อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ นิยาย บท 345

“หรือไม่ เรารีบเชิญอ๋องหมิงกับพระชายาหมิงเข้าวังมาหารือเรื่องนี้กันดีหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”

ซูปิ่งซ่านแนะนำ

"ไม่ได้"

โม่จงหรานส่ายหน้า "เมื่อครู่นี้ฮองเฮาแค่มาลองหยั่งเชิงข้า ถ้าข้ารีบสั่งให้เจ้าเจ็ดกับหว่านหนิงเข้าวังทันที นั่นจะทำให้ฮองเฮานึกสงสัยขึ้นได้"

“ฝ่าบาท แล้วเช่นนั้นพวกเราควรทำอย่างไรต่อไปพ่ะย่ะค่ะ?”

ซูปิ่งซ่านร้อนใจจนเหงื่อแตกเต็มใบหน้า

พระนัดดาองค์ใหญ่ของฝ่าบาทผู้นี้ เขาทั้งรักและเคารพมาก

ซูปิ่งซ่านยกมือขึ้นกุมหัวอย่างเคร่งเครียด "ฝ่าบาท แต่ไหนแต่ไรมาฮองเฮาก็ลงมืออย่างโหดเหี้ยมไร้ความเมตตามาโดยตลอด ถ้าให้นางรู้เรื่องการมีอยู่ของพระนัดดาองค์ใหญ่ของราชวงศ์ ข้าเกรงว่าพระนัดดาอาจจะตกอยู่ในอันตรายได้นะพ่ะย่ะค่ะ!"

"ข้ารู้แล้ว"

โม่จงหรานยืนขึ้น เดินเอามือไพล่หลังวนเวียนไปมา

เรื่องนี้ ไม่ได้มีแค่ฮองเฮาจ้าวคนเดียวที่รู้

ยังมีโม่หุยเหยียน.....

ถ้าคิดจะปิดปาก ก็ไม่อาจปิดปากพวกเขาพร้อมกันได้

แต่ในช่วงเวลาหัวเลี้ยวหัวต่อเช่นนี้ หากไปทำอะไรพวกเขาสองคนแม่ลูก ก็เกรงว่าอาจจะยิ่งทำให้เกิดความน่าสงสัยมากขึ้นกว่าเดิม

หลังจากครุ่นคิดไปมา ในดวงตาของโม่จงหรานก็ผุดฉายแววอำมหิตขึ้นมาสายหนึ่ง "เพื่อความปลอดภัยของหยวนเป่า คงต้องตัดใจใช้วิธีถ้าไม่ทำก็คือไม่ทำ แต่เมื่อจะทำ ก็ต้องทำให้ถึงที่สุดโดยไม่ฟังอีร่าค่าอีรมอะไรทั้งนั้นแล้วล่ะ..... "

เขาหันไปมองซูปิ่งซ่าน สีหน้ามืดทะมึน

ซูปิ่งซ่านรู้ได้ทันที ว่าเขามีความคิดอะไรบางอย่างแล้ว จึงรีบก้าวขึ้นไปข้างหน้า

โม่จงหรานกระซิบกับเขาไปสองสามคำ สีหน้าของซูปิ่งซ่านเปลี่ยนไปเล็กน้อย จากนั้นก็ทำความเคารพแล้วถอยออกไป

เท้าหน้าเพิ่งจะก้าวพ้นประตู เว่ยกั๋วกงก็มาอีกแล้ว

เขาไปที่ตำหนักคุนหนิง แต่คนในตำหนักบอกว่าฮองเฮาอยู่ที่ห้องทรงพระอักษร

ด้วยเหตุนั้น เว่ยกั๋วกงจึงตามมาที่ห้องทรงพระอักษรอีกครั้ง

ใครจะรู้ล่ะว่า จะได้ไปเจอโม่จงหรานตอนที่กำลังอารมณ์ไม่ค่อยดีเข้า เว่ยกั๋วกงไม่เพียงถูกตำหนิจนหน้าแดงหูร้อน แต่ยังถูกไล่ตะเพิดออกจากห้องทรงพระอักษรด้วย!

ด้วยความอับอายและขุ่นเคือง เว่ยกั๋วกงจึงนำบัญชีแค้นทั้งหมดนี้ ไปสุมไว้บนหัวของฮองเฮาจ้าวอีก

...............

วันถัดมา

ฮองเฮาจ้าวตื่นแต่เช้า กำลังคิดจะเรียกจางหมัวมัวเข้ามาเพื่อถามว่า ตอนนี้ยามอะไรแล้ว

แต่พออ้าปาก กลับไม่สามารถส่งเสียงออกมาได้แม้แต่น้อย!

