อาณาจักรฉิน
เมืองจิ่วโจวกำลังจัดงานประชุมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีครั้งยิ่งใหญ่ขึ้น
งานประชุมนี้มุ่งเน้นไปที่การพัฒนาความเป็นอยู่ของประชาชน หลังจากได้รับข่าว ประชาชนจากทั่วทุกมุมโลกได้เดินทางมายังจิ่วโจวเพื่อเข้าร่วมงานประชุม
เพื่อให้งานประชุมเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและราบรื่น อาณาจักรฉินไม่ลังเลเลยที่จะทุ่มเงินจำนวนมากเพื่อสร้างพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีขนาดใหญ่ขึ้น
พื้นที่อาคารของพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมีขนาดใหญ่เท่ากับสนามฟุตบอลเกือบสิบสนาม รูปแบบการตกแต่งสถานที่เต็มไปด้วยหลักวิทยาศาสตร์มากมาย ทำให้ผู้คนรู้สึกเหมือนได้เข้ามาอีกโลกหนึ่ง
การประชุมมีคณะกรรมการทั้งหมดสี่คนได้แก่ จางอวิ๋นซู คนดูแลการค้า ฟางเจาจวิน คณบดีวิทยาลัยนักศึกษาต่างชาติ หลินเย้าจู๋ เจ้าหน้าที่อันดับหนึ่งกรมทหาร อวี๋เจา ผู้อำนวยการด้านทอผ้า
ก่อนการประชุมจะเริ่มต้นขึ้น ทั้งสี่คนรวมตัวกันอยู่ในด้านใน นอกจากพูดคุยเรื่องแนวคิดด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแล้ว สงครามระหว่างสามอาณาจักรยังเป็นที่พูดถึงกันอีกด้วย
“กั๋วฮวายคนนี้เหมือนหมาบ้า เขาตามรังควาญทุกคนที่เขาต้องการ อีกทั้งยังก่อปัญหาไปทั่วจิ่วโจว!”
“ใช่น่ะสิ ชายเสียสติคนนี้กล้าแย่งชิงบัลลังก์และมีท่าทีหยิ่งยโส ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง!”
“อาณาจักรเยี่ยนโจมตีอาณาจักรหลู่และอาณาจักรจ้าว เหตุใดอาณาจักรฉินถึงไม่ส่งกองทัพทหารออกไปเล่า? เห็นๆ กันอยู่ว่าอาณาจักรจ้าวและอาณาจักรหลู่เป็นรัฐบรรณาการอาณาจักรฉิน อาณาจักรฉินควรส่งกองกำลังออกมาช่วยเหลือสิ”
“ตอนนี้อาณาจักรฉินแข็งแกร่งที่สุดในเจ็ดอาณาจักร เป็นเรื่องง่ายสำหรับเขาที่จะทำลายอาณาจักรเยี่ยน แต่ตอนนี้เขากลับไม่ยื่นมือเข้าไปช่วย มันหมายความว่าอย่างไรกัน?”
“ใช่ว่าพวกเจ้าไม่รู้ แม้ว่าอาณาจักรฉินจะแข็งแกร่งแค่ไหน แต่เขาสนใจแต่เรื่องพัฒนาความเป็นอยู่ของประชาชน ไม่ได้ให้ความสำคัญด้านกำลังทหาร เพราะเขาตั้งใจจะส่งเสริมเรื่องสันติภาพให้กับโลกนี้”
“ในความคิดข้า อาณาจักรฉินควรทำลายอาณาจักรเยี่ยน รอดูว่ากั๋วฮวายยังจะกล้ายโสโอหังอีกหรือไม่!”
ผู้คนจากทั่วทุกมุมโลกพูดคุยเรื่องนี้กันอย่างกระตือรือร้น และต่างประณามอาณาจักรเยี่ยนที่จ้องทำลายสันติภาพ
ขณะที่การประชุมกำลังจะเริ่มต้นขึ้น มีรถยนต์คันหนึ่งขับเข้ามา
ฉีเยี่ยนเอ๋อร์ที่นั่งอยู่ในรถ เป็นตัวแทนราชวงศ์มาร่วมงานประชุมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
หลังจากที่รถจอดในตำแหน่งที่วางแผนเอาไว้ หัวหน้าขันทีก็ลงมาเปิดประตูรถให้ฉีกุ้ยเหรินทันที
“ฉีกุ้ยเหรินมาแล้ว!”
สถานที่ที่แต่เดิมมีเสียงดัวไปทุกทิศ ในเวลานี้กลับเงียบกริบ
ทุกคนต่างทำความเคารพ
“เข้าเฝ้าฉีกุ้ยเหริน!”
ฉีเยี่ยนเอ๋อร์แต่งกายด้วยเสื้อผ้าที่งดงาม ศีรษะมีปิ่นปักผมสีทองปักอยู่ นางลงมาจากรถอย่างสง่าผ่าเผย เดินก้าวขึ้นไปบนแท่นอย่างเฉิดฉาย เดินไปยังพรมแดง
หลังจากที่พบเจอกับทุกคนแล้ว ฉีเยี่ยนเอ๋อร์อ้าแขนแล้วพูดอย่างมีราศีเจิดจ้าว่า
“ทำตัวตามสบายได้!”
“ขอบพระทัยฉีกุ้ยเหริน!”
หลังจากทุกคนนั่งลงแล้ว ฉีเยี่ยนเอ๋อร์ก็พูดเปิดพิธีว่า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...
หายไปนานเลยนะครับ..ถ้ามาลงให้ได้อ่านต่อจะขอบพระคุณมากครับกำลังสนุก...
ซื้ออ่านยังไงได้ครับ...
ขอบคุณที่ลงเพิ่มครับ เรื่องนี้สนุกครับ...
ขอบคุณที่มาต่อให้ได้อ่านนะครับขอบุคุณมากๆสนุกดี...
จาก 438 เริ่มขยับแล้วววว 😁😁😁...