อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ นิยาย บท 171

“ฝ่าบาท มีเรื่องนี้เกิดขึ้นจริง”

ซูปิ่งซ่านอ้ำๆอึ้งๆ มองดูโม่จงหรานอย่างกระอึกกระอัก พร้อมพูดขึ้นว่า “เต๋อเฟยเหนียงเหนียง สั่งคนในวังไปสืบข่าวซ่งจื่ออวี๋จริงๆ”

ไม่น่าเชื่อเลยจริงๆ

สนมสุดที่รักของฮ่องเต้ กลับหลงชอบชายหนุ่มรูปงามอย่างซ่งจื่ออวี๋?

ฮ่องเต้ ถูกสวมเขา?

โม่จงหรานขมวดคิ้ว ราวกับข่าวนี้ทำให้เขายากที่จะรับได้

หยุนหว่านหนิงมองดูเขาอย่างเห็นใจ พร้อมพูดขึ้นว่า “เสด็จพ่อ ลูกสะใภ้เห็นบนศีรษะของเสด็จพ่อ ยิ่งอยู่ก็ยิ่งผิดปกติ”

“เป็นอย่างไร?”

โม่จงหรานพูดขึ้นด้วยเสียงต่ำ เป็นใครก็สามารถรับรู้ถึงความโกรธเคืองที่แฝงอยู่ในน้ำเสียง

หยุนหว่านหนิงส่ายหัวถอนหายใจ พร้อมพูดขึ้นว่า “บนศีรษะของเสด็จพ่อ เขียวขจีเป็นเหมือนดั่งสนามหญ้าแล้ว เชิญเสด็จแม่มา แล้วเสด็จพ่อเสด็จแม่ทั้งสองคุยกันเป็นการส่วนตัวไหม?”

โม่จงหรานกำลังครุ่นคิดคำพูดของนาง

แต่สีหน้าเยือกเย็นอย่างบอกไม่ถูกแล้ว สายตาโกรธเคืองจนเหมือนสามารถบีบหยดน้ำออกมาได้

ครุ่นคิดสักพัก แล้วโม่จงหรานก็พูดสั่งซูปิ่งซ่านไปเชิญเต๋อเฟยมา

ก่อนอื่นคืออย่าแหวกหญ้าให้งูตื่น

ไม่ว่าเต๋อเฟยจะถามอะไร ซูปิ่งซ่านก็ห้ามพูดถึงเรื่องนี้

หยุนหว่านหนิงทำการสำเร็จบริบูรณ์แล้ว ก็ถอยออกมา

ออกมาจากห้องทรงพระอักษร นางก็หลบคอยดูเรื่องสนุก

“เชอะ ครั้งนี้หากไม่สามารถลบความสงสัยที่มีต่อข้า ต่อไปยังกล้าวางแผนใส่ร้ายข้าอีก....ชื่อของข้าหยุนหว่านหนิง จะเขียนย้อนให้ดู”

นางส่งเสียงเย้ยหยัน หยิบเอาลูกอมในช่องว่างออกมาหนึ่งอัน

รสส้ม ไม่เลว

เต๋อเฟยสงสัยว่านาง มีอะไรกับซ่งจื่ออวี๋?

โม่จงหรานรู้สถานะของซ่งจื่ออวี๋ ดีกว่าใครที่สุด

แล้วเขาจะมีความเกี่ยวข้องกับหยุนหว่านหนิงในแบบนั้นได้อย่างไร?

