(*อธิบายเพิ่มเติม ที่จริงแล้วประโยคนี้เป็นมุกซึ่งมีที่มาจากวรรณกรรมคลาสสิคหนึ่งในสี่ของจีนที่มีชื่อว่า《ซ้องกั๋ง》เป็นคำพูดที่พานจินเหลียนพูดกับสามีชื่ออู๋ต้าหลาง โดยมีเจตนาแอบวางยาพิษในยาให้เขาดื่มจะได้ตายไปให้พ้น ๆ ทาง(เนื่องจากพานจินเหลียนมีชู้) ต่อมาประโยคนี้ถูกชาวเน็ตจีนส่วนใหญ่เอามาเล่นเป็นมุก หรือทำเป็นมีมในทำนองที่ว่า แกจงเตรียมตัวตายซะเถอะ! นั่นเอง)
ในห้องบรรทม รอบเตียงรายล้อมไปด้วยหมอหลวงที่เบียดกันจนแน่นขนัด ชนิดไม่เหลือช่องว่าง
เมื่อเห็นหยุนหว่านหนิงเข้าไปในห้องบรรทม ฉินซื่อเสวียก็รีบพูดกับโม่จงหรานว่า "เสด็จพ่อ บางทีพระชายาหมิงอาจต้องการคนช่วย หม่อมฉันก็ขอเข้าไปดูด้วยเถอะนะเพคะ"
“เจ้ารู้วิธีรักษาอาการป่วยของฮองเฮารึ?”
โม่จงหรานกวาดหางตาไปมองนางอย่างเย็นชาแวบหนึ่ง
“หม่อมฉัน..…ไม่มีความสามารถเท่าพระชายาหมิง”
ฉินซื่อเสวียก้มหน้าลงด้วยความอับอาย
ทำไมประโยคนี้ฟังดูแล้ว ให้ความรู้สึกว่ามันแปลก ๆ ชอบกล ?
โม่จงหรานเป็นผู้ชายประเภทที่คิดอะไรก็พูดแบบนั้น "ข้าแค่ถามว่าเจ้ารักษาอาการป่วยของเสด็จแม่ของเจ้าได้หรือไม่? ทำไมถึงกลายเป็นเรื่องที่เจ้ามีความสามารถไม่เท่าเมียเจ้าเจ็ดไปได้ล่ะนี่?"
“แต่ถ้าพูดกันตามตรง เจ้าก็มีความสามารถไม่เท่าเมียเจ้าเจ็ดจริง ๆ นั่นแหล่ะ”
ฉินซื่อเสวียถึงกับมีสีหน้าตกตะลึง น้ำตาเอ่อคลอเต็มสองเบ้าตา.....
โม่จงหรานกระแอมไอเบา ๆ “เมียเจ้าสาม ข้าก็แค่พูดตามความจริง! ข้าเป็นคนพูดตรง ถ้าเจ้าคิดว่าสิ่งที่ข้าพูดมันรุนแรงเกินไป ข้าก็พร้อมจะเก็บคำพูดคืนมา”
สีหน้าของโจวหยิงหยิงดูแปลกพิกล
เสด็จพ่อจะใจดีได้ขนาดนี้เชียวรึ?
เป็นไปตามคาด วินาทีต่อมาโม่จงหรานก็พูดขึ้นอีกครั้งว่า "แต่พูดก็พูดเถอะ เจ้ามีความสามารถไม่เท่าเมียเจ้าเจ็ดจริง ๆ นะ"
ฉินซื่อเสวีย: "....."
นางอยากจะแผดเสียงร้องไห้ "โฮ" ออกมาให้ดังลั่นสุดเสียงจริง ๆ แต่ก็กลัวว่าจะถูกโม่จงหรานรังเกียจเข้าอีก
“ไม่ใช่แค่เจ้านะ พวกเจ้าทุกคนล้วนด้อยกว่าเมียเจ้าเจ็ดกันหมด”
โม่จงหรานยื่นมือออกไป ชี้โดยเริ่มจากหนานกงเยว่ ไปถึงโจวหยิงหยิง จากนั้นก็วนกลับมาที่ฉินซื่อเสวีย
เวลานี้ สีหน้าของบรรดาสะใภ้ต่างก็น่าเกลียดจนแทบดูไม่ได้ ยกเว้นแค่โจวหยิงหยิงคนเดียว
นางผงกหัวราวกับไก่จิกข้าวสาร "เสด็จพ่อพูดได้ถูกต้องแล้วเพคะ! หนิงเอ๋อร์คือคนที่ข้ารู้สึกยกย่องชื่นชมที่สุด!"
“เมียเจ้าสาม เจ้าก็อย่าได้ไม่พอใจไปเลยนะ! ถ้าเจ้าสามารถเข้าไปช่วยเมียเจ้าเจ็ดได้ก็ยังนับว่าพอไหว แต่เจ้าไม่รู้อะไรในเรื่องการแพทย์เลยสักอย่าง เข้าไปก็มีแต่จะยิ่งไปเพิ่มความยุ่งยากวุ่นวายเปล่า ๆ ไม่สู้รออยู่ข้างนอกนี่ยังจะดีเสียกว่า”
พูดพลาง โม่จงหรานก็นั่งลงบนเก้าอี้ข้าง ๆ แล้วจิบชาอย่างช้า ๆ
ฉินซื่อเสวียทนต่อไปอีกไม่ไหวแล้ว จึงหันหน้าหนีไปแอบร้องไห้เงียบ ๆ
เมื่อครู่นี้ทำไมนางถึงต้องหาเรื่องใส่ตัวด้วยนะ!
