ในคืนนั้นเอง หยุนหว่านหนิงเพิ่งจะรับตัวเจ้าก้อนแป้งกลับมาถึงจวน ฉินซื่อเสวียก็มาที่จวนทันที
เต๋อเฟยคงจะเชื่อว่าโก่วต้านก็คือหยวนเป่า ดังนั้นย่อมจะไม่มาที่จวนอ๋องหมิงอีก หยุนหว่านหนิงจึงรู้สึกวางใจ รับตัวหยวนเป่ากลับมา
พอได้ยินว่าฉินซื่อเสวียมาแล้ว.....
นางรีบสั่งให้หรูเยียนดูแลหยวนเป่า จากนั้นก็ลุกขึ้นเดินตรงไปที่ห้องโถงใหญ่
แน่นอนว่าไม่ผิดไปจากที่คิดไว้ โม่เยว่ก็กลับมาแล้วเช่นกัน
เมื่อเห็นนางเข้ามา ฉินซื่อเสวียก็ลุกขึ้นยืนก่อน มองนางด้วยรอยยิ้มเต็มใบหน้า "พระชายาหมิง เงื่อนไขที่เจ้าเคยพูดไว้ก่อนหน้านี้ ข้าทำมันได้สำเร็จแล้ว"
"เจ้าขโมยป้ายคำสั่งมาได้แล้วรึ?"
หยุนหว่านหนิงเดินเข้ามาใกล้
ขโมย?
คำนี้พอเอามาใช้แล้ว ฟังดูไม่สละสลวยเอาเสียเลย!
ฉินซื่อเสวียกระแอมเบา ๆ “ข้าได้รับป้ายคำสั่งมาแล้ว”
"รองแม่ทัพอู๋เป็นคนมอบให้เจ้ากับมือเลยรึ?"
"ไม่ใช่……"
“แล้วนั่นยังไม่เรียกว่าขโมยอีกรึ?”
หยุนหว่านหนิงเดินไปนั่งลงข้าง ๆ โม่เยว่ "ข้าล่ะสงสัยจริง ๆ ว่าพระชายาหยิงขโมยมันมาได้ยังไง? ไม่ใช่ใคร ๆ ก็บอกหรือ ว่ารองแม่ทัพอู๋คนนั้นเป็นคนที่ระแวดระวังเป็นที่สุดน่ะ?"
นางเอาแต่ย้ำซ้ำ ๆ ว่าป้ายคำสั่งนั้นถูกขโมยมา นี่ทำให้ฉินซื่อเสวียรู้สึกกระอักกระอ่วนใจอย่างมาก
"ในส่วนที่ว่าได้รับมันมาอย่างไรนั้น เจ้าไม่จำเป็นต้องกังวลหรอก"
นางกัดฟันกรามหลังดังกรอด ๆ วางป้ายคำสั่งลงบนโต๊ะ "เอาเป็นว่าพูดแบบสรุปสั้น ๆ คือ ข้าได้ป้ายคำสั่งมาแล้ว สิ่งที่เจ้าพูดไว้ก่อนหน้านี้ คงจะยังเชื่อถือได้ใช่ไหม?"
"ความจริงใจที่ข้ามีต่อท่านพี่เย่ว เจ้าคงจะไม่คิดสงสัยแล้วสินะ?"
โม่เยว่ชำเลืองมองไปทางหรูโม่แวบหนึ่ง
เขาก้าวขึ้นไปข้างหน้าเพื่อหยิบป้ายคำสั่งมา แล้วยื่นส่งให้กับโม่เยว่
หลังจากตรวจสอบอย่างละเอียดแล้ว พบว่าป้ายคำสั่งนี้เป็นของจริง จึงหันไปพยักหน้าให้หยุนหว่านหนิง
"ดูเหมือนว่าพระชายาหยิง จะมีความจริงใจต่อท่านอ๋องของข้าอย่างแท้จริง! แน่นอนว่าข้าย่อมไม่มีความสงสัยใด ๆ อีก"
หยุนหว่านหนิงยิ้มกว้าง หยิบป้ายคำสั่งจากมือของโม่เยว่มาลูบ ๆ คลำ ๆ "แต่ถึงอย่างไร ตอนนี้พระชายาหยิงก็ยังเป็นนายหญิงของจวนอ๋องหยิงอยู่ดี เจ้าขโมยป้ายคำสั่งมาแบบนี้ ถ้าอ๋องหยิงกลับมาแล้วเจ้าจะตอบคำถามเขาว่าอย่างไรล่ะ?"
"เรื่องนี้เจ้าไม่ต้องเป็นกังวลไปหรอก"
ฉินซื่อเสวียเลิกคิ้วขึ้น "ข้าย่อมมีวิธีแก้ปัญหาของข้าเอง"
“มันจะไม่เป็นอันตรายต่อท่านอ๋องของข้าใช่ไหม?”
