ม่านราตรีมาถึง เวลาล่วงเลยไปอีกหนึ่งวัน
สำหรับซุนตายิ่ง เมื่อครู่คือการประสบกับความอัปยศอีกครั้ง
เนื่องจากตำหนักซีเยว่ถูกรื้อ ดังนั้นตอนนี้นางจึงไม่มีที่อยู่ ส่วนฮองเฮาจ้าวเพื่อแสดงความเมตตาใจกว้างในฐานะฮองเฮาของตน และเพื่อดับเพลิงพิโรธของโม่จงหรานในเรื่อง ‘โม่หุยเฟิงถูกกักบริเวณ’ ลงบ้าง
ดังนั้นจึงสั่งให้ซุนตายิ่งเข้ามาอยู่ในตำหนักปีกของตำหนักคุนหนิง
นี่คือครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่นางสนมได้รับเกียรติเช่นนี้ ถึงกับสามารถอยู่ตำหนักร่วมกับฮองเฮา!
หลังจากเกาะฮองเฮาที่เป็นไม้ใหญ่ผู้นี้แล้ว ซุนตายิ่งย่อมต้องแบ่งเบาคลายความกังวลของฮองเฮาอย่างสุดความสามารถ
ยั่วยวนโม่จงหรานทุกวัน
แต่น่าเศร้า นางล้มเหลวทุกวัน
วันแรกที่เข้าอยู่ในตำหนักคุนหนิง ด้วยความเห็นชอบจากฮองเฮาจ้าว นางจึงไปพบโม่จงหรานอย่างแทบอดรนทนไม่ไหว ทั้งแสดงออกอย่างเขินอาย ให้ฝ่าบาทพำนักอยู่ที่ตำหนักคุนหนิงตอนกลางคืน
โม่จงหรานปฏิเสธอย่างไร้ไมตรี
วันถัดมา นางแต่งเนื้อแต่งตัวดั่งบุปผาแย้มบานไปห้องทรงพระอักษรอีกอย่างไม่ตายใจ
โม่จงหรานปิดประตูไม่พบ
วันที่สาม นางทำเป็นกำลังชมดอกไม้อยู่ในอุทยานหลวง และพบเขากับโม่จงหรานที่เดินผ่านมาพอดีโดย ‘บังเอิญ’ ทั้งยังเล่นลูกไม้แกล้งเท้าแพลง อยากให้ฮ่องเต้ส่งกลับไป
โม่จงหรานสั่งให้ซูปิ่งซ่านส่งนางกลับไป ด้วยใบหน้ารังเกียจเต็มประดา
วันที่สี่...
จำไม่ได้แล้ว นี่มันวันที่เท่าไรแล้ว
สรุปแล้ว ทุกวันยามโพล้เพล้ นางก็เตรียมตัวเสร็จแล้ว หลังจากแช่ตัวอยู่ในน้ำผสมกลีบดอกไม้ครึ่งชั่วยามเต็มๆ แช่จนผิวหนังทั้งตัวเหี่ยว ถึงจะลุกขึ้นอย่างพอใจ
เข้าห้องทรงพระอักษรด้วยเรือนร่างหอมกรุ่นและความคาดหวังเต็มเปี่ยม
แต่น่าเศร้า นางถูกโม่จงหรานโยนออกมาอย่างไม่ไว้ไมตรีแม้แต่น้อย
เหตุผลคือ กลิ่นบนตัวเจ้าฉุนจนคลื่นเหียน ข้าแพ้กลีบดอกไม้ รีบหายตัวไปจากตรงหน้าข้าเร็ว!
โม่จงหรานจามไม่หยุด ซุนตายิ่งจากไปด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจ
ไหนเลยจะรู้ พอออกจากห้องทรงพระอักษรก็พบกับหยุนหว่านหนิง
ถูกนางเย้ยหยันอีกยกใหญ่!
ซุนตายิ่งปิดหน้าวิ่งหนี...
