จ้าวเหวินเซิงพูดออกมาเช่นนี้ ซือหม่าจี๋ถึงกับอึ้งไป เขาขนลุกชันไปทั้งตัว
เขาไม่เคยเข้าใจเรื่องนี้มาก่อน ตามเอกสารทั้งหมด นักปราชญ์ส่วนใหญ่สามารถทำให้ดอกบัวทองคำบานได้แค่สามดอกเท่านั้น
แต่เฉิงอาหนิวทำให้ดอกบัวทองคำทั้งเก้าดอกบานได้ ซึ่งถือว่าเป็นเหตุการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
หลังจากได้ยินประโยคที่จ้าวเหวินเซิงพูดออกมา เขาตระหนักได้ว่าหากดอกบัวทั้งเก้าเป็นตัวแทนของเจ็ดอาณาจักรในจิ่วโจวนี้ เป็นนักปราชญ์ด้านวรรณกรรมจากอาณาจักรหลู่ ถือว่าเป็นเรื่องสมเหตุสมผล
จ้าวเหวินเซิงถอนหายใจและพูดว่า
“ตอนที่ผู้ดูแลหอหลิวนำตัวจ้าวจือหย่ากลับมาส่งให้ ทำให้เกิดเรื่องวุ่นวายในอาณาจักรหลู่ หากเฉิงอาหนิวเป็นอ๋องเหยียนแห่งอาณาจักรฉินจริงๆ ข้ากลัวว่าอาณาจักรหลู่อาจจะเกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้น”
ซือหม่าจี๋พูดเสียงเบาลงไปอีก
“ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้เขาเป็นนักปราชญ์จิ่วเหลียนแล้ว อีกทั้งเขายังมีชื่อเสียงด้านการรบในอาณาจักรหลู่ มีนักเรียนกว่าพันคนคอยสนับสนุนเขา สิ่งที่เราทำได้ในตอนนี้คือรอดูความเปลี่ยนแปลง”
จ้าวเหวินเซิงขมวดคิ้ว
“ในเมื่อท่านผู้อาวุโสไม่ยอมให้จัดการเขา เราจะแก้ไขวิกฤตนี้อย่างไรดี?”
ซือหม่าจี๋มีสีหน้าเคร่งขรึม
“ก่อนที่ข้าจะกลับมาใช้วิธีการทำนายอนาคต หากแก้ไขไม่ได้ เช่นนั้นท่านผู้อาวุโสจะใช้วิธีต้องห้ามแล้ว”
สิ้นประโยคนั้น ทั้งสองจมอยู่ในความเงียบ รู้สึกว่าทัศนคติทั้งสามด้านพังทลายลงอย่างสิ้นเชิง สมองเขาไม่อาจประมวลผลอย่างอื่นได้อีกแล้ว
อีกอย่างประเด็นสำคัญนั่นคือ คงจะดีเสียกว่าหากตั้งแต่แรกเขาไม่รู้ว่าเฉิงอาหนิวคืออ๋องเหยียนแห่งอาณาจักรฉิน เพราะเฉิงอาหนิวเป็นเพียงคนธรรมดา ไม่มีภูมิหลังอะไรที่พิเศษ หากฮ่องเต้หลู่สังหารเขา เขาก็ไม่ได้ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงมาก
เลือดนักปราชญ์หยดลงสู่ผืนดิน อาจทำให้เกิดความแห้งแล้งเป็นเวลาสามปีเท่านั้น แต่ท้องพระคลังในอาณาจักรหลู่มีเสบียงอาหารเต็มแล้ว ดังนั้นภัยพิบัติเล็กน้อยนี้จึงไม่ส่งผลกระทบอะไรมากนัก
แต่ถ้าเฉิงอาหนิวคืออ๋องเหยียนแห่งอาณาจักรฉินจริงๆ ท่านผู้อาวุโสเดาว่า กองทัพทหารต้องบุกเข้าโจมตีเขา ด้วยกำลังและความสามารถด้านการต่อสู้ของอาณาจักรฉิน เช่นเดียวกับชื่อเสี่ยงของอ๋องเหยียนแห่งอาราจักรฉิน หากเขาตายไป ทุกพื้นที่ต้องเต็มไปด้วยเลือดอย่างแน่นอน
เมื่อถึงเวลานั้น ไม่เพียงแต่อาณาจักรหลู่เท่านั้น แต่รวมถึงอาณาจักรอื่นด้วยที่อาจถูกทำลายและฝังไปด้วยกัน จิ่วโจวจะเหมือนไฟล้างชำระโลก
พวกเขาทั้งสองดื่มเหล้าและนั่งถอนหายใจตลอดทั้งคืน
ซือหม่าจี๋ถอนหายใจเป็นครั้งคราว
“อาณาจักรฉินเป็นศัตรูที่แข็งแกร่ง หากเขาไม่ลงมือ แต่เมื่อเขาลงมือเขาสามารถทำลายโลกใบนี้ได้เลย”
จ้าวเหวินเซิงยิ่งทำอะไรไม่ถูกมากกว่าเดิม
“สตรีที่อยู่ข้างกายอ๋องเหยียนได้รับการฝึกฝนอย่างแข็งแกร่ง ไม่ต้องพูดถึงคนในตำหนักอ๋องเหยียนนับล้านคนนั้นเลย”
ซือหม่าจี๋ถอนหายใจยาว และพูดอีกว่า
“ตามรายงานล่าสุดของสำนักไป๋เสี่ยวเซิง ตอนนี้ในตำหนักอ๋องเหยียนมีจำนวนสมาชิกเกือบห้าล้านคนแล้ว”
“ว่าอย่างไรนะ?”
ห้าล้าน สำหรับจ้าวเหวินเซิงแล้วนั้นเป็นตัวเลขที่เป็นไปไม่ได้ นั่นทำให้เขาทำอะไรไม่ถูก
“เป็นได้หรือไม่ว่าคนในอาณาจักรฉินจะเป็นศิษย์ผู้ภักดีในตำหนักอ๋องเหยียน”
ซือหม่าจี๋ยิ้มเยือกเย็นและตอบว่า
“ไม่เพียงแค่อาณาจักรฉินเท่านั้น แต่ยังรวมถึงอาณาจักรจ้าวด้วย คนที่จงรักภักดีต่ออ๋องเหยียนนั้นอยู่ทุกหนทุกแห่ง”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...
หายไปนานเลยนะครับ..ถ้ามาลงให้ได้อ่านต่อจะขอบพระคุณมากครับกำลังสนุก...
ซื้ออ่านยังไงได้ครับ...
ขอบคุณที่ลงเพิ่มครับ เรื่องนี้สนุกครับ...
ขอบคุณที่มาต่อให้ได้อ่านนะครับขอบุคุณมากๆสนุกดี...
จาก 438 เริ่มขยับแล้วววว 😁😁😁...