อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ นิยาย บท 172

โม่จงหรานพูดไม่ผิด

เรื่องที่เขา ‘ทะเลาะ’ กับเต๋อเฟย ไม่นานก็รู้ไปทั่วทั้งวังหลัง

คนวังหลังต่างตกใจ เล่าให้กันฟังอย่างต่อเนื่อง

ซึ่งเป็นเพราะ เต๋อเฟยเป็นคนโปรดของโม่จงหรานมานานหลายปี ซึ่งหลายปีมานี้ถึงฮองเฮาจ้าวจะครองวังหลัง แค่คนโปรดของฮ่องเต้ ที่จริงคือเต๋อเฟย

วังหลังไม่ขาดคนใหม่ สิ่งที่ขาดคือคนใหม่ที่เป็นคนโปรดปราน

คนใหม่เข้าวังมา อาจเป็นเพราะผลประโยชน์ของวงศ์ตระกูล หรือขุนนางส่งมาเอาใจโม่จงหราน

อายุพวกนางดั่งดอกไม้ กลับทำได้เพียงมีชีวิตอยู่ในวังหลังผ่านไปวันแล้ววันเล่า

ไม่เพียงไม่ได้รับความโปรดปราน ยังอาจถูกรังแก

ครั้งนี้ได้ยินว่าเต๋อเฟยไม่เป็นที่โปรดปรานแล้ว....พวกนางสนม แทบอยากจัดงานเลี้ยง เฉลิมฉลองความน่ายินดีในวันนี้

วันรุ่งขึ้น ตำหนักคุนหนิง

ฮองเฮาจ้าวครองตำแหน่งอย่างมั่นคง มองดูสนมที่นั่งมองหน้ากันอยู่ด้านล่าง สายตาไปหยุดมองตรงที่นั่งหลักด้านซ้ายแวบหนึ่ง

นางยกแก้วน้ำชาขึ้นมา ปกปิดรอยยิ้มที่มุมปาก

“ทำไมวันนี้เต๋อเฟยไม่มาถวายพระพรข้า?”

ฮองเฮาจ้าววางแก้วน้ำชา พร้อมถามขึ้นมาอย่างเรียบเฉย

รุ่งอรุณทุกเช้าพวกสนมจะต้องมาถวายพระพรฮองเฮา นี่เป็นกฎที่บรรพบุรุษตั้งไว้

เต๋อเฟยไม่เคยขาดสักครั้ง ยี่สิบกว่าปีมานี้ฝนตกแดดแรงก็ไม่ใช่อุปสรรค

วันนี้กลับไม่มา?

ฮองเฮาจ้าวรู้เหตุผลที่เต๋อเฟยไม่มาอยู่แล้ว แต่ก็ยังตั้งใจถาม

“ฮองเฮาเหนียงเหนียง อาจเป็นเพราะเมื่อวานเต๋อเฟยเหนียงเหนียงทะเลาะกับฮ่องเต้ รู้ตัวว่าตนเองจะไม่เป็นที่โปรดปรานแล้ว จึงไม่กล้ามาสู้หน้าใคร”

ถัดจากที่นั่งของเต๋อเฟย ก็คือซูเฟยที่พูดขึ้นมาอย่างเหน็บแนม

ใบหน้าของนางโหดร้ายใจดำ

รูปลักษณ์โหดร้าย สายตาโหดร้าย พูดจาโหดร้าย

เวลานี้ สีหน้าซูเฟยเผยให้เห็นถึงความได้ใจ

เต๋ยเฟยไม่เป็นที่โปรดปรานแล้ว โอกาสของพวกนางมาแล้ว

“ใช่ ยังไงฮ่องเต้ก็โปรดปรานแต่เต๋ยเฟยเหนียงเหนียงมาตั้งนานหลายปี เมื่อเต๋ยเฟยเหนียงเหนียงไม่เป็นที่โปรดปรานแล้ว ในใจจะต้องย่ำแย่แน่”

หานเผินเอามือกุมปาก

สนมคนอื่นๆ ต่างพูดเห็นพ้องด้วย

ฮองเฮาจ้าวจะไม่รู้เหตุผลที่เต๋ยเฟยไม่มาในวันนี้ได้ยังไง?