“เหนียงเหนียง เรื่องนี้พระชายาหมิงจะกำเริบเสิบสานเกินไปแล้วนะเพคะ! หรือว่าเหนียงเหนียงจะปล่อยให้นางทำเช่นนี้ต่อ เห็นวังหลังเป็นถิ่นของตัวเอง!”
นางกำลังร้องไห้ฟ้องอยู่ตรงหน้าฮองเฮาจ้าว
สีหน้าฮองเฮาจ้าวย่ำแย่อย่างหนัก
หลายวันมานี้โม่หุยเฟิงเกิดเรื่อง ชื่อเสียงหยุนธิงหลานเหม็นโฉ่ ทำให้โม่หุยเฟิงพลอยลำบากอีกครั้ง...
จวนเฉิงเซี่ยงยากจะรักษาเอาตัวรอด โม่หุยเหยียนก็ช่วยอะไรไม่ได้
นางไม่เจอตัวโม่จงหราน ขอร้องแทนโม่หุยเฟิงไม่ได้ ได้แต่ดูโม่เยว่ได้รับความสำคัญจากฮ่องเต้มากขึ้นเรื่อยๆ
ฮองเฮาจ้าวร้อนใจดั่งไฟ!
แต่นางกลับไร้หนทาง!
ด้วยความจำเป็น นางจึงได้แต่วางแผนกับซุนตายิ่ง
นังแพศยาน้อยนี่ แม้จะโง่งมไปหน่อย แต่ก็มีจิตใจมุมานะในการ ‘ขึ้นสูง’
ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่านางต้องการผู้หญิงที่โง่งมสักหน่อย
หนึ่ง นางจะได้ควบคุมง่าย
สอง เต๋อเฟยก็มิใช่คนโง่หรือ
ฝ่าบาทโปรดปรานแต่เต๋อเฟยหลายปีปานนั้น ตอนนี้ก็ถือว่าแหนงหน่ายแล้ว นางจึง ‘คัดลอก’ ‘เต๋อเฟย’ ที่สาวกว่าและโง่งมกว่าออกมาอีกคนอย่างสมบูรณ์แบบ!
และซุนตายิ่ง ก็คือตัวเลือกที่ดีที่สุดพอดี
ครั้นเห็นนางร้องไห้รื้นน้ำตา ฮองเฮาจ้าวรู้สึกเพียงปวดหัว
แต่ก็ยังฝืนตั้งสติ กดความหงุดหงิดในดวงตา “ซุนตายิ่ง เกิดอะไรขึ้นกันแน่ เจ้าเล่าความกับข้ามาดีๆ”
“เหนียงเหนียง วันนี้ฝ่าบาทก็ยังไม่ยอมเสด็จมาตำหนักคุนหนิงเพคะ”
ซุนตายิ่งสะอึกสะอื้น ดวงตาทั้งแดงทั้งบวม “หม่อมฉันไม่ยอมแพ้ ก็เลยรออยู่ข้างนอกห้องทรงพระอักษร”
“ไหนเลยจะรู้ พระชายาหมิงมาพอดี เย้ยหยันหม่อมฉันยกใหญ่เพคะ!”
ครั้นนึกถึงเรื่องที่หยุนหว่านหนิงทำกับนางและพี่ชายในระยะนี้ ซุนตายิ่งก็แทบอยากจะฆ่านาง “เหนียงเหนียง! พระชายาหมิงจะบังอาจไปแล้วเพคะ!”
“ก็ไม่รู้ว่าทำไม ฝ่าบาทถึงทรงอนุญาตให้นางเข้าออกห้องทรงพระอักษรได้อิสระ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อนงค์ใจพระชายาราชสีห์
อัพใหม่เถอะค่ะ...
เมื่อไรจะอัพเพิ่มคะ ฮือ รอนานมากแล้วววว...
อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ บทที่ 353 - 430 หายไปไหน หายยาววววมากกกก...
รอตอนต่อไปจ้า...
สนุกดีอ่านแล้วขำ 555...