อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ นิยาย บท 197

ตำหนักคุนหนิง

ทหารรักษาพระองค์หามซุนตายิ่งเข้าตำหนักคุนหนิง โยนไว้ตรงหน้าฮองเฮาจ้าว

จากนั้นก็ทำหน้าขึงขังถ่ายทอดคำพูดของหยุนหว่านหนิงกับฮองเฮาจ้าว

“หยุนหว่านหนิง! ถึงขั้นไม่เห็นข้าอยู่ในสายตา!”

นางมองซุนตายิ่งที่ขดตัวอยู่กับพื้น โพล่งด่าด้วยความโกรธเกรี้ยว “เจ้าคนไม่เอาไหน! ทำไมถึงถูกหยุนหว่านหนิงจับได้”

“เหนียงเหนียง ทรงให้หม่อมฉันทำเช่นนี้นี่มิใช่หรือเพคะ”

ครั้นนึกถึงถ้อยคำเหล่านั้นที่หยุนหว่านหนิงกล่าวเมื่อครู่ ซุนตายิ่งก็หวาดกลัวอย่างยิ่ง

กลัวว่าฮองเฮาจ้าวจะลงโทษนางต่อหน้าทุกคน รีบตะเกียกตะกายขึ้นมาจากพื้นด้วยความลำบาก “เหนียงเหนียง ต้องช่วยหม่อมฉันนะเพคะ!”

เนื่องจากมีผ้าห่มห่อร่างอยู่ ดังนั้นจึงคลานลำบากกว่าปกติ

กว่าซุนตายิ่งจะคลานมาถึงแทบเท้าฮองเฮาจ้าวเหมือนบุ้งตัวหนึ่งได้ ก็ถูกนางถีบออกไป “ข้าให้เจ้าทำอะไร!”

“ข้าไม่ได้ให้เจ้าทำอะไรสักหน่อย เจ้าเข้าใจความหมายผิดเอง!”

เมื่อได้ยินดังนั้น ซุนตายิ่งก็ตะลึงตาค้าง

นี่ฮองเฮาจ้าวจะพลิกหน้าไม่รู้จักคนแล้วหรือ!

“เหนียงเหนียง ทรงทำเช่นนี้ได้อย่างไรเพคะ มิใช่ทรงให้หม่อมฉัน...”

ซุนตายิ่งเอ่ยอย่างหวั่นๆ

“ข้าบอกว่าอะไร!”

ฮองเฮาจ้าวมองมาด้วยสายตาเย็นชา คำพูดที่อยู่ข้างปากของซุนตายิ่ง ถูกอุดกลับไปทันที “ซุนตายิ่ง ข้าไม่ได้บอกให้เจ้าทำอะไรทั้งสิ้น!”

กล่าวจบ ก็เห็นนางมีสีหน้าขมึงทึง “ซุนตายิ่ง เจ้ารู้ความผิดหรือไม่!”

ซุนตายิ่งไม่รู้ว่าตนผิดที่ตรงไหน

“หม่อมฉัน...”

“ดูท่าเจ้ายังไม่รู้สินะ! ใครก็ได้! ลากตัวออกไปโบย โบยจนกว่านางจะรู้ความผิด!”

อย่างไรซุนตายิ่งก็นึกไม่ถึง ฮองเฮาจ้าวบทจะโบยก็คือโบย

นางถูกลากตัวออกไป โบยจนมีบาดแผลทั้งตัว ลมหายใจรวยริน

แล้วจึงนึกถึงคำพูดของหยุนหว่านหนิง ที่ว่านาง ‘ไม่สนใจกฎวังหลวง ก่อความวุ่นวายวังหลัง วางยาฝ่าบาท ’

ส่วนฮองเฮาจ้าวก็ไม่ได้บอกนางอะไรจริง เพียงแต่บอกเป็นนัยไม่กี่ประโยค...นางโง่งมทำไปเอง ทำเรื่องล่วงเกินเบื้องสูงกับโม่จงหรานอย่างนี้!

การพลิกหน้ากะทันหันของฮองเฮาจ้าว ทำให้ซุนตายิ่งหมดอาลัยตายอยาก

แล้วจึงตระหนักว่าทำไมหยุนหว่านหนิงถึงว่านางโง่!

ก็นางโง่มิใช่หรือ

โง่จนถูกคนหลอกใช้แล้วยังไม่รู้ตัว!

ถ้าได้ความโปรดปรานจากฝ่าบาท นางยินยอมพร้อมใจถูกใช้

แต่นางกลับไม่ได้อะไรเลย!

ซุนตายิ่งสิ้นหวังแล้ว ตะโกนออกมาอย่างคลุ้มคลั่ง “เหนียงเหนียง หม่อมฉันทราบความผิดแล้วเพคะ หม่อมฉันไม่กล้าอีกแล้ว!”

น่าเสียดาย ฮองเฮาจ้าวไม่แม้แต่จะมองนางสักสายตา เพียงแต่สั่งให้คนอุดปากนางด้วยความรังเกียจ

ห้องทรงพระอักษร

หยุนหว่านหนิงรอเกือบหนึ่งชั่วยาม เต๋อเฟยถึงยันกำแพงเดินออกมา

หลี่หมัวมัวรีบเข้าไปประคอง “เหนียงเหนียง ไม่เป็นไรนะเพคะ!”

ตอนนี้จะพูดจาเต๋อเฟยยังรู้สึกเปลืองแรง เสียงแหบแห้งเล็กน้อย ได้แต่ส่ายหน้า เป็นการบอกหลี่หมัวมัวให้รีบส่งนางกลับตำหนักหย่งโซ่ว

หยุนหว่านหนิงกอดอกพิงเสา พอเห็นเต๋อเฟยออกมาก็ยิ้มกริ่ม

“เสด็จแม่ ยังทรงสบายดีหรือไม่เพคะ”

เสด็จพ่อแก่แต่ยังปึ๋งปั๋งจริงด้วย!

พอเห็นหยุนหว่านหนิง เต๋อเฟยก็เก้ๆ กังๆ

แต่พอคิดถึงวันนี้ ดีที่มีนาง ซุนตายิ่งถึงไม่สำเร็จ..สีหน้านางจึงผ่อนคลายลงเล็กน้อย เอ่ยกับนางด้วยเสียงแหบพร่า “หนิงเอ๋อร์ วันนี้ลำบากเจ้าแล้ว”

หยุนหว่านหนิง “หือ???”

นางไม่ได้หูฝาดไปกระมัง

“พรุ่งนี้เจ้ามาตำหนักหย่งโซ่วสักครั้ง ข้ามีเรื่องจะพูดกับเจ้า”

หลี่หมัวมัวประคองเต๋อเฟยออกไป

หยุนหว่านหนิงมองแผ่นหลังนาง ราวกับมีความคิด

เมื่อนั้นในตำหนักก็มีเสียงของโม่จงหรานดังมา “ซูปิ่งซ่าน ซูปิ่งซ่าน?!”

ครั้นไม่ได้ยินการขานรับของซูปิ่งซ่าน โม่จงหรานก็บ่น “เจ้าสุนัขนี่ไปไหนแล้ว”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อนงค์ใจพระชายาราชสีห์