รอยยิ้มบนใบหน้าของหยุนหว่านหนิงในเวลานี้ ให้ความรู้สึกที่ค่อนข้างน่าขนลุกอยู่ไม่น้อย
นางค้อมตัว โน้มเข้าไปจนใกล้ฮองเฮาจ้าว "เสด็จแม่ ตอนนี้ในตำหนักไม่มีใครอยู่ ท่านว่าต่อให้ข้าแทงท่านด้วยเข็ม ข้างนอกก็คงจะไม่มีใครรู้หรอกใช่หรือไม่? "
เพิ่งจะพูดจบ เข็มเงินในมือของนางก็ทิ้งดิ่ง
ทะลุผ่านผ้าห่ม แทงเข้าที่ต้นขาของฮองเฮาจ้าว
นางเจ็บจนต้องเหยียดตัวนั่งให้ตรง อยากแผดเสียงร้องตะโกน แต่จนใจที่ไม่อาจส่งเสียงออกมาได้แม้แต่น้อยนิด
นางทำได้เพียงจ้องมองหยุนหว่านหนิงด้วยสายตาดุดัน แววตานั้นเหมือนอยากจะแผดเผานางให้มอดไหม้เป็นเถ้าถ่าน!
“ทำไมเสด็จแม่ถึงจ้องมองข้าเช่นนี้ล่ะ?”
หยุนหว่านหนิงเก็บเข็มเงินกลับคืนไป ทำสีหน้าไร้เดียงสา "หม่อมฉันลองตรวจสอบดู พบว่าคอของท่านเสียหายจนแก้ไขไม่ได้แล้ว! ทั้งไม่รู้ด้วยว่ามีสาเหตุมาจากอะไร"
“เลยคิดว่าจะลองทดสอบกับร่างกายส่วนอื่นดู ว่ายังมีความรู้สึกอยู่หรือไม่”
เมื่อเห็นว่าฮองเฮาจ้าวเจ็บจนเหงื่อแตกเต็มหน้า นางก็ยกยิ้มน้อย ๆ "เห็นได้ชัดว่าเสด็จแม่ยังมีความรู้สึกเจ็บปวดอยู่"
ฮองเฮาจ้าวโกรธจนกัดริมฝีปากแน่น สั่นเทิ้มไปทั้งตัว!
ช่างบังอาจนัก! นังผู้หญิงชั้นต่ำนี่ช่างโอหังบังอาจไม่กลัวฟ้ากลัวดินสิ้นดี!
“เสด็จแม่ ที่ข้ามาวันนี้ก็เพื่อจะมาเตือนท่านเรื่องหนึ่ง ว่าถ้าท่านยังไม่ส่งเงินหนึ่งแสนตำลึงนั่นไปที่จวนอ๋องหมิงอีกล่ะก็ ดอกเบี้ยมันจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าแล้วนะ!”
นางแยกนิ้วมือออกจากกันเพื่อแสดงจำนวน "เก็บดอกเบี้ยท่านสองหมื่นตำลึง ไม่มากเกินไปสินะ?" “ หนึ่งแสนตำลึง บวกอีกสองหมื่นตำลึง รวมเป็นหนึ่งแสนสองหมื่นตำลึง ”
“ถ้าวันนี้เสด็จแม่ยังไม่สั่งให้คนนำเงินมาส่ง พรุ่งนี้ข้าก็จะเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งแสนตำลึง.....”
นี่มันโหดร้ายยิ่งกว่าการปล้นเสียอีก!
อาจเพราะอยากจะยั่วโมโหฮองเฮาจ้าวที่ตอนนี้ไม่สามารถพูดได้ หยุนหว่านหนิงจึงเริ่มพูดเป็นต่อยหอย พูดพล่ามไปเรื่อย ๆ ไม่ยอมหยุด
“เสด็จแม่ต้องนอนอยู่บนเตียงตามลำพังแบบนี้ คิดว่าคงจะเหงามากแน่ ๆ เลยใช่หรือไม่? แม้ว่าหม่อมฉันจะมีงานยุ่ง ๆ อยู่ไม่น้อย แต่ก็ยินดีที่จะแบ่งเวลามาคอยพูดคุยเป็นเพื่อนเสด็จแม่นะเพคะ”
ฮองเฮาจ้าวโกรธสุดขีด!
นางแค่อยากให้นางไสหัวไปให้พ้น ๆ ซะ!
ใครอยากให้นางอยู่เป็นเพื่อนคุยไม่ทราบ!
“เสด็จแม่ ข้าขอสัมภาษณ์ท่านหน่อยได้หรือไม่?”