สายตาของนางมองจ้องเข้าไปในตำหนัก ความขุ่นข้องเคืองแค้นในดวงตาฉายชัดจนปิดไม่มิด
ส่วนเจ้าของเงาร่างที่ถูกนางจับจ้องด้วยสายตาอย่างแน่นหนา เวลานี้กำลังตรวจสอบลำคอของฮองเฮาจ้าวอยู่
หลังจากทนต่อการโจมตีอันรุนแรงของอาการเสียงหายไม่ไหว ฮองเฮาจ้าวก็เป็นลมหมดสติไปแล้วเรียบร้อย
หมอหลวงหยางเดินตามอยู่ด้านหลังของหยุนหว่านหนิง เอาแต่พูดพล่ามซ้ำไปซ้ำมาไม่หยุดว่า "พระชายาหมิง เมื่อครู่นี้กระหม่อมลองตรวจสอบดูแล้ว ลำคอของฮองเฮาไม่ได้มีปัญหาอะไรเลย แต่ทำไมอยู่ดี ๆเสียงถึงหายไปได้ล่ะ?"
“ฮองเฮาสลบยังไม่ฟื้น กระหม่อมได้ฝังเข็มให้พระนางแล้ว แต่จนบัดนี้ฮองเฮาก็ยังไม่ฟื้นขึ้นมาเลย”
"มันมีสาเหตุมาจากอะไรหรือ?"
เขาเอาแต่พูดพล่ามไม่หยุด ซึ่งน่ารำคาญยิ่งกว่าพระถังซัมจั๋งร่ายคาถาบีบรัดเกล้าเสียอีก
หยุนหว่านหนิงกดขมับตัวเองอย่างหงุดหงิด "หมอหลวงหยาง ถ้าเจ้ายังไม่หุบปากอีกล่ะก็ ข้าจะสั่งให้คนเอาเข็มกับด้ายมาเย็บปากเจ้าแล้วนะ"
โหดเหี้ยมเสียจริง!
หมอหลวงหยางรีบยกมือขึ้นมาปิดปากตัวเองอย่างรวดเร็ว
เวลานี้ หยุนหว่านหนิงค่อยตรวจสอบอาการของฮองเฮาจ้าวอย่างจริงจัง
ไม่พูดไม่ได้เลยว่า คนบางคน (โม่จงหราน) ลงมือได้โหดเหี้ยมอำมหิตเสียจริง ๆ!
ถ้าดูแบบผิวเผินแล้ว จะเหมือนกับว่าคอของฮองเฮาจ้าวไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่แท้ที่จริงแล้ว เส้นเสียงของนางถูกทำลายจนเสียหายไปหมดแล้ว!
เป็นพิษชนิดหนึ่งที่หาได้ยากมาก
พิษชนิดนี้เมื่อเข้าไปในปาก มันจะมีความสามารถในการกำหนดเป้าหมาย โดยการเจาะจงทำลายเส้นเสียงของคนที่ถูกพิษนี้โดยตรง แต่ถ้าเป็นหมอทั่ว ๆ ไป จะเป็นการยากที่จะดูออกว่าเส้นเสียงของผู้ที่ต้องพิษ ได้ถูกทำลายไปจนหมดสิ้นแล้ว
ดังนั้น ต่อให้พวกหมอหลวงหยางพากันมารุมล้อมรอบตัวฮองเฮาจ้าว แล้วช่วยกันตรวจสอบดูตั้งแต่หัวจรดเท้า ก็ไม่มีทางตรวจพบปัญหาได้
หยุนหว่านหนิงเข้าใจแล้วว่า โม่จงหรานปล่อยให้นางเข้ามาทำอะไร
“คอของฮองเฮา เกรงว่าจะใช้การไม่ได้ไปเสียแล้วล่ะ!”
นางส่ายหน้าอย่างจนใจ หยิบขวดกระเบื้องเคลือบแบบใสใบหนึ่งออกมาจากแขนเสื้อ
ดูแล้วเหมือนเป็นการดึงออกมาจากแขนเสื้อ แต่แท้ที่จริงแล้ว มันถูกดึงออกมาจากช่องว่างเอนกประสงค์ของนาง
ยาในขวดกระเบื้องเคลือบเป็นยาเม็ดสีชมพู ซึ่งดูแล้วสวยสะดุดตามาก
แต่ไม่มีใครรู้ว่า สิ่งที่ยิ่งดูสวยงามมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งอันตรายมากขึ้นเท่านั้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อนงค์ใจพระชายาราชสีห์
นิยายสนุก แต่ช่วยมาลงต่อให้จบได้ไหมคะ...
อัพใหม่เถอะค่ะ...
เมื่อไรจะอัพเพิ่มคะ ฮือ รอนานมากแล้วววว...
อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ บทที่ 353 - 430 หายไปไหน หายยาววววมากกกก...
รอตอนต่อไปจ้า...
สนุกดีอ่านแล้วขำ 555...