ไม่รอให้หยุนหว่านหนิงพูดตอบ เต๋อเฟยก่นด่าโครมๆว่า “เจ้าหลอกลวงข้า?”
“นี่เป็นลูกใครกันแน่? ไหนบอกว่าเด็กคนนั้นรูปร่างหน้าตาเหมือนเยว่เอ๋อร์ไม่ใช่หรือ ลูกก็รู้ว่าไม่ใช่ลูกชายของเยว่เอ๋อร์?”
“หยุนหว่านหนิง เจ้าอยากตายใช่ไหม?”
ด้วยความโกรธ เต๋อเฟยไม่ได้ควบคุมเสียง ทำให้เด็กบนเตียงตกใจตื่น
ภายใต้ความมืด เด็กน้อยร้องเรียกขึ้นมาอย่างหวาดกลัวว่า “แม่?”
“เอ้อ แม่อยู่นี่”
หยุนหว่านหนิงรีบเข้าไปใกล้ โอบกอดเด็กน้อยที่ตกใจตื่นไว้แนบอก พร้อมพูดปลอบอย่างอ่อนโยนว่า “แม่อยู่นี่ ลูกนอนหลับให้สบาย ไม่มีอะไรแล้ว”
แต่หลังจากที่ตกใจตื่น เด็กน้อยก็นอนไม่หลับแล้ว
หยุนหว่านหนิงจำต้องสั่งหรูเยียนจุดไฟ
ภายในห้องสว่างไสว สีหน้าเต๋อเฟยเขียวปัด จ้องมองดูหยุนหว่านหนิงโอบกอดเด็กน้อยไว้อย่างดุดัน
“หยุนหว่านหนิง คืนนี้เจ้าจะอธิบายให้ข้าฟังยังไง?”
นางกัดฟันอย่างโกรธโมโห
ดึกดึนค่ำคืนแบบนี้ นางตั้งใจออกจากวังมาหาหลานชายสุดที่รักของนาง
ที่ไหนได้ เด็กคนนี้ไม่เหมือนตามที่โม่เฟยเฟยบอกเลยว่าหน้าตาเหมือนโม่เยว่ ใบหน้าของเขาไม่เหมือนโม่เยว่เลยสักนิด
ตอนนี้จุดไฟสว่างแล้ว เต๋อเฟยยิ่งมองเห็นใบหน้าของเด็กคนนั้นชัดเจนขึ้น
เด็กคนนี้ซบกอดหยุนหว่านหนิงไว้แน่น ราวกับตกใจอย่างมาก
มีเพียงดวงตาคู่หนึ่งเท่านั้นที่เผยให้เห็นถึงความหวาดกลัว สายตาที่มองดูเต๋อเฟย....เกรงกลัวอย่างบอกไม่ถูก
ราวกับมองเห็นถึงสิ่งที่น่ากลัว
รูปร่างหน้าตาไม่เพียงไม่เหมือนโม่เยว่ ยังไม่เหมือนหยุนหว่านหนิงด้วยซ้ำ
ยังมีลักษณะท่าทีนั้น สายตาที่หวาดกลัว....ดูยังไงก็ไม่เหมือนเด็กที่เติบโตอยู่ในจวนอ๋อง
“ตกลงนี่เกิดอะไรขึ้น?”
นางถามขึ้นมาอย่างขุ่นเคือง
อาจเป็นเพราะเสียงดังไป สีหน้าน่ากลัว เด็กในอ้อมอกหยุนหว่านหนิง หลังจากสั่นเทาสักพักก็ร้องไห้ออกมา
มีความกล้าเพียงแค่นี้
สีหน้าเต๋อเฟยไม่พอใจ
“เสด็จแม่ ข้าบอกเจ้าแล้ว เด็กคนนี้ไม่ใช่ลูกท่านอ๋อง”
หยุนหว่านหนิงกอดปลอบเด็กไปด้วย ขมวดคิ้วพูดไปด้วยว่า “ท่านไม่เชื่อเอง ดึกขนาดนี้แล้วทำให้เด็กร้องไห้ตกใจ”
ประโยคสุดท้าย แฝงไปด้วยความตำหนิ
เต๋อเฟยโกรธจัด พร้อมพูดขึ้นว่า “เจ้าตำหนิข้า?”
“ลูกไม่กล้า”
ถึงจะพูดเช่นนี้ สายตาหยุนหว่านหนิงที่มองดูนางเต็มไปด้วยความตำหนิ ไม่เห็นถึงความไม่กล้าเลย
เต๋อเฟยโกรธจนแทบเป็นลม
“เจ้า เจ้า.....หยุนหว่านหนิง เจ้าอย่าคิดว่าตอนนี้เจ้ามีฮ่องเต้คอยปกป้อง แล้วเจ้าจะไม่เห็นข้าอยู่ในสายตา เจ้าถึงขั้นกล้าพูดกับข้าแบบนี้?”
“เสด็จแม่ ลูกห่วงใยท่าน เมื่อกี้ก็พูดเตือนแล้ว ท่านไม่ฟังเอง จะมาดูเด็กให้ได้”
หยุนหว่านหนิงกอดเด็กน้อย ขมวดคิ้วมองดูนาง พร้อมพูดขึ้นว่า “ตอนนี้กลับพูดว่าในสายตาลูกไม่มีท่าน?”
“คำพูดนี้ไม่ว่าต่อหน้าเสด็จพ่อ หรือต่อหน้าท่านอ๋อง ลูกก็ไม่ผิด”
มองดูนางโต้เถียงอย่างไม่ยอมแพ้ เต๋อเฟยยิ่งโกรธจนตัวสั่น
“เจ้า....เจ้า.....”
มองดูเหมือนนางจะโกรธจนแทบเป็นลม หลี่หมัวมัวกับเซี่ยอี่วรีบประคองนางไว้ พร้อมพูดขึ้นว่า “เต๋อเฟยเหนียงเหนียงอย่าโกรธ ร่างกายสำคัญกว่า”
เซี่ยอี่วพูดปลอบเต๋อเฟย
หลี่หมัวมัวรีบพูดกับหยุนหว่านหนิงว่า “พระชายา ท่านพูดน้อยหน่อยเถอะ”
“ข้าไม่อยากพูดมาก”
หยุนหว่านหนิงก้มหน้า กล่อมเด็กน้อยให้หลับด้วยเสียงนุ่มนวล
เต๋อเฟยถูกทิ้งเพิกเฉยอยู่ด้านข้าง โกรธโมโหอยู่สักพักค่อยกัดฟันพูดออกมาว่า “ข้าจะคอยดู ครั้งนี้เยว่เอ๋อร์ที่เข้าข้างเจ้ายังไง”
“พวกเรากลับ”
พาเซี่ยอี่วกับหลี่หมัวมัว ผลักประตูออกไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อนงค์ใจพระชายาราชสีห์
อัพใหม่เถอะค่ะ...
เมื่อไรจะอัพเพิ่มคะ ฮือ รอนานมากแล้วววว...
อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ บทที่ 353 - 430 หายไปไหน หายยาววววมากกกก...
รอตอนต่อไปจ้า...
สนุกดีอ่านแล้วขำ 555...