องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 83

ฉินเหยียนพูดอย่างไม่สนใจว่า “พี่แปดอย่าโกรธไปสิ แล้วทหารของพี่ก็ยินยอมจะไปกับข้าเอง ข้าไม่ได้บังคับพวกเขาเสียหน่อย อีกอย่างข้าคงต้องชื่นชมพี่เสียหน่อยแล้ว ทหารที่พี่ฝึกฝนมาฝีมือยอดเยี่ยมจริงๆ แต่ละคนฝีมือดีทั้งนั้น ครั้งนี้เพราะมีพวกเขาเลยนะเนี่ย ไม่เช่นนั้นคงจับกุมไส้ศึกอาณาจักรจ้าวไม่ได้มากมายเพียงนี้!”

เมื่อพูดดังนั้นแล้วยังจงใจคารวะอีกด้วย “ขอบใจนะพี่แปด!”

องค์ชายแปดฉินอู่กัดฟันแน่นจนฟังจะแตกแล้ว ไม่จำเป็นต้องให้เขามาชมเลย นั่นคือทหารหัวกะทิที่เขาฝึกฝนด้วยตนเองทุกวันเชียวนะ เพื่อที่วันหนึ่งจะได้แสดงความแข็งแกร่งให้แก่ท่านพ่อได้ชื่นชม

แต่ใครจะรู้ว่าเจ้าฉินเหยียนจะเข้ามาชุบมือเปิบเช่นนี้ แย่งไปหน้าด้านๆ เขาทนไม่ได้จริงๆ “อย่าได้ใจไปนักเลย ทหารหัวกะทิเหล่านั้นก็แค่เกรงกลัวต่อดาบชื่อเซียวของเจ้าเท่านั้น เจ้าคิดจริงๆรึว่าพวกเขาจะยอมสยบต่อเจ้าจริงๆ?”

“อย่าลืมเชียวว่าพวกเขาคือองครักษ์ของข้า เพียงแค่ข้ากระดิกนิ้วพวกเขาก็จะยังคงเชื่อฟังข้าเช่นเดิม”

......

เมื่อพูดดังนั้นแล้ว เหล่าทหารหัวกะทิที่อยู่ไกลถึงหออี๋หง ที่กำลังชื่นชมอ๋องเหยียนว่ากล้าหาญมากแค่ไหน และดีกับพวกเขาอย่างไร ก็ได้จามแล้วขยี้จมูก จากนั้นก็พูดอย่างตะลึงว่า

“ตอนนี้ข้ายอมสละชีวิตให้แก่อ๋องเหยียนได้เลย นับถือจริงๆเขาอย่างมากเลยล่ะ”

“เมื่อก่อนตอนที่ติดตามองค์ชายแปดไม่เคยได้รับการปฏิบัติดีๆเช่นนี้เลย”

“ข้าจะบอกให้นะ เมื่อวานพวกเจ้าอยู่นอกห้องไม่ได้เห็นตอนที่อ๋องเหยียนถือดาบตัดศีรษะของบริกรนั่น......”

......

ฉินเหยียนแคะหูอย่างไม่แยแส “พี่แปด เมื่อครู่ท่านพ่อเพิ่งจะบอกว่าให้พี่ช่วยเหลือข้าและพี่ใหญ่ทำคดีความ ก็หมายความว่าทหารของพี่ก็คือของข้า ต่อให้พี่จะแยกไม่ออกก็ช่วยไม่ได้นี่ หรือพี่จะไม่เชื่อฟังพระราชโองการของท่านพ่อ”

องค์ชายใหญ่ฉินชงหลุดหัวเราะออกมา เจ้าสิบสี่ช่างพูดจริงๆ คนทั่วไปคงไม่อาจเถียงเขาชนะจริงๆ

องค์ชายแปดฉินอู่เดิมทีก็โกรธจนสีหน้าไม่พอใจอยู่แล้ว ตอนนี้กลับยังถูกองค์ชายใหญ่ที่เขาดูถูกมากที่สุดหัวเราะเยาะอีก เขาจึงใช้หอกชี้ไปยังองค์ชายใหญ่ทันที

“พี่ใหญ่ ยังจะหัวเราะออกมาได้อีกนะ พี่รู้ไหมว่าความดีความชอบที่ท่านพ่อมอบให้พี่ในวันนี้เดิมทีเป็นควรเป็นของข้า!”

ก่อนที่ฉินเหยียนจะแสดงฝีมือออกมาอย่างชัดเจน องค์ชายใหญ่ฉินชงก็ได้เห็นองค์ชายแปดเป็นศัตรูคู่อริของเขาแล้ว ตอนนี้เจ้าแปดอยากจะทำให้มันแตกหัก งั้นเขาก็จะสนองให้ จึงได้โต้กลับว่า

“เจ้าแปด ใช่ว่าข้าอยากจะว่าเจ้าหรอกนะ เจ้ารู้สึกไม่ยุติธรรมแล้วเหตุใดจึงไม่ทูลท่านพ่อในพระราชสำนักล่ะ ตอนนี้พระราชสำนักเลิกแล้วมากำเริบเสิบสานอะไรต่อพวกข้า”

“อีกอย่างข้าเป็นพี่ใหญ่ของเจ้า เจ้าเป็นโอรสของฮองเฮาแล้วยังไง แต่ข้าเป็นโอรสคนโต ต่อไปจะพูดอะไรก็ให้มีความเกรงใจกันบ้าง ไม่เช่นนั้นอย่าหาว่าพี่ใหญ่ไม่เห็นความเป็นน้อง!”

