องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 81

สรุปบท ตอนที่ 81 ไม่จบไม่สิ้น: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์

สรุปเนื้อหา ตอนที่ 81 ไม่จบไม่สิ้น – องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ โดย Namfon

บท ตอนที่ 81 ไม่จบไม่สิ้น ของ องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ ในหมวดนิยายโรแมนติกโบราณ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Namfon อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

ฉินเหยียนยิ้มแย้มแล้วเลิกคิ้ว ท่าทีราวกับว่าหากติดตามเขาจะต้องได้ดีตามแน่นอน จึงได้พูดเสียงเบาว่า “พี่ใหญ่ รีบคุกเข่ารับรางวัลสิ”

องค์ชายใหญ่ฉินชงรีบคุกเข่าลงแล้วทำคารวะแล้วพูดว่า “ลูกขอบพระทัยในความกรุณาของท่านพ่อพ่ะย่ะค่ะ!”

ฮ่องเต้ฉินโบกมือแล้วพูดว่า “รีบลุกขึ้นเถิด พวกเจ้าสองพี่น้องร่วมมือกัน เป็นแบบอย่างให้แก่เหล่าองค์ชายอื่นๆ สามารถตรวจสอบจนพบอุบายของอาณาจักรจ้าวได้ ข้ารู้สึกยินดีอย่างยิ่ง!”

ทั้งสองพูดพร้อมกันว่า “ขอบพระทัยท่านพ่อที่ชื่นชมพ่ะย่ะค่ะ”

ฮ่องเต้ฉินพูดต่ออีกว่า “เสนาบดีกรมอาญา จากที่เหยียนเอ๋อร์กล่าวมา ในการจับกุมไส้ศึกอาณาจักรจ้าวเจ้าเองก็ได้ลงแรงเช่นกันสินะ?”

เสนาบดีกรมอาญาคุกเข่าลงกับพื้นเสียงดัง แล้วรีบทำมือคารวะแล้วพูดว่า “ข้าน้อยไม่บังอาจจะรับความดีงามนี้พ่ะย่ะค่ะ ไส้ศึกอาณาจักรจ้าวซ่อนตัวอยู่ในหมู่ชาวเมืองอาณาจักรฉินเช่นนี้ แต่ข้ากลับไม่ทันสังเกต เป็นความบกพร่องของข้าน้อยเอง ฝ่าบาทเชิญลงโทษเถิดพ่ะย่ะค่ะ!”

ฮ่องเต้ฉินจับคางแล้วพูดช้าๆว่า “การที่อาณาจักรจ้าวสามารถส่งไส้ศึกเข้ายังเมืองหลวงอาณาจักรฉินได้แต่เจ้ากลับไม่สังเกตเห็น ก็เป็นความบกพร่องของเจ้าจริงๆ”

เมื่อเสนาบดีกรมอาญาได้ยินดังนั้นก็คิดว่าตนเองต้องถูกตัดหัวแน่นอน เขาตกใจกลัวจนตัวสั่นไปหมด แล้วพูดด้วยน้ำเสียงสั่นคลอนว่า “ข้าน้อยรู้ถึงความผิดพ่ะย่ะค่ะ!”

ฮ่องเต้ฉินพูดอย่างเข้มงวดว่า “ถือว่าเจ้ายังรู้ตัว ในเมื่อเช้านี้เจ้าได้ทำการจับกุมไส้ศึกอาณาจักรจ้าวทั้งหมดแล้ว คุณโทษเท่ากัน ไม่ลงโทษและไม่มีรางวัล!”

เสนาบดีกรมอาญากราบหลายครั้งแล้วพูดว่า “ฝ่าบาทข้าน้อยยอมพลีชีพเพื่อทำภารกิจให้สำเร็จพ่ะย่ะค่ะ ในวันข้างหน้าจะต้องสร้างผลงานอันดีให้ได้พ่ะย่ะค่ะ!”

ฮ่องเต้ฉินพยักหน้าอย่างพอใจ เสนาบดีกรมอาญาคือคนเก่าคนแก่ของเขา มีความจงรักภักดีต่อเขาอย่างไม่ต้องสงสัย ไส้ศึกอาณาจักรจ้าวนั้นทั้งเจ้าเล่ห์และมีไหวพริบ ไม่ทันสังเกตเห็นก็ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ หากต้องลงโทษคนฝีมือดีเพราะเรื่องนี้ ก็คงทำร้ายจิตใจของเขามากเกินไป

หากจะต้องลงโทษ งั้นไม่ตกรางวัลให้จะดีกว่า จะทำให้เขารู้สึกดีกว่ามาก

เมื่อบรรยากาศถึงจุดนี้แล้ว ฉินเหยียนก็ใช้โอกาสนี้พูดตรงๆว่า “ท่านพ่อ ในเมื่อท่านรู้สึกว่าลูกมีคุณงามความดีในครั้งนี้ งั้นลูกก็ขอโอหังโดยการขอรางวัลกับท่านอย่างไร้ยางอายสักอย่างพ่ะย่ะค่ะ”

