อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ นิยาย บท 439

หยุนหว่านหนิงมองดูเขาบนบันไดเงียบๆ

ไม่รู้ว่านางยืนดูอยู่นานแค่ไหนแล้ว และเห็นเขาทำอะไรบ้าง……

โม่เยว่ใจสั่น

เมื่อกี้เขาทรมานโม่หุยเฟิงขนาดนั้น หนิงเอ๋อร์จะเห็นไหมนะ?!

สายตาของเขาลุกลี้ลุกลน ก้มหน้ามองพื้นไม้ มีเลือดอยู่เต็มพื้น และกลิ่นฉุนของเลือดก็อบอวลไปทั่วทั้งโรงเตี๊ยม และเถ้าแก่กับพนักงานที่ซ่อนตัวอยู่

ตั้งแต่หยุนหว่านหนิงออกจากกักตัว ก็ไม่เคยเห็นด้านที่โหดร้ายของโม่เยว่อีกเลย

อาจเป็นเพราะเขาซ่อนเอาไว้

เขาไม่ต้องการให้นางเห็นด้านที่นองเลือดและโหดร้าย เพื่อไม่ให้นางรู้สึกหวาดกลัวและโกรธเขา

เรื่องเมื่อห้าปีก่อน ทำให้เขารู้สึกผิดตลอดเวลา

ต่อมาแม้แต่ลงมือกับพวกโม่หุยเฟิง รวมไปถึงไล่โม่หุยเฟิงไปอยู่เขาซีเซียง……โม่เยว่จะทำอะไร ก็จะทำลับหลังหยุนหว่านหนิงเสมอ แอบลงมือตลอด

ความโหดร้ายของเขา แค่ให้คนอื่นได้เห็นเท่านั้น

เขาอยากฟื้นฟูภาพลักษณ์ของเขาในจิตใจของหยุนหว่านหนิง

เขาไม่อยากให้นางกลัวเขา เกลียดเขา

แต่วันนี้เขากำลังโกรธ กลับลืมไปแล้วว่าหยุนหว่านหนิงกับหยวนเป่ายังอยู่

เมื่อกี้ท่าทางที่โหดร้ายของเขา หยุนหว่านหนิงคงจะเห็นหมดแล้ว?!

โม่เยว่รู้สึกร้อนรนใจ

เขารีบตะโกนว่า “พวกเจ้ามานี่สิ! มาทำความสะอาด”

เขากลับหลังหันแล้วเดินไปหาหยุนหว่านหนิง น้ำเสียงมีความระมัดระวัง “หนิงเอ๋อร์ เจ้าอยู่ที่นี่นานแค่ไหนแล้ว? เจ้าเป็นยังไงแล้วบ้าง? ไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า?”

“ทำไมไม่นอนบนเตียงล่ะ? หยวนเป่าล่ะ?”

ภายใต้ความลนลาน เขาถามไปหลายคำถามมาก

หยุนหว่านหนิงเห็นความลนลานของเขา

เขากลัวอะไร?

เขาแก้แค้นแทนลูกชาย เขาคิดว่านางเห็นแล้วจะรู้สึกไม่ชอบเขางั้นเหรอ?!

ไม่จำเป็นหรอกนะ!

หยุนหว่านหนิงยิ้มเล็กน้อย “ไม่นานหรอก เพิ่งออกมาเอง หยวนเป่าหลับแล้ว ข้าได้ยินเสียงข้างนอกเลยนอนไม่หลับ ก็เลยออกมาดูสักหน่อย”

ตอนนี้เพิ่งเลยเวลาเที่ยงไป หยวนเป่ากำลังนอนตอนเที่ยงอยู่

หยุนหว่านหนิงสลบไปสองวัน นอนหลับพอแล้วล่ะ

“โม่หุยเฟิงตายหรือยัง?”

นางถามเสียงเบา

ได้ยินคำถามนี้ โม่เยว่ก็รีบตอบว่า “หนิงเอ๋อร์ ถ้าเจ้าอยากให้เขาตาย ข้าจะฆ่าเขาทันทีเลยนะ!”

