อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ นิยาย บท 437

โม่หุยเฟิงตัวแข็งทื่อ เลือดหยุดหมุนเวียน

ถึงแม้จะโดนปิดตาไว้ เขาก็รับรู้ได้ถึงความเยือกเย็นเข้ากระดูกที่แผ่ซ่านออกมาจากตัวโม่เยว่……

วินาทีนี้ เขากลัวมากจริงๆ

ไม่รอโม่เยว่พูด โม่หุยเฟิงก็พูดขึ้นก่อนว่า “เจ้าเจ็ด เจ้าจะทำแบบนี้ไม่ได้นะ! ไม่ว่ายังไงข้าก็เป็นพี่สามของเจ้า พวกเราเป็นพี่น้องกันนะ!”

“เรื่องในครั้งนี้เป็นเรื่องเข้าใจผิด ข้าไม่รู้เรื่องอะไรเลยนะ!”

เขาคิดว่าเขาพูดแบบนี้แล้ว โม่เยว่ก็จะปล่อยตัวเขาไป

แต่ก็รู้ว่า ปล่อย……

คงเป็นไปไม่ได้

โม่หุยเฟิงรู้จักนิสัยของโม่เยว่ดี เขาทะเลาะกับเจ้าเล่นๆได้ แต่หากแตะต้องเส้นตายของเขา เขาก็จะเอาคืนเป็นร้อยเท่า ให้คนผู้นั้นไม่สามารถเงยหน้าอ้าปากได้อีก!

จากตำแหน่งที่สูงศักดิ์อ๋องหยิง กลายมาเป็นตำแหน่งที่ต่ำต้อยอ๋องสาม

จากรัชทายาทที่ทุกคนเชื่อมั่น ไปจนถึงชายผู้น่าสงสารที่โดนเนรเทศออกจากเมือง……

ครั้งไหนบ้างที่ไม่เกี่ยวข้องกับโม่เยว่?!

โม่เยว่นั่งลง เปิดผ้าปิดตาของเขาออก

ถูกปิดตามาทั้งวัน พอได้รับแสงกะทันหัน โม่หุยเฟิงก็รู้สึกไม่ชิน

เขากะพริบตา รู้สึกแสงแดดที่แสบตา

“เจ้าเจ็ด……”

สบตาที่เยือกเย็นของโม่เยว่ โม่หุยเฟิงก็รีบพูดว่า “เจ้าฟังข้าอธิบายก่อนนะ! เจ้าก็รู้ว่าข้าอยู่ไกลถึงเขาซีเซียง ไม่มีทางรู้เรื่องของหยวนเป่าแน่”

“หยวนเป่าเป็นใครข้ายังไม่รู้เลย จะรู้ได้ยังไงว่าเป็นลูกชายของเจ้า?”

“ถึงแม้จะเป็นลูกชายของเจ้า ก็นับเป็นหลานของข้า ข้าจะลงมือจ้างนักฆ่ามาจับตัวหลานตัวเองได้ยังไง?!”

โม่เยว่มองเขาอย่างเย็นชา “พี่สามกลัวอะไรกัน? ในเมื่อไม่ใช่ฝีมือพี่ ข้าก็ไม่ทำอะไรพี่อยู่แล้ว”

“จริงเหรอ?”

โม่หุยเฟิงยิ้มแล้วโล่งอก

ขอแค่โม่เยว่ไม่ฆ่าเขาก็พอ……

ยังไม่รอเขาโล่งอกได้เต็มที่ ก็ได้ยินโม่เยว่พูดอย่างเย็นชาว่า “ข้าแค่เชิญพี่มา แค่ไม่ได้เจอพี่มานาน อยากจะ ‘รำลึกความหลัง’ กับพี่สามสักหน่อย”

รำลึกความหลัง?!

เขากับโม่เยว่ มีความสัมพันธ์ฉันพี่น้องตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ยังรำลึกความหลังกับเขาได้ด้วย?!

สบตาที่เยือกเย็นของเขา โม่หุยเฟิงก็ได้สติ

รำลึกความหลังที่ไหนกัน?!

ท่าทางของโม่เยว่ เห็นได้ชัดว่าต้องฆ่าเขาให้ได้!

