อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ นิยาย บท 301

"ใคร?"

โม่จงหรานเชิดปลายคางขึ้น

"น้องสาวคนรองของหม่อมฉัน หยุนธิงหลาน "

หยุนหว่านหนิงพูดด้วยสีหน้าจริงจัง "ตอนนี้ชื่อเสียงของนางพังป่นปี้ไม่มีเหลือแล้ว ทุกคนในเมืองหลวงต่างก็รู้กันหมด ว่านางเป็นคนของอ๋องสามแล้ว"

“ติดอยู่ที่ว่าอ๋องสามไม่ยอมเอ่ยปาก รับนางเข้าจวนอ๋อง”

“น้องรองก็อายุถึงเกณฑ์แล้ว ในเมืองหลวงก็ไม่มีใครที่กล้าแต่งงานกับนาง”

นางถอนหายใจเบา ๆ “หากยังเป็นเช่นนี้ต่อไป เกรงว่าน้องรองคงต้องอยู่ตัวคนเดียวไปจนแก่ กลายเป็นสาวเทื้ออยู่ในจวนไปตลอดชีวิตแน่แล้ว....”

"ดังนั้น นี่จึงเป็นเหตุผลที่หม่อมฉันมาขอร้องเสด็จพ่อ ให้พระราชทานสมรสให้แก่อ๋องสามกับน้องรองเพคะ!"

เมื่อได้ยินประโยคนี้ โม่จงหรานก็ขมวดคิ้ว "นี่เจ้าคิดจะมาไม้ไหนอีกล่ะ?"

เขาไม่เชื่อเด็ดขาด ว่าหยุนหว่านหนิงจะใจดีมีเมตตาขนาดนั้น!

นางกับจวนยิ่งกั๋วกง ได้ตัดขาดความสัมพันธ์จนขาดสะบั้นกันไปตั้งนานแล้ว

กระทั่งความเป็นความตายของหยุนเจิ้นซง หยุนหว่านหนิงก็อาจจะไม่สนใจเลยด้วยซ้ำ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงหยุนธิงหลานเลย

“เจ้าอย่าคิดว่าข้าจะถูกหลอกได้ง่าย ๆ จะดีกว่า”

โม่จงหรานพูดว่า "เจ้ากับหยุนธิงหลานเป็นพี่น้องที่รักใคร่สมานฉันท์ หรือเกลียดแค้นชิงชังกัน ในใจข้าย่อมรู้ดี มีหรือที่เจ้าจะนึกเป็นกังวลเรื่องการแต่งงานของหยุนธิงหลาน?"

หยุนหว่านหนิงถึงกับหัวเราะแห้ง

คิดไม่ถึงเลยว่าโม่จงหรานจะเข้าใจนางดีขนาดนี้.....

เหตุผลที่นางมาขอร้องให้เขาประทานงานแต่งให้โม่หุยเฟิงกับหยุนธิงหลาน ต้องไม่ใช่เพราะนางห่วงใยหยุนธิงหลานแน่

ก่อนหน้านี้ นางเคยพูดคุยกับสองคนนี้เรียบร้อยแล้ว

โม่หุยเฟิงรับปาก ว่าเขาจะรับหยุนธิงหลานมาเป็นพระชายารอง

หยุนธิงหลานก็รับปากแล้วด้วย ว่าเมื่อได้เข้าไปในจวนอ๋องสาม นางจะทำตามความต้องการของหยุนหว่านหนิง

แต่ใครจะคิดล่ะว่าเวลาผ่านไปตั้งหลายวันแล้ว โม่หุยเฟิงก็ยังไม่เอ่ยปากว่าจะแต่งตั้งหยุนธิงหลานเป็นพระชายารอง ส่วนหยุนธิงหลานก็ไม่ยอมเป็นฝ่ายมาหานางที่จวนอ๋องหมิง เพื่อบอกเล่าเกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบันเลย

ดูเหมือนว่า สองคนนี้จะไม่เชื่อนาง

ยังไม่ยินดีที่จะ "เปลี่ยนจากศัตรูมาเป็นมิตร" กับนาง และไม่พร้อมที่จะ "ร่วมมือ" กับนาง

ในเมื่อเป็นแบบนี้ นางก็ทำได้แค่ต้องใช้สาลิกาลิ้นทองเพื่อ "ช่วย" พวกเขาสักหน่อยแล้ว!

ขอแค่โม่จงหรานมีราชโองการลงไป ใครจะกล้าขัดขืนล่ะ? !

