนใจสายตาคนอื่นเลยแม้แต่น้อย
หลิวเชียนเชียนรีบพาขอทานขึ้นไปชั้นบนเพื่อเข้าเฝ้าอ๋องเหยียน
“นายท่าน คนที่ท่านต้องการข้าหาตัวเจอแล้วเจ้าค่ะ”
ฉินเหยียนปล่อยตัวหยางจิ่นซิ่ว มองขอทานตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างสงสัย และพูดอย่างพอใจว่า
“ไม่เลว หน้าตาน่ารักใช้ได้”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...
หายไปนานเลยนะครับ..ถ้ามาลงให้ได้อ่านต่อจะขอบพระคุณมากครับกำลังสนุก...
ซื้ออ่านยังไงได้ครับ...
ขอบคุณที่ลงเพิ่มครับ เรื่องนี้สนุกครับ...
ขอบคุณที่มาต่อให้ได้อ่านนะครับขอบุคุณมากๆสนุกดี...
จาก 438 เริ่มขยับแล้วววว 😁😁😁...