“เจ้าเจ็ด พวกเราเป็นพี่น้องกันนะ มะ ไม่ต้องเกรงใจแบบนี้หรอก”

โม่หุยเฟิงน้ำเสียงสั่นเทา

“จะเสียมารยาทได้ยังไงกัน”

โม่เยว่กระตุกยิ้มมุมปาก เผยให้เห็นรอยยิ้มที่เยือกเย็น “หรูอวี้ พวกเจ้าทำยังไงกัน? ข้าให้พวกเจ้าเชิญพี่สามมารำลึกความหลัง เจ้าเชิญมาแบบนี้งั้นเหรอ?”

หรูอวี้มองหรูโม่: นายท่านหมายความว่ายังไงกัน?

หรือว่าเขาจะเข้าใจผิด?!

นายท่านจะ ‘เชิญ’ โม่หุยเฟิยกลับมารำลึกความหลังจริง……แต่นายท่านก็เชิญแบบนี้ตลอดไม่ใช่เหรอ?!

หรูโม่สีหน้าไร้ความรู้สึก: ไม่รู้

“ยังไม่รีบแก้มัดให้พี่สามอีก”

โม่เยว่กวาดตามองหรูอวี้อย่างเรียบเฉย

“ขอรับ นายท่าน”

หรูอวี้ก้มหน้าลง แก้มัดให้โม่หุยเฟิง

โม่หุยเฟิงรู้สึกหวั่นใจ ไม่รู้ว่าโม่เยว่คิดจะทำอะไรกันแน่

“เอาน้ำชามา”

โม่เยว่ออกคำสั่ง

“ขอรับ นายท่าน”

หรูอวี้ทำตามคำสั่งต่อ

ถึงแม้ในใจจะสงสัยมากแค่ไหน แต่ก็รู้ว่าครั้งนี้เตี้ยนเซี่ยถูกลักพาตัวไป นานท่านโกรธโม่หุยเฟิงมาก……วันนี้โม่หุยเฟิงมาที่โรงเตี๊ยมแล้ว อยากกลับออกไปอย่างปลอดภัย คงจะไม่ง่ายขนาดนั้นแล้วล่ะ!

เอาชามาวางไว้ตรงหน้าโม่หุยเฟิง

เขาไม่กล้าดื่ม

เขามองโม่เยว่อย่างลังเล สายตาเต็มไปด้วยความสงสัย “เจ้าเจ็ด นี่เจ้า?”

“พี่สาม เชิญ”

โม่เยว่จิบชาก่อน

เห็นโม่หุยเฟิงไม่กล้าดื่ม เขาก็เลิกคิ้วถาม “พี่สามไม่กล้าดื่ม? กลัวข้าจะวางยาพิษในน้ำชาเหรอ?”

“หรือว่า หรือว่าไม่มียาพิษ?”

โม่หุยเฟิงลองถาม

โม่เยว่ไม่ตอบ แต่ยกชาของเขาขึ้นมาจิบต่อหน้าเขา แล้วยื่นถ้วยน้ำชาให้เขา ทำท่าเชิญให้เขาดื่ม

โม่หุยเฟิงเห็นแล้วก็เลิกสงสัย

ตลอดทั้งทาง เขากินข้าวเสีย ดื่มน้ำสกปรก

ตอนนี้ได้กลิ่นหอมจากชา แน่ใจว่าโม่เยว่ดื่มแล้วไม่มีปัญหาอะไร ก็รีบยกถ้วยชาขึ้นมาดื่มจนหมด

เทียบกับน้ำโคลนแล้ว น้ำชานี้หอมหวานอร่อยมาก!

โม่หุยเฟิงพูด “ชาดีจริงๆ!”

“พี่สามหิวน้ำเหรอ?”

“ใช่ ตลอดทั้งทางลูกน้องเจ้าไม่ให้ข้ากินหรือดื่มอะไรเลย”

เห็นโม่เยว่เหมือนอยากจะรำลึกความหลังกับเขาจริงๆ ไม่ได้พูดถึงเรื่องของหยวนเป่าแล้ว โม่หุยเฟิงก็เริ่มวางมาด “เจ้าเจ็ด ไม่ใช่ว่าข้าจะว่าเจ้านะ”

เขาเหลือบมองหรูอวี้ “ลูกน้องของเจ้า ใช้ไม่ได้เลย”

โม่เยว่เทน้ำชาให้เขา “ไม่รู้ว่าลูกน้องของข้า ไปทำอะไรให้พี่สามไม่พอใจเหรอ?”

