อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ นิยาย บท 196

เมื่อผลักประตูตำหนักออก ภาพด้านในก็ทำให้หยุนหว่านหนิงต้องทึ่งตะลึงตึงโป๊ะยืนอยู่กับที่

ข้างเตียงคือแจกันดอกไม้ที่ตกแตก

โม่จงหรานพาดตัวอยู่ที่ข้างเตียง สายตาตื่นตระหนกลนลาน ร่างกายกึ่งหนึ่งจะตกลงพื้นแล้ว มือข้างหนึ่งยันอยู่กับพื้น ส่วนอีกข้างกำลังออกแรงผลักซุนตายิ่ง

ราวกับต้องการหนีออกจากเงื้อมมือปีศาจของนาง เนื้อตัวเต็มไปด้วยความขัดขืนและเดียดฉันท์อย่างเห็นได้ชัดเจน

ส่วนซุนตายิ่ง นุ่งน้อยห่มน้อย

หยุนหว่านหนิงอดเดาะลิ้นไม่ได้

ซุนซานฝูนี่...ช่างกล้าจริงๆ!

น่ากลัวว่าจะเป็นผู้หญิงที่กล้าขืนใจฮ่องเต้คนแรกในประวัติศาสตร์เลยกระมัง!

ดังคาด ไร้การศึกษาก็บ้าบิ่นอย่างนี้แหละ!

แต่ เสด็จพ่อก็อายุปูนนี้แล้ว สนุกเสียบ้าดีเดือด...

หยุนหว่านหนิงส่ายหน้า...

โม่เยว่กับซูปิ่งซ่านเดินเข้ามาใกล้ เห็นสภาพการณ์ในตำหนัก โม่เยว่รีบเบือนสายตาออกทันที...ซูปิ่งซ่านโพล่งปากออกไปอย่างห้ามไม่อยู่ “ฝ่าบาท!”

เสียงนี้ปลุกโม่จงหรานและซุนตายิ่งที่จิตใจยังคงดำดิ่งอยู่

ซูปิ่งซ่านเบียดข้างตัวหยุนหว่านหนิงไป “ฝ่าบาท ทรงเป็นไม่อะไรกระมังพ่ะย่ะค่ะ!”

เมื่อเห็นพวกเขาเข้ามา ซุนตายิ่งถึงได้พลิกตัวลงจากตัวของโม่จงหรานด้วยความตื่นตระหนก พลันม้วนผ้าห่มหลบอยู่ที่เตียงฝั่งข้างใน

โม่จงหรานอยู่ในชุดนอนสีเหลืองสว่าง บนนั้นปักลายมังกรคู่เล่นลูกแก้ว

สายตาตื่นตระหนกระคนสับสนบางส่วน ราวกับยังไม่ค่อยได้สติ

ปลายจมูกหยุนหว่านหนิงดุ๊กดิ๊กๆ ได้กลิ่นประหลาดที่ลอยมาจากเตียงมังกรทันที

นางรีบตะโกนกับโม่เยว่เสียงทุ้ม “อย่าเข้ามา! กลั้นลมหายใจ!”

โม่เยว่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ครั้งได้ยินนางกล่าวเช่นนี้ ก็กลั้นลมหายใจยืนอยู่กับที่ตามจิตใต้สำนึกทันที ทว่าหยุนหว่านหนิงห้ามช้าเกินไป ซูปิ่งซ่านพุ่งเข้าไปด้วยความร้อนรน

ไม่นาน ซูปิ่งซ่านก็นั่งยองลงอยู่ข้างเตียง

“นี่...”

หยุนหว่านหนิงอดซี้ดไม่ได้

เป็นผู้ชายยังพอจัดการได้ง่าย หาผู้หญิงที่ยินดีนอนด้วยก็สิ้นเรื่อง

แต่ซูปิ่งซ่าน เป็นขันที!

แม้ว่าเขาจะไม่มีสิ่งนั้นแล้ว แต่ต่อมรับรู้ของร่างกายก็ยังเป็นต่อมรับรู้ของผู้ชาย กลิ่นนี้สามารถมอมเมาสติ ตกอยู่ในอารมณ์วาบหวาม

เวลานี้ซูปิ่งซ่านถูกกลิ่นนี้ทำให้เกิดปฏิกิริยาแล้ว นี่จะทำอย่างไรดี!

หยุนหว่านหนิงปวดหัวเล็กน้อย ได้แต่ตะโกนเสียงดัง “เสี่ยวเหลียงจื่อ!”

“พาอาจารย์เจ้าออกไป!”

เมื่อนั้นเงาร่างเหลียงเสี่ยวกงกงก็ปรากฏอยู่ที่ปากประตู ก่อนจะได้เข้ามาเขาได้ยินหยุนหว่านหนิงเจาะจงกำชับ “กลั้นลมหายใจ!”

ซูปิ่งซ่านที่ทรมานถึงที่สุด ถูกเหลียงเสี่ยวกงกงลากตัวออกไป

โม่เยว่ถอยออกไปก้าวหนึ่ง เปิดหน้าต่างระบายอากาศตามคำสั่งของหยุนหว่านหนิง

“ท่านอ๋อง ไปคุมฝูงขุนนางที่ท้องพระโรงก่อน เรื่องเล็กเจ้าตัดสินใจ เรื่องใหญ่รอให้เสด็จพ่อทรงได้สติแล้วค่อยว่ากัน แล้วให้ขุนนางบุ๋นบู๊แยกย้ายกันไปก่อน”

ดูจากท่าทางของโม่จงหรานแล้ว น่ากลัวว่าวันนี้จะประชุมเช้าไม่ได้

“เจ้าระวังด้วย”

โม่เยว่อุดจมูก กำชับกับนางประโยคหนึ่งด้วยน้ำเสียงตึงเครียด แล้วจึงหมุนกายจากไป

เมื่อนั้นในตำหนักจึงเหลือแต่หยุนหว่านหนิงที่ดูเรื่องสนุกอย่างสุขีสโมสร ซุนตายิ่งที่ตื่นตระหนกห่อตัวเองจนเป็นบ๊ะจ่าง และโม่จงหรานที่สติยังพร่าเบลออยู่

“ซุนซานฝู เจ้าช่างกล้านะ!”

หยุนหว่านหนิงลากเก้าอี้มานั่ง มองเศษแจกันที่อยู่ข้างเตียง

เมื่อครู่ก็คือเสียงแตกนี้ และประโยค ‘ใครก็ได้!’ ที่โม่จงหรานพยายามรักษาสติอย่างสุดชีวิต

ถึงทำให้หยุนหว่านหนิงรู้ว่าเกิดปัญหา รีบวิ่งเข้ามาช่วยเขา

มิเช่นนั้น หากช้าไปอีกก้าวเดียว...

นางมองโม่จงหรานในชุดนอนหลุดลุ่ย อดกลั้นขำไม่ได้ คิดในใจว่าหากช้าไปอีกก้าวเดียว วันนี้ก็รักษาความบริสุทธิ์ยามแก่ของเสด็จพ่อไม่ได้แล้ว!

รอเขาได้สติ คงต้องโกรธเกรี้ยวจนยกวังหลังทิ้งเลยกระมัง!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อนงค์ใจพระชายาราชสีห์