ท่านแม่จู้ต้อนรับเหลียงซานป๋อที่มาสู่ขอด้วยตนเอง แววตาเต็มไปด้วยความดูถูก
“วันนี้เป็นวันดีที่ตระกูลหม่ามาสู่ขอ มอบสินสอดให้สามวันแล้วก็ยังไม่หมด จริงสิ ผู้ว่าราชการจังหวัดหม่าเหมือนว่าจะเป็นหัวหน้าของท่านเหลียงสินะ?”
เมื่อได้ยินดังนั้น สีหน้าของเหลียงซานป๋อก็ไม่สู้ดี
ท่านแม่จู้พูดต่อว่า “อาหารว่างบนโต๊ะนี้คือรังนกพุทราไข่มุกที่เชิญให้อาจารย์จากหางโจวมาทำโดยเฉพาะ เปลือกของมันทำจากไข่มุกบด คิดว่าเจ้าคงไม่เคยทาน ลองลิ้มลองดูสิ”
เหลียงซานป๋อทำตัวไม่ถูก เขาประสานมือคารวะพูดว่า “ท่านหญิง ข้าเพียงแค่อยากพบอิงถาย เหตุใดจึงต้องเย้ยหยันข้า?”
ท่านแม่จู้ทำเสียงเย็นชา “หากเจ้าไม่คุ้นชินกับสิ่งที่ข้ากล่าว แล้วต่อไปจะอดทนต่อการดูหมิ่นของผู้อื่นได้อย่างไร?”
เหลียงซานป๋อตั้งสติ สิ่งที่ท่านแม่จู้กล่าวมานั้นมีเหตุผล หากอยากจะสู่ขออิงถาย นับประสาอะไรกับเรื่องแค่นี้ เขาอดทนความไม่พอใจเอาไว้แล้วหยิบของว่างขึ้นมาทาน
เมื่อท่านแม่จู้เห็นว่าเหลียงซานป๋อมีความจริงใจจึงยอมให้คนรับใช้พาท่านเหลียงไปพบอิงถาย
เหลียงซานป๋อเดินไปตามที่คนรับใช้นำทาง ในที่สุดก็พบจู้อิงถายที่เขาคอยคิดถึง ที่สวมชุดหญิงสาวอยู่ ทั้งสองนั่งตรงข้ามกันที่ศาลาพักร้อน แววตาราวกับว่ามีความรักที่พูดไม่หมด แต่ก็เหมือนไม่มีอะไรพูด สุดท้ายก็พูดออกมาเพียงประโยคเดียวว่า
“ซานป๋อ เราหนีไปด้วยกันเถิด! ขอเพียงได้อยู่กับเจ้า ข้าอยู่ที่ใดก็ได้ คืนนี้ยามจื่อ ข้าจะรอเจ้าที่หลังบ้าน”
ทั้งสองตัดสินใจหนีตามกันโดยไม่สนวัฒนธรรมใดๆ และคำพูดเหล่านี้ก็ถูกท่านแม่จู้ได้ยินเข้า
คืนที่จะหนีตามกันไปมีฝนตกแรงและฟ้าแลบฟ้าผ่า จู้อิงถายรอไปทั้งคืน เหลียงซานป๋อก็ยังไม่มา แต่ผู้ชมด้านล่างเวทีเห็นอย่างชัดเจน
ในขณะจู้อิงถายยืนรออยู่ใต้ต้นไม้ทั้งคืน ข้างๆเวทีอีกฝั่งของกำแพง เหลียงซานป๋อก็ถูกลูกน้องตระกูลหม่าทุบตี เมื่อหญิงสาวหลายคนเห็นดังนั้นก็แทบจะวิ่งขึ้นไปบนเวทีลงไม้ลงมือกับพวกหมารับใช้พวกนั้น โชคดีที่ถูกผู้เฝ้าการแสดงห้ามเอาไว้จึงไม่ได้เกิดอุบัติเหตุขึ้น
การแสดงดำเนินต่อไป
ส่วนอีกฝั่งของกำแพงคือจู้อิงถายที่ตื่นตะลึง ส่วนอีกฝั่งคือเหลียงซานป๋อที่นอนขดตัวกับพื้นอย่างสะบักสะบอม
แสงไฟด้านหนึ่งสว่าง อีกด้านมืดลง เดี๋ยวจู้อิงถายก็ร้องไห้อยู่ใต้แสงเทียน เดี๋ยวเหลียงซานป๋อก็นอนป่วยอยู่กับเตียง ระหว่างทั้งสองคนมีกำแพงกั้นอยู่ ความจริงแล้วมันคือภูเขา คือระยะห่างที่ไกลที่สุดในโลก ดังที่ว่าเจ้าอยู่ห่างข้าเพียงเอื้อมมือ แต่กลับจะไม่ได้พบอีกตลอดชีวิต
จู้อิงถายสลดใจที่เหลียงซานป๋อไม่มาตามสัญญา จึงแตกหักกับตระกูลจู้อย่างสิ้นเชิง
“ข้าไม่แต่ง!”
“เจ้าไม่แต่งรึ? หนังสือที่เจ้าเล่าเรียนมาสอนให้เจ้าเนรคุณพ่อแม่งั้นรึ?”
ผู้ที่แสดงเป็นท่านพ่อจู้ได้แสดงความเข้มงวดและไร้เหตุผลของคนอาณาจักรหลู่ออกมาได้อย่างสมบทบาท และทำให้ผู้เป็นพ่อหลายๆคนเห็นตนเองในนั้น
“ร่างกายของเรา อวัยวะต่างๆผิวหนังและขน หรือผมต่างก็มาจากพ่อแม่ที่มอบให้ การแต่งงานเป็นอำนาจการตัดสินใจของพ่อแม่เสมอมา ไม่ได้ขึ้นอยู่กับเจ้าว่าจะแต่งหรือไม่ นี่คือสามัญสำนึก คือระเบียบ คือความเชื่อ คือประเพณี!”
จู้อิงถายพูดเรื่องที่ตกลงตัดสินใจแต่งงานกับเหลียงซานป๋อ จากที่แย่อยู่แล้วก็ยิ่งแย่กว่าเดิม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...
หายไปนานเลยนะครับ..ถ้ามาลงให้ได้อ่านต่อจะขอบพระคุณมากครับกำลังสนุก...
ซื้ออ่านยังไงได้ครับ...
ขอบคุณที่ลงเพิ่มครับ เรื่องนี้สนุกครับ...
ขอบคุณที่มาต่อให้ได้อ่านนะครับขอบุคุณมากๆสนุกดี...
จาก 438 เริ่มขยับแล้วววว 😁😁😁...