หยุนธิงหลานมองสำรวจไปรอบๆ
ที่นี่คือนอกเมือง เป็นลานที่โล่งกว้าง ไม่ไกลออกไปเป็นป่าแห่งหนึ่ง
ตอนนี้เป็นเวลาดึกดื่นเที่ยงคืน คาดหวังว่าจะมีคนผ่านมาที่นี่แล้วช่วยนาง……ไม่สู้คาดหวังว่า มีผีกระโจนออกมาจากป่า กัดพวกเขาสามคนตายไปพร้อมกันยังจะดีกว่า!
นางก็ไม่แหกปากตะโกนขอความช่วยเหลือแล้ว แต่กลับหารือกับหยุนหว่านหนิงอย่างนอบน้อมถ่อมตน
“พี่สาว ข้า ข้าผิดไปแล้ว”
สายตานางวูบวาบ ลูกตากลิ้งไปมาอย่างรวดเร็ว “ขอเพียงท่านปล่อยข้าไปคืนนี้ ข้าก็จะรับปากเงื่อนไขของท่านหนึ่งข้อ!”
“อ๋อ?”
หยุนหว่านหนิงมองดูนางอย่างขบขัน
ผู้หญิงคนนี้รู้จักแค่เพียงผู้รู้สถานการณ์คือผู้มีสติปัญญาเป็นเลิศ?
แต่ว่าสำหรับนาง เห็นได้ชัดว่าไม่ได้ถือว่าเป็นผู้มีสติปัญญาเป็นเลิศ อย่างมากก็เป็นแค่เต่าหดหัวคนหนึ่ง......
“พูดมาให้ข้าฟังหน่อย?”
หยุนหว่านหนิงหยุดการกระทำของมังกรตาเดียว
หยุนธิงหลานกลืนน้ำลายเล็กน้อย ถึงได้รีบร้อนกล่าวขึ้นมา “ท่านก็รู้ว่า ข้าน่าจะยังมีประโยชน์ให้ใช้อยู่! ไม่ว่าจะเป็นจวนกั๋วกงของเรา หรือว่าในจวนอ๋องหยิง!”
มังกรตาเดียวที่อยู่ด้านข้างทนฟังต่อไปไม่ไหวแล้ว
เขามองไปที่หยุนธิงหลานอย่างดูถูกเหยียดหยามครู่หนึ่ง “ตอนนี้ไม่มีจวนอ๋องหยิงแล้ว”
“มีเพียงจวนอ๋องสามเท่านั้น”
หยุนธิงหลานหน้าซีดทันที “จวนอ๋องสาม! ในใจของอ๋องหยิง......ท่านอ๋องสาม ข้าก็ยังมีสถานะอยู่บ้าง!”
“ถ้าหากท่านอยากจะทำอะไร บางทีข้าอาจจะเป็นสายให้ท่านได้!”
นางพยายามอย่างสุดความสามารถ เพื่อที่จะช่วงชิงเอาชีวิตที่อยู่ในมือของหยุนหว่านหนิงกลับมา
สุภาพบุรุษล้างแค้น สิบปีก็ไม่สาย
ขอเพียงแค่ยังมีชีวิตอยู่ นางก็มีโอกาสแก้แค้นความแค้นในคืนนี้!
“หืม?”
หยุนหว่านหนิงเลิกคิ้ว “ในเมื่อเจ้ารู้ว่า ตอนนี้อ๋องหยิงกลายเป็นท่านอ๋องสามแล้ว ก็รู้แล้วว่าสำหรับท่านอ๋องของข้าแล้ว โม่หุยเฟิงไม่ได้มีภัยคุกคามใดๆแล้ว”
“เหตุใดข้าถึงต้องการให้เจ้าเป็นสาย? แล้วเหตุใดถึงต้องจัดการกับโม่หุยเฟิงด้วย?”
“ข้า......”
หยุนธิงหลานอ้าปากออก แต่กลับไม่สามารถพูดอะไรออกมาสักคำ
ใช่แล้ว!
