อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ นิยาย บท 157

เห็นแต่บนกำแพงด้านหลังพวกเขา มีเด็กตัวน้อยพาดตัวอยู่คนหนึ่ง

กำแพงด้านหลังตระกูลกู้ขาดการบำรุงซ่อมแซมหลายปี เมื่อครู่หยวนเป่าปีนขึ้นไป ไม่ทันระวังเหยียบกระเบื้องสีแดงแตก พอหันตัวกระเบื้องแผ่นนั้นก็ตกลงไป...“เพล้ง” เสียงใส

เสียงนี้ทำให้หยุนหว่านหนิงและโม่เยว่ตกใจแยกออกจากกันพลัน

หยวนเป่ารู้ว่าตัวเอง ‘ก่อเรื่อง’ แล้ว

จึงรีบหดหัววางแผนจะกระโดดลงไป ใครจะรู้ว่าเขาจะเหยียบพลาดอีก จึงได้แต่พาดตัวอยู่กับกำแพง

หยุนหว่านหนิงอดเอามือประคองหน้าผากไม่ได้

นางไม่รู้ว่าบุตรชายอายุสามขวบบ้านคนอื่นก็ซุกซนเช่นนี้หรือไม่

เจ้าก้อนแป้งบ้านนาง สามขวบก็ปีนกำแพงได้แล้ว ทั้งยังเข้าใจความรู้สึกมากกว่านางมาก...เห็นหยวนเป่าพาดตัวอยู่กับกำแพงน่าสงสาร อย่างไรก็ลงมาไม่ได้แล้ว หยุนหว่านหนิงรู้สึกเพียงน่าขันยิ่งนัก

“ท่านแม่ท่านขำอะไร!”

เห็นนางหัวเราะ หยวนเป่าจึงฮึดฮัดไม่พอใจ “ข้าคือเป็นห่วงพวกท่านต่างหาก!”

“กลัวว่าพวกท่านเจอกันก็จะตีกัน ก็เลยมาแอบดู!”

“ข้าลงไปไม่ได้แล้ว ท่านยังหัวเราะข้าอีก นี่ข้าใช่ลูกที่ท่านคลอดหรือไม่! ข้าคือลูกที่ท่านเก็บมาจากถังขยะกระมัง”

ปากน้อยๆ ของหยวนเป่าพูดออกมาเป็นพรวน มองนางด้วยความอัดอั้นตันใจ

หยุนหว่านหนิงยังไม่ได้พูด เห็นโม่เยว่กระโดดอุ้มเขาลงมาจากกำแพง

เข้าอุ้มหยวนเป่าแน่น ตำหนิด้วยใบหน้าจริงจัง “หยวนเป่า บนนั้นอันตรายมาก! เจ้าเป็นเด็กจะปีนสูงอย่างนั้นไม่ได้ หากตกลงมาจะทำอย่างไร”

ท่านอ๋องผู้หยิ่งทะนงเย็นชาในยามปกติ ยามนี้กลายเป็นบิดาเมตตาขี้บ่นแล้ว

“รู้แล้ว”

หยวนเป่าเบะปาก “เช่นนั้นข้าจะกลับห้องหนังสือก่อน! ถ้าท่านตาทวดหาข้าไม่เจอจะร้อนใจอีก”

เมื่อครู่เขาอ้างว่าจะเข้าห้องน้ำ จึงออกมาจากห้องหนังสือได้

ในเมื่อทั้งสองปกติดี เขาก็วางใจกลับไปได้แล้ว

กระทั่งหยวนเป่าเข้าประตูแล้ว หยุนหว่านหนิงจึงมองโม่เยว่อย่างน่าขัน พกพาความเหน็บแนมในสายตานิดๆ “ข้ายังจำได้ มีคนเคยพูด ใต้ไม้เรียวได้ผู้มีความสามารถ ยังว่าอะไรอีกนะ หยวนเป่าคือเด็กชาย จะปล่อยปละเอาใจเกินไปไม่ได้”

“เมื่อกี้ก็ไม่รู้ว่าเป็นใครสินะ ตกใจจนหน้าผากผุดเหงื่อเย็นแล้ว! กลัวหยวนเป่าจะผมร่วงหนึ่งเส้น!”

โม่เยว่ “...คือข้า”

“คือข้าทั้งนั้น”

เขารู้อยู่แล้วเชียว ว่านางคนนี้ต้องหัวเราะเยาะเขาแน่!

แต่แล้วจะทำไม

ก็เขารักหยวนเป่านี่!

หากใครกล้าทำร้ายหยวนเป่า เขาก็จะเอาชีวิตมัน!

“ตามข้ากลับจวนอ๋อง”

โม่เยว่ไม่เจรจากับนางมาก เพียงแต่เอื้อมมือมาฉุดนาง

หนนี้หยุนหว่านหนิงต่อต้าน

นางปัดมือของโม่เยว่ออก เริ่มบ่น “ทำอะไร จะทำอะไร! มาฉุดกระชากต่อหน้าธารกำนัล มีอย่างที่ไหน”

“ข้าคือสามีเจ้า”

โม่เยว่ทำหน้าตึง “ลากเจ้าแล้วจะอย่างไร”

“ข้ายังมีธุระ ไม่ต่อล้อต่อเถียงกับเจ้าแล้ว”

หยุนหว่านหนิงฮึเบาๆ ทีหนึ่ง เดินผ่านตัวเขาไป

ทีแรกโม่เยว่คิดจะตามไป แต่รู้ว่านางมีไหวพริบยอดเยี่ยม

หากถูกนางพบ...

เขาได้ยินสาเหตุที่เต๋อเฟยมีปากเสียงกับกู้ป๋อจ้งเมื่อคืนนี้มาแล้ว หากหยุนหว่านหนิงรู้ว่าเขาส่งคนตามนางไป จะต้องเข้าใจผิดแน่

ถึงตอนนั้นก็จะบอกว่าเขาไม่เชื่อใจนาง สงสัยว่านางประพฤติชั่วอยู่ข้างนอก

หลังจากใคร่ครวญ โม่เยว่ก็เลิกล้มความคิดที่จะส่งคนตามนางไป

เขาแหงนหน้ามองขอบฟ้าทีหนึ่ง สายแล้ว ดังนั้นจึงเข้าวังไปประชุมเช้า

มีหยวนเป่าผีน้อยจอมซนคนนี้รับมืออยู่ อีกทั้งท่าทีของหยุนหว่านหนิงในวันนี้ก็คล้ายว่าผ่อนคลายลงบ้างแล้ว

การจะรับตัวพวกเขาแม่ลูกกลับจวนอ๋องก็น่าจะอีกไม่นานแล้ว

วันนี้เช้าหน่อย

พอหลังเที่ยง หยุนหว่านหนิงก็ขึ้นภูเขาหยุนอู้แล้ว

ยามนี้เสวียนซันเซียนเซิงผู้ ‘ท่วงท่าเซียนกระดูกเต๋า’ ที่คนเล่าขาน กำลังนอนไขว่ห้างอาบแดดอยู่บนก้อนหิน ข้างลำตัวมีไก่อยู่ตัวหนึ่ง

ไม่เพียงแต่เขาที่นอนอาบแดด ไก่ตัวนั้นก็ถูกบังคับให้นอนอาบแดดอยู่ด้านข้างเขาด้วย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อนงค์ใจพระชายาราชสีห์