“เสด็จพ่อ ท่านไม่ได้สอนอ๋องฮั่นบ่อย ๆ หรอกหรือ ว่าพวกเขาพี่น้องต่อให้หักกระดูกจนสะบั้น แต่สายเลือดก็ยังเชื่อมโยงกันได้อยู่น่ะ? ถึงอย่างไรสุดท้ายแล้ว พวกเขาก็เป็นพี่น้องร่วมสายเลือดเดียวกัน ซึ่งก็เหมือนกันกับหม่อมฉันและหยุนธิงหลานนี่แหล่ะเพคะ!”

นางพูดด้วยสีหน้าจริงจังว่า "ต่อให้ความสัมพันธ์ของหม่อมฉันกับหยุนธิงหลานจะไม่ดีขนาดไหน นางก็เป็นน้องสาวแท้ ๆ ของหม่อมฉันนะเพคะ....."

"จริงรึ?"

โม่จงหรานฟังคำอธิบายของนาง ก็รู้สึกเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง

"จริงแท้เสียยิ่งกว่าทองแท้อีกเพคะ"

หยุนหว่านหนิงพยักหน้าอย่างเคร่งขรึม "เสด็จพ่อ ท่านได้โปรดพระราชทานงานสมรสให้แก่พวกเขาด้วยเถิดเพคะ! อ๋องสามรักน้องรองมาก รักจนจะเป็นจะตายให้ได้แล้ว"

“เรื่องนี้ท่านลองไปถามใครดูก็ได้ ท่านก็จะรู้เองเพคะ”

"แล้วข้าจะได้ประโยชน์อะไรล่ะ?"

โม่จงหรานเลิกคิ้วสูง จ้องมองนางนิ่ง ๆ "เจ้าอย่าคิดนะ ว่าข้าไม่รู้ว่าเจ้ามีแผนการอะไรอยู่ในใจ?"

“หม่อมฉันไม่เข้าใจความหมายของเสด็จพ่อเพคะ”

หยุนหว่านหนิงแสร้งทำเป็นไม่เข้าใจ

“แสร้งทำเป็นโง่ต่อหน้าข้ารึ?”

โม่จงหรานแค่นเสียงเย็นชา "เจ้าอยากให้ข้าช่วยเจ้า นั่นก็ย่อมได้! แต่เจ้าเองต้องรับปากเงื่อนไขของข้าข้อหนึ่งก่อน"

หยุนหว่านหนิงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง "นี่ก็ต้องดูก่อนว่า เงื่อนไขของเสด็จพ่อคืออะไรแล้วล่ะ...."

"วางใจเถอะ สำหรับเจ้าแล้ว เป็นเรื่องง่าย ๆ เหมือนปอกกล้วยเข้าปากเลยล่ะ"

เขาถูไม้ถูมือ ก่อนจะกระซิบบางอย่างกับหยุนหว่านหนิงด้วยเสียงแผ่วเบา

พูดจบ ก็มองนางด้วยสายตาเปี่ยมความหวัง "ได้หรือไม่?"

นี่มันใช่เงื่อนไขซะที่ไหนกันล่ะ?

เห็นอยู่ชัด ๆ ว่าเขาจะขอให้นางทำธุระให้มากกว่า!

หยุนหว่านหนิงกระแอมในลำคอเบา ๆ "ถ้าหม่อมฉันช่วยเสด็จพ่อทำเรื่องนี้ เสด็จพ่อก็จะพระราชทานงานแต่งให้อ๋องสามกับน้องรอง?"

“ได้ คำไหนคำนั้น”

โม่จงหรานปรบมือ เดินไปที่หลังโต๊ะแล้วนั่งลง "ข้าจะออกราชโองการตอนนี้เลย! แต่จะรอจนกว่าเจ้าจะจัดการกับธุระเรื่องนี้เสร็จ ถึงจะสั่งการลงไป"

หยุนหว่านหนิงทำสัญญาณมือว่า "ตกลง" ส่งไปให้ จากนั้นก็หันหลังกลับแล้วเดินจากไป

ทิศทางที่นางมุ่งไป คือตำหนักหย่งโซ่ว

เมื่อเข้าประตูไป ก็พบว่าโม่เฟยเฟยอยู่ที่นั่นด้วย

เมื่อเห็นว่าหยุนหว่านหนิงมาแล้ว นางก็รีบโบกมือมาให้อย่างรวดเร็ว "พี่สะใภ้ รีบเข้ามาเร็วเข้า!"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อนงค์ใจพระชายาราชสีห์