“โอหังนัก!” เมื่อพูดดังนั้นแล้ว เหล่าขุนนางฝ่ายบู๊และฝ่ายบุ๋นก็ประชดประชันว่า

“ฝ่าบาทได้เลื่อนขั้นให้เป็นอ๋องระดับสองแล้ว แต่องค์ชายสิบสี่กลับยังโลภมาก ช่างไร้ยางอายยิ่งนัก”

“หึ กับผลงานแค่นั้นก็อยากได้นั่นอยากได้นี่ ช่างหน้าด้านหน้าทนเสียจริง”

“เมื่อวานก็ขอดาบชื่อเซียวกับฝ่าบาทอย่างไม่เกรงใจ วันนี้คงไม่ได้คิดจะขอตำแหน่งชูจุนจากฝ่าบาทเลยหรอกนะ?”

“ข้าว่านะ ไม่มีเรื่องอะไรที่เขาทำไม่ได้หรอก”

เจ้าสิบสี่มักจะทำให้เขารู้ประหลาดใจอย่างคาดไม่ถึง ฮ่องเต้ฉินเองก็สงสัยว่าเขาอยากขอรางวัลอะไร แต่ว่าต่อหน้าขุนนางมากมายขาดนี้ ก็ไม่อาจแสดงออกมาได้ จึงพูดอย่างจริงจังว่า

“เหยียนเอ๋อร์ ข้าได้มอบรางวัลเลื่อนขั้นอ๋องระดับสองแก่เจ้าแล้ว เจ้าไม่ชื่นชอบรางวัลนี้งั้นรึ?”

ฉินเหยียนรีบอธิบายทันทีว่า “การได้รับความกรุณาจากท่านพ่อ ต้องเป็นเรื่องที่ผู้อื่นต้องอิจฉามากอยู่แล้วพ่ะย่ะค่ะ ลูกชื่นชอบอย่างมากพ่ะย่ะค่ะ”

คำพูดเหล่านี้ยิ่งทำให้เหล่าขุนนางฝ่ายบู๊และฝ่ายบุ๋นมีโอกาสในการประชดประชัน

องค์ชายใหญ่ฉินชงเองก็ไม่คิดว่าเจ้าสิบสี่กำลังขอรางวัลให้กับเขา ตอนนี้ใบหน้าของเขาแดงก่ำเพราะความซาบซึ้งตื่นเต้น น้องสิบสี่ เป็นพี่เองที่เข้าใจเจ้าผิดไป!

ฮ่องเต้ฉินเองก็ไม่คิดว่าความสัมพันธ์ของทั้งสองคนจะดีมากขนาดนี้ พี่น้องรักใคร่กลมเกลียวกัน ทำประโยชน์ให้แก่ราชสำนักด้วยกัน ในฐานะท่านพ่อแล้วเขารู้สึกดีใจอย่างมาก

“ข้ามองพวกเจ้าไม่ผิดจริงๆ ข้าอนุมัติ!”

องค์ชายใหญ่ฉินชงตะลึงอย่างมาก! เขารีบขอบพระทัยทันที “ขอบพระทัยความกรุณาของท่านพ่อพ่ะย่ะค่ะ ลูกจะทำตามบัญชาแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ!”

เมื่อพูดอย่างฮึกเหิมและเลือดร้อนมาก ไม่อาจเปิดเผยความองอาจผึ่งผายในใจได้ ตอนนี้ฉินชงอยากจะปฏิบัติให้ดีเท่านั้น อยากจะสร้างผลงานเพื่อพิสูจน์ตัวเอง

มีคนดีใจก็ต้องมีคนไม่พอใจ

สีหน้าขององค์ชายคนอื่นๆไม่พอใจนัก ทุกคนไม่พอใจแต่ไม่กล้าพูดอะไร โกรธจนกำหมัดแน่นกัดฟันกรอก

องค์ชายแปดโกรธจนแทบจะระเบิดอยู่แล้ว เขาฉินอู่ ท่านแม่เป็นถึงฮองเฮา ต้องทำการวางแผนหลายปีเพื่อให้เขามารับผิดชอบในพระราชสำนักได้ กว่าจะได้เป็นผู้บังคับการหน่วยป้องกันเมือง ขุนนางขั้นสามระดับสูง

เจ้าสิบสี่ฉินเหยียน ก้าวแรกก็ได้เป็นเสนาบดีหงหลูซื่อ ขุนนางขั้นสามระดับล่าง

แล้วพี่ใหญ่ฉินชงที่เอาแต่เล่นเครื่องดนตรีและท่องบทกลอนบทกวีมาตลอด กลับได้เริ่มก้าวแรกที่ขุนนางขั้นสามระดับล่างจะกลั่นแกล้งกันเกินไปแล้ว

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์