“อะไรนะ?”
หยุนธิงธิงตกตะลึง สีหน้าเปลี่ยนไปราวกับได้รับความตกใจ
มือที่กำลังม้วนเส้นผมอยู่ก็ชะงักไปเช่นกัน “พี่ใหญ่ท่านอย่าทำให้ข้ากลัวนะ! อ๋องโจวอายุมากกว่าข้าตั้งหลายปี!”
“อายุมาก ก็ยิ่งดูแลทะนุถนอมคนเป็นนะ”
หยุนหว่านหนิงกล่าวอย่างเอาจริงเอาจัง
หยุนธิงธิงขมวดคิ้ว “แต่ว่า แต่ว่าเขาสุขภาพไม่ดีนี่นา......”
คำพูดประโยคนี้ออกจะน่าอายอยู่สักหน่อย
ถ้าหากโม่เหว่ยได้ยินเข้า ต้องโกรธอย่างแน่นอน ดังนั้นนางจึงจ้องประตูห้องที่ปิดแน่นบานนั้นอย่างไม่ละสายตา ลดเสียงลงมาให้เบามาก “ข้าได้ยินมาว่าอ๋องโจวป่วยมาหลายปีแล้ว แถมยังป่วยหนักอีกด้วย”
“มีข้าอยู่ทั้งคนไม่ใช่หรือ?”
หยุนหว่านหนิงเลิกคิ้ว “เจ้ายังไม่เชื่อในทักษะทางการแพทย์ของข้าอีกหรือ?”
“ไม่ใช่ไม่เชื่อ ข้า ประเด็นหลักคือข้ากลัว......”
นางกลัวอ๋องโจว
ผู้ชายคนนี้เคร่งขรึมเกินไปจริงๆ ถึงขนาดที่ว่าแค่เห็นเขาก็เกิดความหวาดกลัวขึ้นมาแล้ว
ถ้าหากนางแต่งงานกับอ๋องโจวจริงๆ นางสามารถจินตนาการได้เลยว่าชีวิตในวันหน้าจะเป็นอย่างไร
ตัวอย่างเช่น:
หยุนธิงธิงเต็มไปด้วยความคาดหวัง: “ท่านพี่ วันนี้ข้าออกไปข้างนอกได้ไหม?”
โม่เหว่ยสีหน้าจริงจัง: “ไม่ได้”
แล้วก็อีกตัวอย่างหนึ่ง:
ใบหน้าของหยุนธิงธิงเต็มไปด้วยรอยยิ้ม: “ท่านพี่ คืนนี้ข้าดื่มสุราเล็กน้อยได้ไหม?”
โม่เหว่ยสีหน้าเยือกเย็น: “ไม่ได้”
นี่เป็นเพียงยอดภูเขาน้ำแข็ง จินตนาการของการใช้ชีวิตหลังจากที่แต่งงานกับโม่เหว่ยในหัวของหยุนธิงธิงเท่านั้น อย่างไรก็ตามเมื่อนึกถึงนางกับโม่เหว่ย หยุนธิงธิงก็ส่ายหน้าอย่างเดียว “ไม่ได้ ไม่ได้ ข้ากับอ๋องโจวไม่เหมาะสมกัน”
อยู่ในจวนอ๋องโจวของเขา พูดคุยกันเรื่องนี้ดูเหมือนจะไม่ค่อยเหมาะสมเท่าไหร่
หยุนหว่านหนิงจูงมือหยุนธิงธิงออกไปจากจวนอ๋องโจว
“ธิงธิง ข้าคิดว่าเจ้ากับอ๋องโจวความจริงแล้วก็เหมาะสมกันดี!”
นางกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ถึงแม้ว่าเจ้าจะเด็กกว่าเขาหลายปี แต่อย่างที่ข้าพูดไปเมื่อครู่นี้ อายุมากหน่อยจะยิ่งดูแลทะนุถนอมคนได้ดีมากกว่า เจ้าลองคิดดู ความแตกต่างที่น่ารักของคุณลุงกับโลลิ......”
