อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ นิยาย บท 159

มือของหยุนหว่านหนิงบีบอยู่ตรงลำคอเขาแล้ว

แต่พอได้ยินคำพูดของเสวียนซันเซียนเซิง นางก็รีบเก็บมือกลับมา “จริงหรือ!”

เขาไม่ลงเขา แต่พาตัวซ่งจื่ออวี๋ลงเขาก็ได้เหมือนกัน!

หยุนหว่านหนิงลอบสีมือ มองซ่งจื่ออวี๋ราวกับเด็กน้อยน่ารัก นั่งตัวตรงอยู่ตรงหน้านางสงบเสงี่ยมวางมือทั้งสองตรงหัวเขา...

“เมื่อกี้ท่านพูดแล้ว ลั่นวาจาแล้ว สี่อาชาก็ยากจะตามกลับ”

นางจ้องเสวียนซันเซียนเซิง “ถ้าท่านกลับคำ ก็คือเจ้าลูกเต่าจริงๆ แล้วนะ!”

เสวียนซันเซียนเซิงกลอกตา “ไม่กลับคำแน่นอน!”

ซ่งจื่ออวี๋มองปฏิสัมพันธ์ของทั้งสอง รู้สึกน่าสนใจมาก

อาจารย์ของตนท่วงท่าเซียนกระดูกเต๋า ไม่ยินดียินร้ายมาหลายปี นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นด้านสามัญของอาจารย์อย่างนี้ ความเฉยเมยห่างเหินน้อยลง แทนด้วยกลิ่นอายของความเป็นมนุษย์

ซ่งจื่ออวี๋คือเด็กกำพร้าที่เสวียนซันเซียนเซิงเก็บมาจากเชิงเขาเมื่อยี่สิบกว่าปีก่อน

หลายปีที่ผ่านมา เสวียนซันเซียนเซิงเข้มงวดกับเขามาก

แต่หลังจากซ่งจื่ออวี๋อายุครบยี่สิบปีบริบูรณ์ ก็ออกท่องเที่ยวพเนจรสี่แคว้น

มีเพียงทุกครั้งที่เขากลับภูเขาหยุนอู้ เสวียนซันเซียนเซิงจะตื่นเต้นกอดเขา รัดจนเขาหายใจไม่ออก

แต่ที่มากกว่านั้น เขามักทำหน้าตึงอย่างดูแล้วใครก็ไม่อยากเข้าใกล้

ทว่าเช่นนี้ ซ่งจื่ออวี๋ก็พึงพอใจแล้ว

เขารู้ว่าอาจารย์รักเขามากที่สุด

“ท่านอาจารย์ ท่านเจาะจงส่งข่าวให้ข้ากลับมา ก็เพื่อให้ข้าลงเขากับพระชายาหมิงหรือขอรับ”

ซ่งจื่ออวี๋ผู้เรียบร้อยถามอย่างสงบเสงี่ยม

“อื่ม นังหนูนี่ไม่จบไม่สิ้น! จะให้ข้าลงเขาให้ได้! เจ้าก็รู้ ข้าเหมาะแต่อยู่ในภูเขาหยุนอู้เท่านั้น ลงเขาจะเวียนหัวตาลายหูอื้อ...”

เสวียนซันเซียนเซิงแสดงออกว่าจนปัญญามาก

คนอื่นล้วนกลัวความสูง แต่เขากลับกลัวที่ต่ำ?!

“ถ้านังหนูนี่โกรธ ต้องเผาภูเขาหยุนอู้ของข้าแน่ ข้าก็เลยได้แต่ให้เจ้าลงเขาไปกับนาง”

แม้เขาจะไม่รู้สาเหตุที่หยุนหว่านหนิงจะให้เขาลงเขาให้ได้ก็ตาม นางคิดจะทำอะไรกันแน่นะ

“ขอรับ ท่านอาจารย์”

ซ่งจื่ออวี๋ผู้เรียบร้อยทำตามประสงค์ของอาจารย์ตนเสมอ ไม่เคยปฏิเสธ

หยุนหว่านหนิงดีใจลิงโลด!

