เหมี่ยวที่แล้ว โม่เยว่ยังทำหน้าขึงขังอยู่
เหมี่ยวถัดมา กลับมีดวงหน้าเป็นห่วงเป็นกังวลเพราะคำว่า ‘ปวดหัว’ ของนาง
หยุนหว่านหนิงได้เห็นอีกครั้ง ความโหดเหี้ยมและความไร้หัวใจที่เขาทำกับนางเมื่อสี่ปีที่แล้ว...ผู้ชายคนนี้ไม่ได้ไร้หัวใจและโหดเหี้ยมมาแต่กำเนิด
ความโหดเหี้ยมไร้หัวใจของเขา เป็นเพราะเกิดอยู่ในราชวงศ์ เติบใหญ่แบบถูกบีบบังคับ
เพราะเจ้าของร่างหยุนหว่านหนิงรนหาที่เอง สุดท้ายจึงกลายเป็นความแค้นในใจเขา
ที่แท้ผู้ชายคนนี้ก็มีด้านที่อ่อนโยนเอาใจใส่เช่นนี้เหมือนกัน
เมื่อเผชิญหน้ากับความสงสารและกังวลของเขา หยุนหว่านหนิงก็มีอารมณ์ซับซ้อนหลายหลากชั่วขณะ
“ข้าไม่เป็นไร ล้อเจ้าเล่นน่ะ”
นางผ่อนคลายสีหน้าเล็กน้อย ยิ้มตอบ “นี่มันยามใดแล้ว วันนี้เจ้าไม่เข้าวังไปประชุมเช้าหรือ”
“เสด็จพ่อทรงทราบว่าเจ้าป่วย ก็เลยอนุญาตให้ข้าอยู่บ้านเป็นเพื่อนเจ้าสองสามวันโดยเฉพาะ”
เมื่อเห็นนางไม่เป็นไร โม่เยว่จึงโล่งอก ทว่าสีหน้ายังบูดบึ้งนิดหน่อยเหมือนเดิม “หยุนหว่านหนิง ถ้าคราวหน้าเจ้ารนหาที่ตายอีก ข้าจะไม่สนใจเจ้าแล้วนะ
หยวนเป่าเบะปากเล็ก “เป็ดถึงตายก็ยังปากแข็ง!”
“หยุนเสี่ยวหยวน เจ้าเชื่อหรือไม่ วันนี้ข้าจะอัดเจ้า”
โม่เยว่มองเขาด้วยความโมโห
“เหมือนกับที่คิดเลย นี่แหละคือผู้ชาย! มีภรรยาแล้วก็ลืมลูก ข้าคือเด็กที่พวกท่านเก็บมาจากถังขยะกระมัง”
หยวนเป่าส่ายหน้าด้วยท่าทางจริงจัง
ทำเหมือนกับตาเฒ่าตัวน้อย ส่ายหัวพลางถอนหายใจ เอามือไพล่หลังเดินออกนอกประตู “ได้ ข้ารู้แล้วว่าข้าเป็นกขคอยู่ไปก็ขวางหูขวางตาพวกท่าน ลาก่อน!”
“อุ๊บ”
หยุนหว่านหนิงอดไม่ได้ หัวเราะออกมา
ดูท่าจะได้ผลกระทบมาจากโม่จงหรานเสด็จปู่ท่านนี้ไม่น้อยเลยทีเดียว
อยู่ตำหนักสิงกงแค่ไม่กี่วัน หยวนเป่าก็เลียนแบบท่าเดินเอามือไพล่หลังได้สมบูรณ์แบบแล้ว
แม้แต่ส่วนสำคัญในการส่ายหน้าพลางถอนหายใจก็เลียนแบบมาหมด
หยวนเป่าในเวลานี้ ประหนึ่งโม่จงหรานฉบับย่อส่วน...
สมกับที่เป็นปู่กับหลาน!
“เจ้าเด็กนี่ ช้าเร็วข้าต้องอัดเขายกหนึ่งแน่! จะสี่ขวบแล้ว ซ้อมได้แล้วกระมัง”
โม่เยว่กัดฟัน
บุตรชายคนนี้ เป็นดาวพิฆาตในชีวิตเขาโดยแท้!
แต่หากเขาพูดหนักหน่อย ตัวเองก็จะยิ่งสงสารเขา ไหนเลยจะลงมือซ้อมเขาได้
แม้จะเป็นยามนี้ หากหยวนเป่าบอกว่าต้องการขี่คอเขาเก็บดาว โม่เยว่ก็จะนั่งลง ให้เขาขี่คอวางอำนาจเบ่งบารมีอย่างไม่ลังเลทันที!
ช่างเถอะๆ!
ชีวิตนี้ของเขา เย็นชากับทุกคน
แต่กลับไม่สามารถเย็นชากับหยุนหว่านหนิงและหยวนเป่าได้
สองแม่ลูกนี่ คนหนึ่งคือเนื้อในอกของเขา คนหนึ่งคือสมบัติในมือของเขา
ไม่ว่าสองแม่ลูกนี่จะทำให้เขาโมโหอย่างไร เขาก็ได้แต่แบกรับแล้ว!
โม่เยว่ก้มหน้ามองหยุนหว่านหนิงที่มีรอยยิ้มเปื้อนเต็มดวงหน้า หัวใจอ่อนยวบ “หิวหรือไม่ ข้าจะสั่งห้องครัวทำโจ๊กเนื้อไก่ฉีกที่เจ้าชอบที่สุดให้เจ้ากิน”
“ดี”
หยุนหว่านหนิงลุกจากอ้อมอกของเขา แล้วนั่งพิงกับหมอน
หลังจากมองส่งโม่เยว่ออกไปแล้ว ดวงตานางก็กะพริบเล็กน้อย
ในหัวอดคิดถึงเรื่องเมื่อคืนไม่ได้ อาการของซ่งจื่ออวี๋
เป็นใครกันแน่ ที่สามารถทำให้เขาบาดเจ็บอย่างนี้ได้!
เสวียนซันเซียนเซิงอยู่ที่ไหน!
แล้วยังตอนที่นางกำลังจะหมดสติอีก เป็นใครที่เรียกนางว่า ‘หนิงหนิง’ อยู่ข้างใบหู
เสียงนี้คุ้นมาก ราวกับผ่ามิติ มาจากศตวรรษที่ยี่สิบเอ็ดอันไกลโพ้น...
ขณะเดียวกัน ณ ตำหนักหย่งโซ่ว
โม่จงหรานกับเต๋อเฟยยังทำสงครามวิวาทะยังไม่จบ
ซูปิ่งซ่านและหลี่หมัวมัวที่ปากประตูสบตากัน จากนั้นก็พากันเกาศีรษะร้อนใจ
“นี่จะทำอย่างไรดี”
สุดท้ายยังเป็นหลี่หมัวมัวที่อดไม่ได้ เอ่ยปากถามก่อน “ตั้งแต่เหนียงเหนียงเข้าวังมา ฝ่าบาทกับเหนียงเหนียงก็ไม่เคยโต้เถียงกันหนักขนาดนี้มาก่อนกระมัง”
“นั่นสิ!”
ซูปิ่งซ่านตบมือ “วันนี้จะทำอย่างไรดี”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อนงค์ใจพระชายาราชสีห์
อัพใหม่เถอะค่ะ...
เมื่อไรจะอัพเพิ่มคะ ฮือ รอนานมากแล้วววว...
อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ บทที่ 353 - 430 หายไปไหน หายยาววววมากกกก...
รอตอนต่อไปจ้า...
สนุกดีอ่านแล้วขำ 555...