ฮองเฮาจ้าวตกใจแทบตาย รีบพลิกตัวลุกขึ้นนั่งทันที ยื่นมือขึ้นมาลูบ ๆ ที่ลำคอ แล้วพยายามร้องตะโกนออกไปที่ประตูอีกครั้ง...

แต่น่าเสียดาย ที่ยังคงไม่มีเสียงหลุดรอดออกมาเช่นเดิม

ฮองเฮาจ้าวตกใจจนเซ่อไปแล้ว!

ทำไมแค่นอนหลับไปงีบเดียว นางถึงเสียงหายไปได้ล่ะ? !

นางไม่สนใจสภาพอากาศที่หนาวจัด ก้าวเดินเท้าเปล่าออกไปเพื่อตามจางหมัวมัวทันที

เนื่องจากตื่นตระหนกเกินไป ไม่ทันระวังเผลอไปชนใส่แจกันบนตู้หล่นลงมา ทำให้ข้างนอกตื่นตกใจ จางหมัวมัวรีบผลักเปิดประตูเข้ามาทันที "ฮองเฮา ทรงตื่นบรรทมหรือยังเพคะ?"

สิ่งที่เข้าสู่สายตาของนางคือเสื้อผ้าที่ยุ่งเหยิง กับสีหน้าที่ตื่นตระหนกของฮองเฮาจ้าว

สีหน้าของจางหมัวมัวเปลี่ยนไปทันที "อั้ยโยว! โธ่เอ๊ย! ฮองเฮา ทำไมท่านถึงลงมาเดินด้วยเท้าเปล่าอย่างนี้ล่ะเพคะ?"

"ถ้าต้องลมเย็นจนเป็นหวัดไป จะทำอย่างไรล่ะเพคะ?"

ฮองเฮาจ้าวคว้าตัวนางไว้ทันที พยายามเปล่งเสียงพูด

แต่ทำได้แค่อ้าปากพะงาบ ๆ ยังคงพูดอะไรไม่ออกเหมือนเดิม!

ดวงตาของฮองเฮาจ้าวเบิกกว้างอย่างร้อนใจ!

จางหมัวมัวก็ร้อนใจจนเหงื่อแตกโซมกายแล้วเหมือนกัน จับมือของนางจนแน่น "เหนียงเหนียง นี่ท่านพยายามจะพูดอะไรกันแน่เพคะ? โปรดพูดเสียงดัง ๆ หน่อย! ข้าน้อยไม่ได้ยินเสียงท่านเลย!"

นางคิดในใจว่า หรือเพราะนางแก่จนถึงวัยหูหนวกแล้ว จึงไม่ได้ยินเสียงของฮองเฮา?

ฮองเฮาจ้าวอ้าปากให้กว้างยิ่งขึ้น

สีหน้าของจางหมัวมัวเปลี่ยนแปลงอย่างหนัก "แย่แล้ว ๆ ข้าน้อยหูหนวกไปแล้วหรือนี่?"

นางขยี้หูตัวเองอย่างแรง

ฮองเฮาจ้าว: "....."

“เหนียงเหนียง ท่านโปรดกลับที่เตียงก่อนนะเพคะ ข้าน้อยจะไปหาหมอหลวงหยาง หูของข้าน้อยวันนี้เหมือนว่ามันจะใช้การไม่ได้แล้วเพคะ”

พูดจบ จางหมัวมัวก็สะบัดมือวิ่งออกไปด้วยสีหน้าตื่นตกใจจนขวัญหนีดีฝ่อ

นางตื่นตระหนกเสียยิ่งกว่าตอนที่ฮองเฮาจ้าวรู้ตัวว่าเสียงหายเมื่อครู่นี้อีก ขณะที่ตกอยู่ในความตื่นตระหนก นางวิ่งจนหัวไปกระแทกเข้ากับกรอบประตูดัง "โป๊ก" เสียงดังสนั่นหวั่นไหวนั้น ทำเอาฮองเฮาจ้าวรู้สึกเจ็บแทนนางเลยทีเดียว!

นางมองดูจางหมัวมัววิ่งออกไปด้วยสีหน้ายุ่งเหยิง นั่งบนเตียงแล้วเริ่มทำสมาธิ

นางแค่นอนหลับไปคืนเดียวตามปกติแท้ ๆ ทำไมจู่ ๆ เสียงถึงหายไปได้?

..........................

จวนอ๋องหมิง

หยุนหว่านหนิงยังไม่ลุกจากเตียง โม่เยว่ก็เข้าวังไปประชุมราชการเช้าแล้ว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อนงค์ใจพระชายาราชสีห์