ในเมื่อซ่งจื่ออวี๋คือลูกศิษย์ของเสวียนซันเซียนเซิง เช่นนั้นเสวียนซันเซียนเซิงก็ต้องถ่ายทอดวิชาความรู้ทั้งหมดของเขาให้ซ่งจื่ออวี๋ผู้เป็นศิษย์เพียงคนเดียวอยู่แล้ว!

ดังนั้น การพาตัวซ่งจื่ออวี๋ลงเขาก็เหมือนกัน

บอกจะไปก็ไป หลังจากอิ่มท้องอิ่มใจแล้ว หยุนหว่านหนิงก็ออกเดินทางลงเขากับซ่งจื่ออวี๋

เสวียนซันเซียนเซิงอาลัยอาวรณ์ยิ่งนัก

อาลัยอาวรณ์ฝีมือการทำอาหารและสุราเลิศรสเหล่านั้นของหยุนหว่านหนิง

พอเห็นเขามองนางตาละห้อย...หยุนหว่านหนิงจึงได้แต่หยิบสุรามากมายออกมาจากช่องว่าง พร้อมด้วยขนม ห่านรมควัน ไก่ตุ๋น เป็ดย่างและของกินต่างๆ ที่ห่อเรียบร้อยออกมาจำนวนหนึ่ง

“ของพวกนี้พอให้ท่านกินช่วงหนึ่งแล้ว”

ภูเขาหยุนอู้อากาศค่อนข้างเย็น

แม้จะบอกว่าเข้าฤดูร้อนแล้ว แต่ยอดเขาก็ยังเย็นยะเยือก มีน้ำค้างแข็งในตอนกลางคืน

ราวกับฤดูหนาวอันหนาวเหน็บ

ดังนั้นของเหล่านี้ ขอแค่ไม่แกะห่อก็เก็บรักษาไว้ได้

“เอาไว้ท่านกินหมดแล้ว ข้าจะเอามาให้ท่านอีก”

อย่างไรก็เป็นผู้สูงอายุ หยุนหว่านหนิงรู้สึกวางใจไม่ลงบางส่วน มองเขาด้วยสายตาที่มองคนแก่โดดเดี่ยว “ท่านเป็นคนแก่เฝ้าบ้านต่อไปเถอะ! เป็นท่านที่ไม่ตามข้าลงเขาเองนะ”

เสวียนซันเซียนเซิงปาดน้ำตา “นังหนูหนิง ข้ารู้ว่าเจ้าปากร้ายแต่ใจดี เจ้าเป็นห่วงข้าที่สุด”

หยุนหว่านหนิง “...ถูกต้อง ข้าปากร้ายแต่ใจดี”

“เป็นคนที่ปากร้ายที่สุดในตงเป่ย (*พื้นที่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของจีนในปัจจุบัน)เลยล่ะ!”

เสวียนซันเซียนเซิงฟังไม่เข้าใจ แต่ก็ยังเอาแต่ปาดน้ำตา

เมื่อเห็นดังนั้น หยุนหว่านหนิงจึงควานหาปลาแห้งรสเผ็ดออกมาสองสามห่อจากช่องว่าง “ให้ ไม่ต้องร้องแล้ว!”

แล้วยัดอมยิ้มสองสามแท่งให้เขาในคราวเดียว

เมื่อนั้นเสวียนซันเซียนเซิงจึงจะกลายเป็นยิ้ม “ไก่ เป็ด ห่านมีหมดแล้ว ขาดแต่ปลาเนี่ยแหละ! แล้วนี่คืออะไร ซื้อหนึ่งแถมหนึ่งหรือ”

เขาฉีกกระดาษห่ออมยิ้ม แล้วเลียอย่างระมัดระวังทีหนึ่ง

ทันใดนั้นเขาก็ตกเป็นทาสความอร่อยของอมยิ้ม

“หวานยิ่งนัก!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อนงค์ใจพระชายาราชสีห์