“ก็เหมือนกับเจ้าและอ๋องโจว คนหนึ่งซุกซน คนหนึ่งเคร่งขรึม เติมเต็มซึ่งกันและกันพอดี!”
ในจินตนาการของหยุนหว่านหนิง ถ้าหากว่าโม่เหว่ยกับหยุนธิงธิงแต่งงานกัน ชีวิตในวันหน้าต้องเป็นเช่นนี้แน่นอน:
หยุนธิงธิงเต็มไปด้วยความคาดหวัง: “ท่านพี่ วันนี้ข้าออกไปข้างนอกได้ไหม?”
โม่เหว่ยสีหน้าจริงจัง: “ไม่ได้”
แต่ว่าวินาทีต่อมา เขาก็กล่าวขึ้นมาอีกว่า: “ข้ากลัวว่าเจ้าจะหลงทาง ออกไปพร้อมกับเจ้า!”
ฉากเช่นนี้ อบอวลไปด้วยความรักขนาดไหน? !
อีกอย่าง ถึงแม้หยุนธิงธิงจะยังเด็ก แต่เพราะการกลั่นแกล้งและลอบทำร้ายของนางเฉินกับหยุนธิงหลาน หยุนเจิ้นซงก็ไม่สนใจไยดีนาง.....หลายปีมานี้ นิสัยของนาง โตเป็นผู้ใหญ่กว่าเด็กสาวในวัยเดียวกันเล็กน้อย
ดูเหมือนนางจะอายุน้อย ความจริงแล้วมีความเป็นผู้ใหญ่และสุขุมมากกว่าหยุนธิงหลานเสียอีก
ถ้าหากว่าสองคนอยู่ด้วยกัน ไม่ใช่คู่ที่สมบูรณ์แบบหรอกหรือ?
หยุนหว่านหนิงรู้ดีว่า ความสัมพันธ์ของแม่สามีกับลูกสะใภ้ประคับประคองได้ยาก
เฉินกุ้ยเฟยเสียชีวิตก่อนวัยอันควร โม่เหว่ยก็ไม่ออกไปไหน ในเวลาปกติหยุนธิงธิงก็ไม่ต้องเข้าเฝ้าฮองเฮาจ้าว
ไม่มีความสัมพันธ์แม่สามีกับลูกสะใภ้รุมเร้า ช่างมีอิสรเสรีขนาดไหน!
หยุนหว่านหนิงเม้มริมฝีปากแล้วยิ้มออกมา “เจ้ากังวลเรื่องอาการป่วยของอ๋องโจว ข้าสามารถบอกเจ้าอย่างรับผิดชอบได้เลย: อ๋องโจวไม่ได้ไร้ทางรักษา! ตอนนี้ถึงขั้นดีขึ้นมาแล้ว”
หากว่าโม่เหว่ยได้เป็นน้องเขยของนาง......
จวนอ๋องโจวกับจวนอ๋องหมิง ก็จะเชื่อมโยงกันอย่างสมบูรณ์!
ตระกูลเฉินที่อยู่เบื้องหลังโม่เหว่ย ก็จะต้องสนับสนุนพวกเขาอย่างเต็มที่แน่นอน
นางช่วยโม่เยว่ดึงผู้ช่วยที่มีอำนาจเช่นนี้มาเป็นพวกได้ ดูสิว่าโม่เยว่ชายปากหมานั่นจะขอบคุณนางอย่างไร!
แต่ว่า นางก็ไม่ได้จะคิดคำนวณ ดึงโม่เหว่ยมาเป็นพวกเพื่อโม่เยว่
เหตุผลหลักคือรู้สึกว่า หยุนธิงธิงกับโม่เหว่ยมีบุคลิกเสริมกันและกัน ไม่มีที่เหมาะสมกว่านี้แล้วจริงๆ!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อนงค์ใจพระชายาราชสีห์
อัพใหม่เถอะค่ะ...
เมื่อไรจะอัพเพิ่มคะ ฮือ รอนานมากแล้วววว...
อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ บทที่ 353 - 430 หายไปไหน หายยาววววมากกกก...
รอตอนต่อไปจ้า...
สนุกดีอ่านแล้วขำ 555...