โม่หุยเฟิงยกชาขึ้นมาดื่มจนหมดอีกครั้ง แล้วยื่นถ้วยชาคืนโม่เยว่

ความหมายนี้เห็นได้ชัดว่า: เทชาให้ข้าอีก!

เห็นแบบนี้ หรูโม่ก็โกรธมาก

กำลังจะเดินเข้าไป แต่โม่เยว่กลับส่งสายตาให้เขากลับไป

โม่เยว่เทชาให้โม่หุยเฟิงเงียบๆ

โม่หุยเฟิงดื่มไม่กี่คำ วางมาด ‘อ๋องสาม’ “ลูกน้องของเจ้า ไม่เอาข้าไว้ในสายตาเลย! ข้าว่านะ ลูกน้องที่ไร้มารยาทเช่นนี้ สมควรถูกตัดแขนขาเป็นบทลงโทษ!”

หรูอวี้ที่อยู่ข้างๆด่าอยู่ในใจ: “……”

เขาอยากพุ่งออกไป กระทืบโม่หุยเฟิงให้ตายไปเลย

แต่นายท่านอยู่ข้างหน้า เขาก็ไม่กล้าทำโดยพลการ

โม่เยว่แสยะยิ้มเบาๆ เทน้ำชาให้เขาจนเต็ม “พี่สามพูดถูก”

หรูอวี้: “……”

นายท่านได้รับผลประโยชน์แล้วจะถีบหัวส่งงั้นเหรอ?

โม่หุยเฟิงดื่มชาอย่างเชื่องช้า แต่ก็ยังดื่มชาจนหมดแก้ว “ต่อหน้าข้า ไม่เคยมีลูกน้องที่บังอาจและไม่เคารพเจ้านายขนาดนี้!”

“ข้างกายพี่สาม ตอนนี้ไม่มีลูกน้องแล้วเหรอ”

โม่เยว่พูดอย่างเรียบเฉย แล้วเทน้ำชาให้เขาเต็มแก้ว

อย่าว่าแต่ลูกน้องที่ไร้มารยาทเลย โม่หุยเฟิงไม่มีใครให้ใช้งานเลยด้วยซ้ำ?!

โม่หุยเฟิงใบหน้าแดงแปร๊ด พูดเสียงทุ้มต่ำ “ข้าอยากอยู่เงียบๆ ไม่ชอบให้ใครตามมารับใช้น่ะ”

ถึงแม้จะพูดแบบนี้ แต่ก็ยังยกน้ำชาขึ้นมาดื่มจนหมด

“พี่สาม จะเติมน้ำชาอีกไหม?”

โม่เยว่จ้องมองเขา

เผชิญกับสายตาของเขา โม่หุยเฟิงก็ใจสั่น ‘ตึกตัก’ ในใจรู้สึกมีลางสังหรณ์ไม่ดี

น้ำชานี้มีปัญหาเหรอ?!

แต่พอคิดแล้ว เมื่อกี้โม่เยว่ก็ดื่มน้ำชานี้แล้ว……และเขาก็ลองชิมดูแล้ว ไม่รู้สึกไม่สบายอะไร ก็เลยดื่มต่ออย่างสบายใจ

เขาพยักหน้า โม่เยว่ก็เทให้เขาจนเต็ม

โม่หุยเฟิงยกน้ำชาขึ้นมาดื่ม ได้ยินโม่เยว่พูดขึ้น “หรูโม่”

“อ๋องสามดื่มชาไปกี่แก้ว?”

หรูโม่รีบตอบว่า “ตอบนายท่าน อ๋องสามดื่มไปทั้งหมดเจ็ดแก้วขอรับ!”

“ดีมาก”

โม่เยว่แสยะยิ้มเย็นชาอย่างเจ้าเล่ห์ “เอามีดมา”

โม่หุยเฟิงสีหน้าเปลี่ยนรีบลุกขึ้น เพราะลนลานและลุกขึ้นกะทันหัน น้ำชาหกจนโต๊ะเลอะไปหมด

ไม่สนใจน้ำชาที่หกใส่เสื้อผ้า โม่หุยเฟิงก็รีบถามว่า “เจ้าเจ็ด เจ้า เจ้าจะทำอะไร?!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อนงค์ใจพระชายาราชสีห์