นางเพียงแค่อยากฟังว่า ลับหลังแล้ว สนมพวกนี้พูดถึงเต๋ยเฟยยังไง….แล้วก็ไม่ทำให้นางผิดหวัง ได้ยินคำพูดพวกนี้แล้วนางสบายใจอย่างมาก

จางหมัวมัวรีบพูดตอบว่า “เหนียงเหนียง เซี่ยอิ่วตำหนักหย่งโซ่ง มาแต่เช้าแล้ว”

“บอกว่าเต๋อเฟยเหนียงเหนียงลุกขึ้นมาแล้วปวดหัว วันนี้จึงไม่มาถวายพระพรเหนียงเหนียง”

“ปวดหัว?”

ซูเฟยหัวเราะเย้ย พร้อมพูดขึ้นว่า “ไม่มาพร้อมอ้างว่าป่วย เป็นข้ออ้างที่ดีจริงๆ”

ฮองเฮาเจ้าส่งสายตาให้จางหมัวมัวถอยกลับไป เงยหน้ามองดูซูเฟยแวบหนึ่ง พร้อมพูดขึ้นว่า “ซูเฟย ปกติเต๋ยเฟยก็สุขภาพไม่ค่อยดี อาจจะปวดหัวจริงๆก็ได้”

“พวกเจ้าอย่านินทาเต๋ยเฟยลับหลัง หากฮ่องเต้ได้ยิน ไม่แน่ว่าเดี๋ยวจะลงโทษพวกเจ้า”

นางยิ้มแย้มอย่างบางเบา ไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่ พร้อมพูดขึ้นว่า “ฮ่องเต้โปรดปรานเต๋อเฟยมานานหลายปี ก่อนหน้านี้ก็ใช่ว่าไม่เคยทะเลาะกัน ไม่แน่ว่าอีกไม่กี่วันทั้งสองคนก็ดีกันแล้ว ถึงตอนนั้นคนที่โดนด่าก็ยังเป็นพวกเจ้า”

นอกจากพวกคนใหม่ที่เพิ่งเข้าวังมา พวกซูเฟยล้วนเป็นคนเก่าแก่ที่อยู่ในวังหลังมานานแล้ว

มีใครฟังไม่เข้าใจความหมายแฝงของฮองเฮาจ้าว?

ซึ่งความหมายก็คือ นินทาเต๋อเฟยได้ แต่ดีที่สุดอย่าให้ฮ่องเต้ได้ยิน

ตอนนี้ฮ่องเต้กับเต๋อเฟยทะเลาะกัน เป็นช่วงเวลาที่พวกเจ้าจะได้แย่งชิงกัน……

สบกับสายตาแอบแฝงของนาง แววตาซูเฟยสั่นไหวแปบหนึ่ง

รอเมื่อพวกสนมไปกันแล้ว ซูเฟยก็อ้างว่ามีธุระขอตัวกลับมาใหม่

“เหนียงเหนียง”

นางย่อตัวทำความเคารพ

“นั่งสิ”

ฮองเฮาจ้าวให้นางนั่ง สั่งยวนยังรินน้ำชาให้นาง พร้อมพูดขึ้นว่า “เจ้าปรนนิบัติดูแลฮ่องเต้มานานหลายปี แต่ก็ไม่มีบุตรมาตลอด ครั้งนี้ ไม่ต้องให้ค่าเตือนเจ้าว่าเจ้าควรทำอย่างไรแล้วมั้ง?”

“เพคะ หม่อมฉันรู้ ขอบคุณเหนียงเหนียงที่สั่งสอน”

ซูเฟยอยู่ต่อหน้าฮองเฮาจ้าว ว่านอนสอนง่ายอย่างกับแมวตัวหนึ่ง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อนงค์ใจพระชายาราชสีห์