ใบหน้าของเขาประกายไปด้วยแรงอาฆาต

“ข้าไม่ได้หมายความแบบนั้น”

หยุนหว่านหนิงเดินลงมา

เห็นแบบนั้น โม่เยว่ก็รีบจับมือของนางไว้ ประคองนางเดินไปที่ข้างหน้าต่าง โรงเตี๊ยมนอกจากพวกเขาสองคนแล้ว ก็มีแค่พนักงานที่กำลังทำความสะอาดพื้นอยู่

เขาประคองนางนั่งลงบนเก้าอี้ข้างหน้าต่าง

“ข้ากำลังคิดว่า โม่หุยเฟิงยังตายไม่ได้”

หยุนหว่านหนิงยิ้มแล้วพูดว่า “ไม่ว่ายังไง เขาก็เป็นลูกของฮองเฮา”

“ทางด้านเสด็จพ่อ เพราะหยวนเป่าถูกลักพาตัวก็โกรธมาก ครั้งนี้ถึงพวกเราไม่ฆ่าโม่หุนเฟิง เสด็จพ่อก็ไม่ปล่อยเขาไปง่ายๆหรอก”

นางคิดในใจว่า ถ้าเกิดโม่เยว่ฆ่าโม่หุยเฟิง คงจะโดนคนอื่นประณามได้

แต่ถ้าโม่จงหรานลงมือเอง ก็ไม่มีใครกล้าพูดอะไรทั้งนั้น!

หลังผ่านเรื่องนี้ไป หยุนหว่านหนิงก็เข้าใจแล้วว่า การจะปกป้องหยวนเป่าให้ดี ในมือจะต้องมีอำนาจ!

เมื่อก่อนนางไม่สนใจว่าโม่เยว่จะขึ้นครองราชย์ได้หรือไม่

แต่ตอนนี้มีหยวนเป่าแล้ว พวกเขาจะถอยหรืออดทนไม่ได้อีก!

“อืม”

โม่เยว่พยักหน้าเบาๆ

“อีกอย่าง”

หยุนหว่านหนิงครุ่นคิด แล้วพูดว่า “ถ้าจับดำทมิฬที่ลักพาตัวหยวนเป่าไปได้ ยังไม่ต้องจัดการเขา ข้าอยากเจอคนผู้นี้ก่อน”

น้ำเสียงของนางถึงแม้จะเบา แต่โม่เยว่กลับสังเกตเห็น สายตาของนางมืดมนลง

เขารู้ว่า ดำทมิฬคงหนีไม่พ้นแน่!

หากตกอยู่ในมือเขา เขาคงจะทรมานกำทมิฬจนตายไป

แต่หากตกอยู่ในมือหยุนหว่านหนิง……

ดำทมิฬจะต้องตายทั้งเป็นแน่!

โม่เยว่พยักหน้าตกลง มองดูใบหน้าที่ซีดเซียวของนาง เขาก็ถามอย่างเป็นห่วงว่า “หนิงเอ๋อร์ เจ้าไม่เป็นไรจริงนะ? ข้าให้หมอมารักษาเจ้าหน่อยไหม”

“ไม่ต้องหรอก”

หยุนหว่านหนิงยิ้มอ่อนๆ ใบหน้าโทรมมาก “ข้าเป็นหมออยู่แล้ว ยังจะมีใครรู้อาการของตัวข้าดีเท่าตัวเองล่ะ?”

นางรู้ว่าตอนนี้นางไม่มีแรง สาเหตุเพราะยาที่ฉีดก่อนออกจากจวน……

ยานั้นทำให้นางมีแรงอย่างรวดเร็ว

แต่ก็ส่งผลเสียต่อร่างกายอย่างมาก!

ถึงจะเป็นนาง ก็ยากที่จะรับไหว

นึกถึงความผิดปกติของหยุนหว่านหนิงตลอดทั้งทาง และหมอที่หายไปในคืนนั้น โม่เยว่ก็รู้สึกสงสัย “หนิงเอ๋อร์ ข้ามีเรื่องอยากจะถามเจ้าหน่อย”

“อืม?”

หยุนหว่านหนิงเงยหน้ามองเขา

“ร่างกายของเจ้า ร้อยพิษไม่กล้ำกรายไม่ใช่เหรอ?”

โม่เยว่ขมวดคิ้ว สายตาเต็มไปด้วยความสงสัย “ทำไมครั้งนี้เจ้าถึงโดนยาพิษจนทำร้ายหัวใจล่ะ?”

หยุนหว่านหนิงแววตาเปลี่ยนไปเล็กน้อย

นางยังไม่รู้ว่าใครช่วยนางไว้กันแน่

ผลจากการฉีดยาของนางนั้นหมอธรรมดาไม่สามารถวินิจฉัยหรือรักษาให้หายขาดได้ ตอนแรกคิดว่าจะสลบไม่มีวันตื่นได้อีก แต่ใครจะรู้ว่าจะตื่นขึ้นมาได้อีกครั้ง

หลังจากตื่นขึ้นมาก็เห็นว่าพิษในร่างกายตัวเองหายไปหมดแล้ว

นางกำลังจะถามโม่เยว่ว่ารู้ได้ยังไง ด้านหลังก็มีเสียงเรียกดังขึ้น “ท่านแม่?!”

