ฉินเหยียนประสานมือคารวะพูดอย่างเคารพว่า
“ท่านพ่อตาวางใจเถิด ข้าเป็นคนถือสัจจะ ท่านมีเงื่อนไขอะไรก็ว่ามาได้เลย”
จ้าวเหวินเซิงลูบเคราแล้วพูดอย่างจริงจังว่า “ตอนนี้ข้านึกเงื่อนไขสองอย่างได้ อย่างแรกคือเจ้าห้ามออกจากอาณาจักรหลู่ในระยะเวลาห้าปี”
เมื่อได้ยินเช่นนั้นฉินเหยียนก็ถามตรงๆว่า “นี่คิดจะกักบริเวณข้ารึ?”
จ้าวเหวินเซิงไม่คิดว่าฉินเหยียนจะพูดตรงขนาดนี้ จึงรีบพูดว่า “เปล่า เจ้าก็ว่ามาเถิดว่าทำได้รึไม่?”
ฉินเหยียนไม่ได้ตอบกลับทันที แต่ถามต่อว่า “แล้วเงื่อนไขที่สองล่ะ?”
จ้าวเหวินเซิงพูดอย่างจริงจังว่า “ข้าต้องการให้เจ้าสร้างเมืองที่รุ่งเรืองยิ่งกว่าเซียนตูภายในห้าปี ถือเป็นการตอบแทนที่อาณาจักรหลู่คอยปกปักรักษาตระกูลจ้าวของข้า”
ฉินเหยียนตะลึง ตระกูลจ้าวคือราชวงศ์ที่ถูกเนรเทศและตกต่ำ และได้รับการปกปักรักษาจากผู้อาวุโสแสนศักดิ์สิทธิ์ของอาณาจักรหลู่ จึงได้อยู่รอดจนถึงทุกวันนี้
ที่จ้าวเหวินเซิงขอเช่นนี้ เห็นได้ชัดว่าได้คิดจะยืนข้างเดียวกับเขาแล้ว แม้บุญคุณเท่าน้ำหยดเดียว ก็จะตอบแทนดุจสายธาร ใช้เมืองที่รุ่งเรืองกว่าเซียนตูมาคืนบุญคุณของอาณาจักรหลู่ ก็สมกับเป็นตระกูลจ้าว
“ไม่มีปัญหา อยู่ที่อาณาจักรหลู่ห้าปี สร้างเซียนตูแห่งที่สองในอาณาจักรหลู่ นี่คือเรื่องแรก แล้วเรื่องที่สองที่ต้องการขอคืออะไร?”
จ้าวเหวินเซิงจิบชาแล้วอึ้งไป เขารู้สึกคิดตามไม่ทัน นี่เขาเข้าใจว่าคือเรื่องเดียวรึ หรือก็คือเขายังมีเงื่อนไขอีกสองประการ
จ้าวเหวินเซิงลังเลแล้วพูดตามที่ต้องการว่า “เงื่อนไขที่สองของข้าก็คือ ข้าหวังว่าเจ้าจะสั่งสอนความรู้ ความเข้าใจ ความสามารถทั้งหมดให้สืบต่อไป เมื่อเข้าใจแล้วต้องรู้จักสอนผู้อื่น เมื่อได้มีแล้วต้องรู้จักมอบให้ผู้อื่น เมตตาต่อผู้คน ช่วยผู้อื่นแล้ว ผู้อื่นก็จะช่วยเราเช่นเดียวกัน นี่คือวิถีการสืบทอด”
“อย่าทำตามอัตวิสัยโดยไม่คำนึงถึงสภาพความเป็นจริง เปิดรับศิษย์มากขึ้น อบรมสั่งสอนในอาณาจักรหลู่ เจ้าสามารถทำได้รึไม่?”
ฉินเหยียนรู้สึกดีใจทันที คิดสิ่งใดสิ่งนั้นก็มาหาเลยนะเนี่ย เขาจะได้ถือโอกาสใช้ข้ออ้างรับศิษย์ในการรับสมัครคนไปช่วยเขาพัฒนาเมือง เขาตอบกลับทันทีว่า
“ความคิดนี้ตรงใจข้ายิ่งนัก ข้าขอตกลง!”
“เจ้ามั่นใจรึ?” จ้าวเหวินเซิงมึนงงไป
ดังคำกล่าวที่ว่า สอนศิษย์รู้วิชาแล้วตนเองอดตายแทน แม้แต่สถานศึกษายิ่งใหญ่ทั้งสี่แห่งอาณาจักรหลู่ ต่อให้จะอบรมสั่งสอนก็ต้องมีการปิดบังอยู่บ้าง มีเพียงตอนก่อนตายที่จะยอมเปิดเผยความรู้ความสามารถที่แท้จริงของตนเอง
แต่เขากลับไม่คิดแล้วตอบตกลงเลย ยอมสอนให้เช่นนี้ คงไม่ได้โกหกข้าหรอกนะ?
“ในเมื่อเจ้าตกลง เช่นนั้นก็ต้องทำให้ได้อย่างที่พูดเอาไว้ ห้ามมีการปิดบัง ต้องถ่ายทอดความรู้ให้ทุกอย่าง”
ฉินเหยียนประสานมือคารวะพูดว่า “ท่านพ่อตาวางใจเถิด ข้าจะอบรมสั่งสอนสิ่งที่ข้ารู้ทุกอย่างอย่างสุดความสามารถ ถ่ายทอดจนหมด ขอสาบานที่นี่ว่าจะไม่ปิดบังใดๆ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...
หายไปนานเลยนะครับ..ถ้ามาลงให้ได้อ่านต่อจะขอบพระคุณมากครับกำลังสนุก...
ซื้ออ่านยังไงได้ครับ...
ขอบคุณที่ลงเพิ่มครับ เรื่องนี้สนุกครับ...
ขอบคุณที่มาต่อให้ได้อ่านนะครับขอบุคุณมากๆสนุกดี...
จาก 438 เริ่มขยับแล้วววว 😁😁😁...