หากเป็นแบบนั้นจริง เขาก็คงไม่รับซ่งจื่ออวี๋ไว้ พร้อมแต่งตั้งให้เขาเป็นชินเทียนเจียนคนใหม่อย่างไว้ใจ

ความสงสัยของเต๋อเฟย เท่ากับเป็นการตบหน้าโม่จงหราน

นางอธิบาย เต๋อเฟยไม่เชื่อ

งั้นก็ให้โม่จงหรานอธิบายให้นางฟังด้วยตนเอง

นางสงสัยว่านางประพฤติตัวไม่ดี งั้นก็ให้นางได้ลิ้มรส การที่ถูกโม่จงหรานสงสัยว่านางประพฤติตัวไม่ดี.....หยุนหว่านหนิงทนไม่ไหวแล้ว ครั้งนี้จึงตอบโต้อย่างสุดแรง

ไม่นาน เต๋อเฟยก็เข้ามาให้ห้องทรงพระอักษร

หยุนหว่านหนิงหลบอยู่ด้านหลังเสา เงี่ยหูฟังความเคลื่อนไหวข้างใน

เริ่มแรกเสียงทั้งสองคนยังไม่ดัง ฟังไม่ชัดเจน

แต่ไม่ช้า ก็ได้ยินเสียงเต๋อเฟยกรีดถามขึ้นมาว่า “ฝ่าบาท ท่านสงสัยหม่อมฉัน?”

“ไม่เพียงสงสัย ข้ายังมีหลักฐาน”

โม่จงหรานยังพูดขึ้นด้วยเสียงต่ำ

“ฝ่าบาท”

เต๋อเฟยพูดขึ้นอย่างเสียงดังอีกว่า “หม่อมฉันดูแลปรนนิบัติท่านมานานหลายปี ท่านไม่เข้าใจหรือว่าหม่อมฉันเป็นคนยังไง ดูถูกหม่อมฉันได้อย่างไร?”

คราวนี้ โม่จงหรานก็อดทนไม่ไหวแล้ว

“เพราะข้าเข้าใจเจ้าดี ถึงได้สงสัยในตัวเจ้า”

ได้ยินแบบนี้....

สายตาหยุนหว่านหนิงเป็นประกาย

หรือว่ายังมีเรื่องเล่าอะไรอีก?

ที่ผ่านมาสองคนนี้ยังมีความลับอะไร?

“เมื่อยี่สิบปีก่อน เจ้าหลงใหลในความงาม ข้าอดทนแล้ว ผ่านไปยี่สิบปีแล้ว ลูกก็โตขนาดนี้แล้ว เจ้ายังแก้นิสัยนี้ไม่ได้?”

มีบานประตูกั้น หยุนหว่านหนิงก็เดารู้ว่า เวลานี้โม่จงหรานโกรธเคืองขนาดไหน

“เดิมข้าคิดว่า ยี่สิบปีมานี้เจ้าประพฤติตัวดี คงหยุดความคิดพวกนี้ได้แล้ว”

“ที่ไหนได้ ข้าดูเจ้าผิดไป”

“ฝ่าบาท”

เต๋อเฟยโกรธโมโหไม่น้อย พร้อมพูดขึ้นว่า “หม่อมฉันต้องอธิบายให้ท่านฟังยังไง? นั่นไม่ใช่การหลงใหลในความงาม หม่อมฉันไม่ได้ทำอะไรเลย เพียงแค่รู้สึกว่าชายรูปงามน่ามอง”

“ในใจหม่อมฉันมีเพียงท่าน ไม่เคยกระทำอะไรที่เป็นการทรยศท่าน”

“เพียงแค่มองผู้ชายคนอื่น ก็ถือเป็นการกระทำที่ทรยศข้าแล้ว”

ภายใต้ความโกรธ เต๋อเฟยก็พูดขึ้นมาอย่างตรงๆว่า “แล้วท่านล่ะ ผ่านไปตั้งยี่สิบปี นิสัยขี้ระแวงขี้สงสัยก็ยังเหมือนเดิม”

“ท่านเคยพูดว่าจะไม่สงสัยในตัวข้าอีก”

“ข้าเคยพูดจริง ข้าก็เชื่อเจ้ามาตลอดยี่สิบปี แต่ตอนนี้ล่ะ?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อนงค์ใจพระชายาราชสีห์