ตอนนี้โม่หุยเฟิงถือว่าล้มลงแล้ว แม้แต่ฮองเฮาจ้าวก็สูญเสียอำนาจไปแล้ว โม่หุยเหยียนก็หวังพึ่งไม่ได้อีก
เชื้อสายทางฝั่งพวกเขา ถือว่าจบลงเช่นนี้แล้ว
เหตุใดโม่เยว่กับหยุนหว่านหนิง ถึงต้องจัดการกับพวกเขาอีก? !
สองมือสองเท้าถูกเชือกรัดจนทรมาน หยุนธิงหลานขยับเล็กน้อยด้วยความยากลำบาก “แต่ท่านก็น่าจะรู้ว่า ในใจของโม่หุยเฟิงยังมีข้าอยู่!”
“ไม่อย่างนั้นครั้งนี้ข้าก่อเรื่องเช่นนี้ขึ้นมา เหตุใดเขาถึงไม่ฆ่าข้าล่ะ? !”
“ท่านน่าจะรู้ว่า เขาเป็นคนที่โหดเหี้ยมอำมหิตคนหนึ่ง!”
“ดังนั้น?”
หยุนหว่านหนิงกอดอกเอาไว้ ก็ไม่ได้รีบร้อนจะจัดการกับนาง ฟังนางพูดจนจบอย่างอดทน
“ดังนั้นท่านจะทำกับข้าเช่นนี้ไม่ได้! ดังนั้นหากโม่หุยเฟิงรู้ว่าท่านฆ่าข้า เขาจะต้องล้างแค้นให้ข้าแน่นอน!”
หยุนธิงหลานเงยหน้าขึ้นมา จ้องมองนางอย่างขุ่นเคือง “อีกอย่าง หากท่านพ่อรู้เรื่องนี้ ต้องไม่ปล่อยท่านไปแน่! ถึงเวลานั้นท่านก็จะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก คิดดูว่าท่านควรจะทำอย่างไรเถอะ!”
หยุนหว่านหนิงหัวเราะเยาะ
เมื่อครู่ยังขอร้องนางอย่างอ่อนน้อมถ่อมตน
เห็นไม้อ่อนไม่ได้ผล ก็มาไม้แข็ง จะใช้โม่หุยเฟิงกับหยุนเจิ้นซงมาข่มขู่นาง? !
น่าเสียดาย นางหยุนหว่านหนิงไม่ใช่คนที่กลัวคำข่มขู่!
นางส่ายหน้าช้าๆ “น่าเสียดาย”
“เสียดายอะไร?”
หยุนธิงหลานจ้องมองนางอย่างไม่ละสายตา
“น่าเสียดายที่เจ้ามีความงามอยู่เล็กน้อย แต่กลับไม่มีสมอง! คิดว่าหลายปีมานี้อาหารที่เจ้ากิน ล้วนกินเข้าไปในหัวของเจ้าแล้วใช่ไหม? นึกไม่ถึงว่ายังไม่สามารถชดเชยสมองที่เจ้าขาดไปได้?”
หยุนหว่านหนิงส่ายหน้าและถอนหายใจ
มังกรตาเดียวที่อยู่ด้านข้าง ตอนแรกที่ได้ยินคำพูดนี้ รู้สึกเพียงว่าเหมือนกับบทบิดลิ้นเท่านั้น
นานพักใหญ่ก็ไม่สามารถเข้าใจได้ว่า คำพูดนี้หมายความว่าอย่างไร
แต่หลังจากที่ทำความเข้าใจอย่างละเอียดแล้ว......
เขาก็อดที่จะยกนิ้วโป้งให้กับหยุนหว่านหนิงไม่ได้ “สมกับที่เป็นกูหน่ายนาย!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อนงค์ใจพระชายาราชสีห์
อัพใหม่เถอะค่ะ...
เมื่อไรจะอัพเพิ่มคะ ฮือ รอนานมากแล้วววว...
อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ บทที่ 353 - 430 หายไปไหน หายยาววววมากกกก...
รอตอนต่อไปจ้า...
สนุกดีอ่านแล้วขำ 555...