องค์ชายแปดฉินอู่กัดฟันกรอก ก็แค่โอรสของพระสนมร่วมมือกัน ยังกล้าจะทำตัวโอหังใส่เขาอีก เขากัดฟันแล้วพูดว่า “หึหึ ในเมื่อพี่ใหญ่รู้สึกว่าตนเองมีอำนาจพอที่จะกล้าท้าทายข้า งั้นเราจะได้เห็นดีกัน!”

องค์ชายใหญ่ฉินชงพูดด้วยสีหน้านิ่งว่า “น้องแปดปฏิบัติหน้าที่ของตนอย่างซื่อสัตย์ โดยช่วยเหลือข้าและน้องสิบสี่เรื่องคดีความให้เรียบร้อยก่อนจะดีกว่า!”

“เจ้า!”

ทั้งคู่จ้องตากันเป็นมัน บรรยากาศเต็มไปด้วยความจิตสังหาร

ฉินเหยียนมองไปรอบๆ ปฏิกิริยาในตอนนี้ของทั้งคู่เป็นผลลัพธ์ที่เขาต้องการ แต่ตอนนี้จะแสดงออกชัดเจนมากไม่ได้ เขาจึงปรับสถานการณ์ให้ดีขึ้น

“พี่ใหญ่ พี่แปด ใจเย็นๆกันก่อน เราก็เป็นพี่น้องกันทั้งนั้น ไม่จำเป็นต้องทำถึงขนาดนั้นหรอก ข้าจะไปดื่มกับพี่ใหญ่ พี่แปดจะไปกับพวกข้ารึไม่?”

องค์ชายแปดฉินอู่แววตาเป็นไปด้วยความโกรธ เขาพูดอย่างเหยียดหยามว่า “ดื่มบ้าอะไรล่ะ ใครอยากจะดื่มเหล้าเน่าๆของเจ้า!”

องค์ชายใหญ่ฉินชงโอบไหล่ของฉินเหยียนแล้วจงใจชนองค์ชายแปด จากนั้นก็พูดอย่างดูถูกว่า “อย่างกับใครอยากจะดื่มกับเจ้า ไปกันเถอะน้องสิบสี่ เราดื่มให้เมากันดีกว่า”

องค์ชายแปดกำหมัดแล้วมองแผ่นหลังที่จากไปของทั้งคู่ เขาโกรธจนกำหมัดแน่น

“เจ้าสิบสี่ที่ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงก็น่าเกลียดมาพอแล้ว ตอนนี้พี่ใหญ่ยังจะร่วมกับมันอีก งั้นก็อย่าโทษข้าละกัน!”

......

หออี๋หง

เมื่อเหล่าทหารหัวกะทิเห็นว่าอ๋องเหยียนกลับมาแล้ว ทุกคนก็ทำความเคารพอย่างกระตือรือร้น

“ยินดีต้อนรับกลับพ่ะย่ะค่ะอ๋องเหยียน”

“ลุกขึ้นเถิด” ฉินเหยียนเดินผ่านแล้วยกมือขึ้นทักทาย “ล้วนเป็นสหายกันไม่จำเป็นต้องเกรงใจข้าถึงเพียงนั้น”

องค์ชายที่ไม่วางมาดเช่นนี้มีน้อยมาก นั่นทำให้เหล่าทหารหัวกะทิยิ่งชื่นชมเขาด้วยความจริงใจ

ต้าจ้วงก้าวขึ้นมารายงานว่า “รายงานพ่ะย่ะค่ะอ๋องเหยียน ด้านหออี๋หงเป็นไปด้วยดีพ่ะย่ะค่ะ”

“ทำได้ดี เฝ้าระวังต่อไป หากมีบุคคลน่าสงสัยให้รีบรายงานข้าทันที”

“พ่ะย่ะค่ะ!”

จ้าวจือหย่าได้ยินเสียงแล้วก็รีบเดินมาทันที นางทำความเคารพ “เข้าเฝ้าอ๋องเหยียนเพคะ เข้าเฝ้าองค์ชายใหญ่เพคะ”

ฉินเหยียนรีบโอบเอวบางของจ้าวจือทันที “เหนื่อยหน่อยนะหญิงงาม ยกเหล่าและอาหารขึ้นมา ข้าและองค์ชายใหญ่จะดื่มกันเสียหน่อย”

จ้าวจือหย่าได้จัดเตรียมอาหารไว้เรียบร้อยแล้ว จึงได้เชิญทั้งสองมานั่ง แถมยังรินเหล้าให้อย่างรู้งานและยกอาหารมาวางให้ด้วย

ฉินเหยียนยิ่งมองจ้าวจือหย่าก็ยิ่งชอบนาง หญิงสาวโบราณที่อ่อนโยนและมีปัญญา มันได้สะท้อนตัวนางอย่างชัดเจน

องค์ชายใหญ่ฉินชงได้ดื่มเหล้าหมดจอกทันที เขายังคงรู้สึกโกรธที่องค์ชายแปดพูดไม่ให้ความเคารพเขา

“เจ้าแปดไม่เห็นข้าอยู่ในสายตาเลยจริงๆ ในเมื่อเขาไร้ความเมตตา ก็อย่าหาว่าข้าไม่แยแสต่อเขาละกัน!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์