สถานศึกษาไป๋ลู่ การเทศนาบนยอดเขา บรรยากาศงดงามและสบาย บนยอดเขามีแสงอาทิตย์สาดส่อง ต้นไม้ดอกไม้ใบหญ้างดงามอุดมสมบูรณ์
บนยอดเขาแบ่งคร่าวๆ ออกเป็นสามส่วน ที่นั่งชมของคนทั่วไปจะเป็นหินประดับ เหล่านักเล่าเรียนต่างนั่งลงประจำที่ มีเพียงลูกศิษย์ของขุนนางเท่านั้นที่จะสามารถนั่งบนที่นั่งในศาลาพักร้อนได้
ตรงกลางมีแท่นกลมๆ บนนั้นวางหนังสือ กระถางธูป น้ำชาและอาหารว่าง ใครเป็นผู้กล่าวเทศนาก็ขึ้นไป ใกล้ๆยังมีทะเลสาบธรรมชาติด้วย ตรงกลางมีศาลาอยู่ ซึ่งมีคนอยู่ด้านในไม่มากนัก แต่ดูจากตั้งศาลาแล้ว คงจะมีไว้สำหรับแขกสำคัญ
ฉินเหยียนและเถาซงจือเพิ่งจะเดินเข้าไป ก็เห็นว่ามีนักเล่าเรียนหลายมากมาย พวกเขาต่างก็สวมชุดงดงาม มีกาลเทศะ พากันประสานมือคารวะทักทายแล้วนั่งประจำที่
เถาซงจือแนะนำเสียงเบาข้างๆฉินเหยียนว่า “คนผู้นั้นคือหลานชายของนักเขียนผู้ยิ่งใหญ่แห่งตระกูลโม่ในอาณาจักรหลู่ขอรับ เขามีตำแหน่งระดับที่สองในสถานศึกษาขอรับ”
“คนที่อยู่ข้างๆ เขาคือหลานชายของผู้มีความรู้ทางวรรณกรรมที่ยิ่งใหญ่ตระกูลหรู่ขอรับ เห็นเขาอายุน้อยๆเช่นนี้ เขามีตำแหน่งระดับสี่ในสถานศึกษาเชียวนะขอรับ”
“แล้วก็คนด้านหลังนั้น คือหลานชายของผู้มีความรู้ทางวรรณกรรมที่ยิ่งใหญ่ตระกูลซูขอรับ ระดับสี่เหมือนกันขอรับ”
เถาซงจือรู้จักที่มาที่ไปของเหล่านักผู้เล่าเรียนจากตระกูลขุนนางเหล่านี้เป็นอย่างดี เขาได้แนะนำทุกคนหนึ่งรอบว่ามีตระกูลขุนนางกี่ตระกูล และมีจำนวนลูกศิษย์ตระกูลขุนนางใหญ่กี่คน เหล่าลูกศิษย์นั่งตรงไหน อย่างเป็นละเอียด
เขาพูดเสียงเบาอยู่ข้างๆฉินเหยียนว่า “แม้ว่าท่านจะเป็นไป๋เสี่ยวเซิงระดับหนึ่ง แต่ท่านก็เป็นคนธรรมดา จึงต้องนั่งตรงหินประดับขอรับ”
ฉินเหยียนได้ยินเถาซงจือแนะนำแล้วถึงได้รู้ว่า ที่แท้สถานศึกษาอันสูงส่งก็ยังมีพิธีหยุมหยิมมากมาย
แต่เขาก็พูดอย่างไม่แยแสว่า “ไม่เป็นไร มนุษย์อยู่ในโลกใต้ท้องฟ้าและเหยียบพื้นกันทั้งนั้น นั่งตรงไหนก็ได้”
เมื่อเถาซงจือได้ยินแบบนั้นก็ตกตะลึงมาก สมแล้วที่เฉิงอาหนิวเป็นไป๋เสี่ยวเซิงระดับหนึ่ง ทั้งคำพูดและกิริยาช่างใจกว้างยิ่งนัก ช่างน่านับถือจริงๆ
เขาเห็นว่าเฉิงอาหนิวเดินไปยังหินก้อนหนึ่ง กำลังสะบัดชายเสื้อจะนั่งลงไป จึงได้รีบห้ามว่า “รอเดี๋ยวขอรับ”
“มีอะไรรึ?”
เถาซงจือรีบเดินไปแล้วใช้แขนเสื้อของตนเองเช็ดฝุ่นบนก้อนหิน จากนั้นก็ถอดเสื้อนอกแล้วปูบนก้อนหิน แล้วจึงพูดว่า
“เชิญนั่งขอรับ”
การกระทำนี้ทำให้ฉินเหยียนรู้สึกอบอุ่นใจ เมื่อมองเถาซงจือที่เป็นคนเรียบง่ายแล้ว ฉินเหยียนก็ไม่อาจปฏิเสธน้ำใจของเขาได้ จึงได้นั่งลงอย่างไม่เกรงใจและพูดว่า
“ขอบใจมาก”
เถาซงจือพูดอย่างเคารพว่า “เป็นสิ่งสมควรขอรับ”
เพราะยังไม่ถึงเวลากล่าวเทศน์ ทั้งสองจึงนั่งรออยู่ตรงนี้
......
ในขณะเดียวกัน
คนรับใช้กลุ่มหนึ่งล้อมอยู่หน้าประตูสถานศึกษา และใช้ไม้ชี้ไปยังผู้ที่มาเยือนพร้อมตะคอกว่า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...
หายไปนานเลยนะครับ..ถ้ามาลงให้ได้อ่านต่อจะขอบพระคุณมากครับกำลังสนุก...
ซื้ออ่านยังไงได้ครับ...
ขอบคุณที่ลงเพิ่มครับ เรื่องนี้สนุกครับ...
ขอบคุณที่มาต่อให้ได้อ่านนะครับขอบุคุณมากๆสนุกดี...
จาก 438 เริ่มขยับแล้วววว 😁😁😁...