“ไม่พบ”
โม่เยว่หงุดหงิด ตวาดด้วยความโกรธ “ตอนนี้พระชายาพวกเจ้าเป็นอย่างไรไม่รู้หรือ วันนี้ต่อให้”เง็กเซียนฮ่องเต้มา ก็ไม่พบ!”
ผู้ที่มารายงานอยู่ข้างนอกคือหรูอวี้
เมื่อได้ยินเสียงตวาดของโม่เยว่ เขาก็หดหัวระมัดระวัง “แต่นายท่าน คนผู้นั้นบอกว่ามีเรื่องด่วนจะปรึกษาขอรับ”
“ไสหัวไป!”
โม่เยว่แย่งถ้วยน้ำจากมือของหยุนหว่านหนิง แล้วขว้างไปที่ประตูอย่างแรงทันที
ประตูโยกสั่นคลอนทีหนึ่ง ถ้วยน้ำตกลงพื้น คนที่อยู่ข้างนอกตกใจจนรีบหนีพัลวัน
หยุนหว่านหนิงที่กำลังดื่มน้ำ “???”
นางรู้ว่าโม่เยว่มีไฟโกรธอยู่เต็มอก
ไม่ลงกับนาง แต่หันไประบายความโกรธเกรี้ยวที่มีอยู่เต็มทรวงกับหรูอวี้แทน...ทว่าทำไมต้องแย่งถ้วยน้ำของนางไปด้วย!
นางกำลังดื่มน้ำอยู่นะ!
หยวนเป่าเห็นภาพอย่างนี้จนชินตา ไม่รู้สึกแปลกแล้ว
เขาเอื้อมมือน้อยๆ ตบบ่าโม่เยว่เบาๆ น้ำเสียงเหมือนหยุนหว่านหนิงมาก “โมโหจะเสียสุขภาพ! โมโหครั้งหนึ่ง ก็อายุสั้นวันหนึ่ง ไม่คุ้มค่าเอาเสียเลย!”
โม่เยว่ “...”
เขาตามใจเจ้าเด็กนี่เกินไปแล้วใช่หรือไม่
นี่ใช่คำพูดปลอบคนหรือ!
“เห็นแก่ที่เมื่อคืนท่านร้อนรนหมื่นส่วนช่วยท่านแม่ของข้ากลับมากลางดึก ข้าจะไม่เอาความที่ท่านแย่งถ้วยน้ำและดุนางเมื่อกี้นี้”
หยวนเป่าทำท่าทำทางเหมือน ‘เด็กไม่เอาความผู้ใหญ่’
โม่เยว่อัดอั้นตันใจยิ่งกว่าเดิม
หยุนหว่านหนิงเงยหน้าขึ้นมาจากทรวงอกของเขา “นี่มันอะไรกัน มีใครบอกข้าได้ไหม”
โม่เยว่ยังคงสบตากับหยวนเป่า
“นี่?”
หยุนหว่านหนิงยื่นมือโบกตรงหน้าทั้งสองคน “มีคนได้ยินข้าพูดหรือไม่”
หยวนเป่าดึงสติกลับมาก่อน
เขาทำตัวอย่างกับผู้ใหญ่ ถอนหายใจเบาๆ “ท่านแม่ ท่านก็โตขนาดนี้แล้ว จะให้สบายใจหน่อยไม่ได้เลยนะ!”
“ดึกดื่นเที่ยงคืน ท่านไปเขาหยุนอู้ทำอะไร พี่หรูอวี้บอกว่าที่นั่นมีผีออกอาละวาด!”
เมื่อคืนหลังจากโม่เยว่ได้ยินหรูอวี้รายงานแล้ว ก็จะรีบตามหยุนหว่านหนิงไปทันที
แต่กลับถูกหยวนเป่าขวางไว้ เขาเป็นห่วงมารดา จะไปด้วย
โม่เยว่ปลุกปลอบพักใหญ่ก็ไม่เป็นผล ยังเป็นหรูอวี้เสียอีก บอกว่า ‘เขาหยุนอู้มีผีออกอาละวาด’ ถึงทำหยวนเป่ากลัวจนนิ่งไป
เขาไม่กลัวอะไรทั้งนั้น กลัวแต่ผี
ดังนั้นหลังจากโม่เยว่ถูกรั้งอยู่นาน ก็ได้ออกเดินทางสักที
พอถึงเขาหยุนอู้ หยุนหว่านหนิงก็หมดสติไปแล้ว
หยุนหว่านหนิงเห็นท่าทางเป็นห่วงของหยวนเป่า จึงลูบใบหน้าเขาอย่างเบามือ ปลอบใจเสียงเบา “ข้าไม่เป็นไร”
“ข้ารู้ว่าท่านไม่เป็นไร แต่พ่อเก๊เป็นห่วงท่านจะตายอยู่แล้ว!”
หยวนเป่าตัวเล็กแต่แผนแยอะ
เนื่องจากโม่เยว่ละเลยหยุนหว่านหนิงสี่ปี กับพ่อเก๊คนนี้ หยวนเป่าจึง...
จะเอาแต่ระบายอารมณ์แทนมารดาท่าเดียว ด้วยเหตุนี้จึง ‘หาเรื่อง’ เขาอยู่ร่ำไป
แม้เขายังเป็นเด็กน้อย แต่กลับมีเหตุผล รู้ผิดชอบ
หนนี้หยวนเป่าเห็นว่าโม่เยว่เป็นห่วงหยุนหว่านหนิงขนาดไหน
ดังนั้นยามนี้จึงมีใจช่วยเขาพูด
“ข้าไม่ได้เป็นห่วงสักหน่อย”
โม่เยว่ปากแข็ง ปากไม่ตรงกับใจ
สวรรค์รู้ เมื่อคืนตอนที่เขาเห็นท่าทางนางนอนจมกองเลือดหมดสติอยู่ในพุ่มหญ้า ราวกับตุ๊กตาดินเคลือบแตกง่าย...ขณะนั้นหัวใจเขาก็เจ็บแปลบอย่างรุนแรงทีหนึ่ง!
ราวกับถูกคนใช้ของแหลมอะไรทิ่มแทงหัวใจ
ครั้นความเจ็บผ่านพ้น ก็คืออาการหมดแรงอย่างไม่มีสิ้นสุด เจ็บหนักๆ
ขณะนั้น นอกจากม้าที่อยู่เป็นเพื่อนข้างกายนางแล้ว ข้างตัวนางก็ไม่มีใครอื่น
เขาช้อนตัวนางไว้ในอก แล้วจึงพบว่าที่แท้สาวน้อยที่หน้าขึงปากแข็ง กระทำการรุนแรงเฉียบขาดในยามปกติ กลับตัวเบาขนาดนี้
เขาพานางกลับเมืองหลวงทันที ไม่สนใจว่าจะดึกดื่นขนาดไหน สั่งหรูโม่หิ้วตัวหมอหลวงหยางที่ยังอยู่ในความฝันมาจวนอ๋องหมิง
หมอหลวงหยางไม่ได้รับความเป็นธรรมอย่างยิ่ง!
เขาอายุมากแล้ว นอนหลับยาก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อนงค์ใจพระชายาราชสีห์
อัพใหม่เถอะค่ะ...
เมื่อไรจะอัพเพิ่มคะ ฮือ รอนานมากแล้วววว...
อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ บทที่ 353 - 430 หายไปไหน หายยาววววมากกกก...
รอตอนต่อไปจ้า...
สนุกดีอ่านแล้วขำ 555...