อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ นิยาย บท 182

ครั้นได้ยินเสียงนี้ ซุนตายิ่งก็ดีใจ

ฮือๆๆ ผู้กอบกู้นางปรากฏตัวสักที!

หยุนหว่านหนิงหันไปมอง เห็นเพียงผู้ที่มาคือจางหมัวมัวที่อยู่ข้างกายฮองเฮาจ้าว

ปกติจางหมัวมัวจะไม่กล้าหาเรื่องหยุนหว่านหนิง แต่วันนี้พอเห็นตำหนักซีเยว่ระเกะระกะ หลังคาถูกรื้อไปจนเหลือเพียงครึ่งเดียว

แถมข้าวของยังระเนระนาดอยู่เต็มพื้น...

นางตะลึงงัน

แต่ไม่นานจางหมัวมัวก็เก็บความตะลึงแล้วเดินข้ามาใกล้ “พระชายาหมิง นี่กำลังทำอะไรอยู่หรือเจ้าคะ!”

“จางหมัวมัวมองไม่เห็นหรือ”

หยุนหว่านหนิงเชิดหน้า “รื้อหลังคา”

จางหมัวมัว “...”

นางไม่ได้ตาบอด เห็นแล้วว่านางกำลังสั่งให้คนรื้อหลังคา!

“ไม่ทราบพระชายาหมิงมีความแค้นเท่าใด ซุนตายิ่งทำสิ่งใดให้พระชายาหมิงโกรธเคือง ที่นี่คือวังหลัง พระชายานึกว่าคือจวนอ๋องหมิงหรือ”

จางหมัวมัวทำหน้าขรึม “ท่านกับซุนตายิ่งมีความแค้นเพียงไร ถึงกับต้องรื้อตำหนักซีเยว่!”

นางติดตามฮองเฮาจ้าวหลายปี นับว่าเป็นคนมีหน้ามีตาในวังหลวง

แม้แต่ฮูหยินชั้นสูงในเมืองหลวงเหล่านั้น ยังต้องไว้หน้านางสองสามส่วน

ไหนเลยจะรู้ตอนนี้...

กับการไต่ถามแบบเหน็บแนมของนาง หยุนหว่านหนิงกลับแค่ตอบลอยๆ ประโยคหนึ่ง “เกี่ยวอันใดกับเจ้า”

“ท่าน...”

จางหมัวมัวโกรธจนใบหน้าเฒ่าชราขาวซีด!

นางกัดฟันกรอด “พระชายาหมิง เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับบ่าวจริง! แต่เกี่ยวข้องกับเหนียงเหนียงบ้านบ่าว! บ่าวรับพระเสาวนีย์เหนียงเหนียงมาสอบถามเจ้าค่ะ!”

ความหมายนี้ก็คือ นางเป็นตัวแทนของฮองเฮาจ้าว

จางหมัวมัวทำท่าทำทางอย่างกับคางคกขึ้นวอ

ขาดแต่ไม่ได้เขียนคำว่า ‘ตอนนี้ข้าก็เท่ากับฮองเฮาเหนียงเหนียงนั่นแหละ’ ไว้บนใบหน้า

แต่หยุนหว่านหนิงกลับไม่สนใจนาง ยังคงเอ่ยสองคำแบบง่ายดาย “ข้าชอบ”

จางหมัวมัว “...”

ความดันโลหิตพุ่งทะยานอย่างบ้าคลั่ง ในหัวนางมีเสียงหึ่งๆ ดังไม่หยุด!

ไม่ได้การ ไม่ได้การ นางจะโมโหหยุนหว่านหนิงตายแล้ว!

เห็นจางหมัวมัวตัวโคลงทีหนึ่ง ซุนตายิ่งรีบจับมือนางไว้ “จางหมัวมัว เจ้าไม่เป็นไรกระมัง!”

จางหมัวมัวจะเป็นอะไรไปไม่ได้นะ!

ตอนนี้นางตัวคนเดียว จางหมัวมัวมาก็เท่ากับมีฮองเฮาเหนียงเหนียงให้ท้ายนาง หากจางหมัวมัวโกรธจนเป็นอะไรไป เช่นนั้นนางจะเอาชนะหยุนหว่านหนิงได้อย่างไร!

“ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ!”

จางหมัวมัวผลักซุนตายิ่งออก แล้วจึงเอ่ยอย่างกัดเขี้ยวเคี้ยวฟัน “พระชายาหมิง หรือว่าการสอบถามของฮองเฮาเหนียงเหนียง ท่านก็จะไม่เอ่ยปากทองคำหรือ!”

“การที่เสด็จแม่สอบถามคือเรื่องหนึ่ง เจ้าถามก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง”

หยุนหว่านหนิงกอดอก “ยัยแก่ ยกตนเทียบเท่าเสด็จแม่ต่อหน้าข้าหรือ”

“ใจสุนัขอาจหาญนัก! ข้าจะไปทูลเสด็จแม่เดี๋ยวนี้ บอกว่าเจ้าลบหลู่เบื้องสูง คิดจะแทนที่เสด็จแม่!”

“แล้วก็ไปทูลเสด็จพ่อ ว่าเจ้ามีใจคิดกบฏ ไม่เคารพเสด็จแม่! ทั้งยังหมายตาสิริโฉมของเสด็จพ่ออีกด้วย!”

เมื่อครู่จางหมัวมัวอยากให้นางเอ่ยปากทองคำไม่ใช่หรือ

ตอนนี้หยุนหว่านหนิงเอ่ย ‘ปากทองคำ’ แล้ว พูดออกมาเป็นพรวน จางหมัวมัวฟังจนอึ้งกิมกี่

แต่ละข้อหา ล้วนเป็นโทษตายประหารเก้าชั่วโคตร!

จางหมัวมัวรู้มานานว่าพระชายาหมิงฝีปากกล้า บัดนี้นับว่าได้ประจักษ์แล้ว!

แล้วยัง ‘หมายตาสิริโฉมของฝ่าบาท’ อีกแน่ะ...

วาจาลบหลู่เบื้องสูงเยี่ยงนี้ น่ากลัวว่ามีแต่หยุนหว่านหนิงเท่านั้นที่กล้าพูด!

หยุนหว่านหนิงมองนางด้วยความเย็นชา “อย่างไร จางหมัวมัวไปกับข้าสักครั้งหรือไม่ ไปอธิบายให้ชัดๆ ต่อหน้าพระพักตร์เสด็จพ่อเสด็จแม่!”

“ทะ ท่าน ท่าน...”

กล้ามเนื้อบนใบหน้าจางหมัวมัวกำลังกระตุก

นางยื่นมือที่สั่นระริกชี้หยุนหว่านหนิง แต่กลับแย้งไม่ออกสักคำ

อยู่นาน จางหมัวมัวจึงกุมหน้าอกด้วยความทรมาน ล้มคะมำลงกับพื้น

นางชักกระตุกทีหนึ่ง กระอักเลือดออกมาคำใหญ่ จากนั้นก็เหลือกตาหมดสติ

จางหมัวมัวถูกหยุนหว่านหนิงยั่วจนเป็นลมไปทั้งอย่างนี้!

ซุนตายิ่งอ้าปากตาค้างมองจางหมัวมัวที่ล้มอยู่กับพื้น เนิ่นนานก็ยังไม่ได้สติ...โม่เฟยเฟยมองหยุนหว่านหนิงด้วยความทึ่ง สายตาเปี่ยมด้วยความเลื่อมใส

สวรรค์!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อนงค์ใจพระชายาราชสีห์