เสียงของหยวนเป่าดูเหมือนจะตกใจมาก

หยุนหว่านหนิงสีหน้าเปลี่ยนไป ลุกขึ้นพรวด ได้ยินเสียง ‘ตึกๆๆ’

หยวนเป่าวิ่งออกมาจากห้องเท้าเปล่า ‘ตึกๆๆ’ ยืนอยู่ตรงบันไดแล้วกวาดตามองอย่างร้อนรนใจ

เห็นหยุนหว่านหนิงนั่งอยู่ข้างล่าง สีหน้าก็เศร้าสลด ต่อมาก็รีบวิ่งลงบันได วิ่งไปหาหยุนหว่านหนิง

นางรีบลุกขึ้นแล้วโอบกอดลูกชายในอ้อมกอด

“เป็นอะไรไปเหรอลูก?”

หยุนหว่านหนิงกอดหยวนเป่าไว้ “ทำไมถึงวิ่งมาเท้าเปล่าล่ะ?”

“ท่านแม่ ไหนบอกว่าจะอยู่กับข้าไง? ทำไมถึงไม่อยู่ในห้องล่ะ ข้า ข้าคิดถึงท่านแม่”

หยวนเป่ากอดนางไว้แน่น สองมือกอดคอของนางไว้ ใบหน้าซบลงไหล่ของนาง

ร่างกายเล็กๆสั่นคลอน เวลาพูดก็มีการสะอื้น

หลังจากหยุนหว่านหนิงกับหยวนเป่าได้เจอกันอีกครั้ง เป็นครั้งแรกที่เขาเผยด้านนี้ออกมา

นางคิดว่าลูกชายแข็งแกร่ง แต่หารู้ไม่ว่าหยวนเป่าทำเพื่อให้นางสบายใจ ก็ถึงทำตัวแข็งแกร่งทำให้นางดีใจ หลังจากเมื่อวาน อารมณ์ของหยวนเป่าก็เริ่ม ‘แว้งกัด’

เมื่อคืนเขาหลับลึกมาก อาจเป็นเพราะหลายวันมานี้เหนื่อยมากเกินไป เขาไม่กล้าปล่อยใจ

ดังนั้นตลอดทั้งคืน หยวนเป่าจึงหลับสบายมาก

ตอนเช้าตื่นขึ้นมา ก็อยากตัวติดกับหยุนหว่านหนิง ไม่อยากจากนางไปไหน

ขนาดหยุนหว่านหนิงเข้าห้องน้ำ เขาก็ต้องเฝ้าอยู่หน้าประตูคุยกับนาง……

เมื่อกี้นอนตอนเที่ยงก็นอนไม่สบาย เอาแต่ฝันร้าย

หลังสะดุ้งตื่นไม่เจอหยุนหว่านหนิง เขาก็วิ่งออกไปตามหาอย่างร้อนรน

“ท่านแม่อย่าทิ้งข้าไปนะ! ข้าไม่อยากนอนคนเดียว!”

รู้สึกได้ถึงความกลัวของหยวนเป่า หยุนหว่านหนิงรู้ว่าเป็นเพราะประสบการณ์ครั้งนี้ที่ปมไว้ในใจเขา?!

มองดูลูกชายที่ปกติใช้ชีวิตอย่างมีความสุขไม่ต้องกังวลอะไร ตอนนี้กลับกลัวถึงขนาดนี้……

หยุนหว่านหนิงปวดใจมาก!

นางกอดหยวนเป่าไว้แน่น น้ำเสียงสั่นเทา “ลูกรักไม่ต้องกลัวนะ มีแม่อยู่ทั้งคน แม่จะอยู่ข้างเจ้าตลอดไปเลยนะ”

นางลูบหลังของหยวนเป่าเบาๆ ให้เขาสบายใจ นอนหลับแล้ว นางก็ถึงอุ้มเขาไปนั่งลงข้างๆ

หยุนหว่านหนิงรู้สึกเกลียดโม่หุยเฟิงและดำทมิฬเข้าไส้

นางเงยหน้ามองโม่เยว่ แล้วพูดว่า “ครั้งนี้ ข้าจะไม่มีทางยอมเด็ดขาด!”

……

ในขณะเดียวกัน บ้านของโม่หุยเฟิงในเขาซีเซียง

หยุนธิงหลานเหมือนแมลงวันไร้ทิศทาง ตามหาโม่หุยเฟิงไปทั่ว……

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อนงค์ใจพระชายาราชสีห์