หยุนหว่านหนิงถามด้วยรอยยิ้ม "ในบรรดาท่านอ๋องทั้งหลาย มีเพียงอ๋องสามเท่านั้นที่แต่งพระชายารอง ในฐานะแม่สามีท่านรู้สึกอย่างไรบ้างรึ? ตอนนี้บรรดาลูกสะใภ้ของท่าน รวมถึงพระชายารองหยุนล้วนอยู่ข้างนอกกันอย่างพร้อมหน้าเชียวนะ"
“หรืออยากให้พวกนางเข้ามาคุยเป็นเพื่อนท่านมากกว่า?”
นางช่างเป็นเหมือนนกกระจอกตัวหนึ่ง ที่เอาแต่ส่งเสียงร้องเจื้อยแจ้วน่ารำคาญเป็นที่สุด
ส่งเสียงดังเอะอะจนทำให้ฮองเฮาจ้าวปวดสมองไปหมด!
นางทนจนสุดจะกลั้นแล้วจริง ๆ!
นางคว้าหมอนหยกที่อยู่ข้างหลัง แล้วขว้างออกไปกระแทกเข้ากับประตูอย่างแรง!
เมื่อได้ยินเสียงดัง จางหมัวมัวก็รีบวิ่งเข้ามาตรวจสอบ
เมื่อเห็นสีหน้าของฮองเฮาจ้าวที่โกรธจัดจนเป็นสีม่วงคล้ำ ส่วนหยุนหว่านหนิงยืนอยู่ข้างเตียงด้วยสีหน้าไร้เดียงสา..... นางก็คิดกับตัวเองในใจว่าอาจเป็นเพราะเหนียงเหนียงของนาง ยังทนรับเรื่องที่ตัวเองเสียงหายไม่ได้กระมัง?
ดังนั้น จางหมัวมัวจึงปิดประตูตำหนักอย่างระมัดระวัง แล้วออกไปอีกครั้ง
ฮองเฮาจ้าวทนไม่ไหวอีกต่อไป!
นางออกแรงผลักหยุนหว่านหนิงออกไป ทำท่าจะลงจากเตียง
จิตวิญญาณของดราม่าควีนเข้าสิงหยุนหว่านหนิงทันที นางทรุดลงไปนั่งกับพื้นพลางส่งเสียงร้องไห้ "โฮ ๆ ๆ " ขึ้นมาดังลั่น
เมื่อได้ยินเสียงความเคลื่อนไหวในตำหนัก โม่จงหรานก็พุ่งเข้ามาก่อนเป็นคนแรก
ยอดเยี่ยมซะไม่มี!
มีหมอนหยกตกอยู่หน้าประตู หยุนหว่านหนิงนั่งอยู่บนพื้น ส่วนฮองเฮาจ้าวก็กำลังโกรธจัด.....
"มันเกิดอะไรขึ้น?"
เขาถามเสียงเครียด
หยุนหว่านหนิงวิ่งล้มลุกคลุกคลานไปหยุดที่เท้าของโม่จงหราน เริ่มกอดขาของเขาพลางร้องห่มร้องไห้อย่างขมขื่น "เสด็จพ่อ! ท่านโปรดอย่าได้ตำหนิเสด็จแม่เลยนะเพคะ! เสด็จแม่ไม่ได้มีเจตนาจะผลักหม่อมฉันจนล้มหรอก!"
“หม่อมฉันไม่โกรธเสด็จแม่หรอกเพคะ!”
ฮองเฮาจ้าว: "....."
ช่างเป็นผู้หญิงที่หน้าด้านไร้ยางอายสิ้นดี!
โม่จงหราน: "....."
การแสดงนี้ ออกจะเกินไปหน่อยนะ
เขากระแอมในลำคอ "หว่านหนิง นี่มันเกิดอะไรขึ้น?"
“เสด็จพ่อ เมื่อครู่นี้เสด็จแม่สูญเสียการควบคุมอารมณ์ เกือบจะบีบคอหมอหลวงหยางจนตายแล้วเพคะ! หม่อมฉันทนเห็นเสด็จแม่ทุกข์ใจจากเรื่องที่เสียงหายไม่ได้ จึงมีเจตนาดีคิดจะปลอบใจนาง”
หมอหลวงหยางที่อยู่ด้านหลังโม่จงหราน พยักหน้ารับไม่หยุด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อนงค์ใจพระชายาราชสีห์
อัพใหม่เถอะค่ะ...
เมื่อไรจะอัพเพิ่มคะ ฮือ รอนานมากแล้วววว...
อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ บทที่ 353 - 430 หายไปไหน หายยาววววมากกกก...
รอตอนต่อไปจ้า...
สนุกดีอ่านแล้วขำ 555...