น้ำเสียงที่หยุนหว่านหนิงใช้บังคับถาม แฝงความยกตนข่มท่านอยู่ในที "เจ้าคงจะไม่หันหลังปุ๊บก็ตรงเข้าวัง ไปทูลฟ้องเสด็จพ่อว่าท่านอ๋องของข้าเป็นคนขโมยป้ายคำสั่งของอ๋องหยิงไปหรอกนะ?"
"เจ้า……"
ฉินซื่อเสวียโมโหจนหน้าดำหน้าแดง
ผ่านไปอึดใจใหญ่ ๆ นางค่อยเค้นเสียงพูดลอดไรฟันออกมาได้สองประโยคว่า "เรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องให้เจ้านึกเคลือบแคลงสงสัย! ข้าไม่ใช่คนไร้ยางอายแบบนั้น!"
"ถ้าอย่างนั้นข้าก็สบายใจแล้วล่ะ"
หยุนหว่านหนิงยื่นป้ายคำสั่งไปให้โม่เยว่ "ท่านอ๋อง ในเมื่อพระชายาหยิงอุตสาห์ลำบากช่วยขโมยมันมาให้เจ้าทั้งที เจ้าก็เก็บมันไว้เถอะ ไม่เอาก็เสียไปเปล่า ๆ เลยนะ"
ฉินซื่อเสวีย : "..."
เล่นพูดแบบนี้ต่อหน้านางเลย มันดีแล้วจริง ๆ รึ? !
“พระชายาหยิง ความจริงใจของเจ้าพวกเราได้รับรู้แล้ว! เจ้าวางใจเถอะ”
หยุนหว่านหนิงยืนขึ้น เดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าของฉินซื่อเสวีย ตบที่ไหล่นางเบา ๆ แล้วพูดว่า "นับจากนี้ไป จวนอ๋องหมิงจะเป็นที่หลบภัยของเจ้า"
ใบหน้าของนางเคร่งเครียดจริงจัง "ต่อให้หยุนธิงหลานรังแกเจ้า ข้าก็จะไม่เอาแต่นิ่งดูดายอย่างเด็ดขาด"
ฉินซื่อเสวียค่อยรู้สึกวางใจได้ในที่สุด ถอนหายใจด้วยความโล่งอกชนิดที่ไม่ให้ใครได้เห็นร่องรอย
นางไม่ตอบอะไรกลับ แต่หันไปมองโม่เยว่ที่อยู่ข้างหลังนาง "ท่านพี่เยว่..."
“กลับไปก่อนเถอะ เพื่อไม่ให้คนอื่นนึกสงสัย”
โม่เยว่พูดด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก
แต่น้ำเสียงกลับค่อนข้างฟังดีกว่าเมื่อก่อนที่เคยเย็นชาไม่แยแสอะไร ซึ่งนี่ทำให้ในใจฉินซื่อเสวียรู้สึกดีขึ้นมาได้บ้าง
ขอแค่พวกเขายอมเชื่อก็ดีมากแล้ว!
ฉินซื่อเสวียจึงกลับออกไป
เมื่อเห็นสีหน้าอยากรู้อยากเห็นเต็มแก่ของหยุนหว่านหนิง โม่เยว่ค่อยเอ่ยปากขึ้นมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า "หรูโม่ไปสืบมาแล้ว เป็นจิ้งจอกเฒ่าฉินตงหลินนั่นยื่นมือเข้าช่วย จนได้ป้ายคำสั่งมา"
“เจ้าส่งคนไปตามสะกดรอยฉินซื่อเสวีย?”
หยุนหว่านหนิงเลิกคิ้วขึ้นด้วยความประหลาดใจ "ไม่ใช่ว่าเจ้าเอาแต่เรียกตัวเองว่าสุภาพบุรุษผู้อยู่ในทำนองคลองธรรมหรอกรึ? ทำไมถึงทำเรื่องแบบนี้ได้ล่ะเนี่ย?"
โม่เยว่ถึงกับเบื้อใบ้พูดอะไรไม่ออก
"ฉินตงหลิน? แล้วเขาทำยังไงถึงได้รับป้ายคำสั่งมาจากรองแม่ทัพอู๋ล่ะ?"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อนงค์ใจพระชายาราชสีห์
อัพใหม่เถอะค่ะ...
เมื่อไรจะอัพเพิ่มคะ ฮือ รอนานมากแล้วววว...
อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ บทที่ 353 - 430 หายไปไหน หายยาววววมากกกก...
รอตอนต่อไปจ้า...
สนุกดีอ่านแล้วขำ 555...