อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ นิยาย บท 442

ร่างกายหยุนธิงหลานแข็งทื่อ

หลังจากหรูอวี้พูดเหน็บแนม ก็แสร้งทำเป็นเมินเฉย เอามือไขว้หลังแล้วถอยหลังไปหลายก้าว

หยุนหว่านหนิงเดินลงบันไดมาทีละก้าว

เถ้าแก่เห็นแบบนี้ ก็รีบหลบไปก่อนปล่อยภัยกว่า

นี่เป็นครั้งแรกที่แม่เฒ่าหลานเห็นพระชายาหมิง

ได้ยินชื่อเสียงมานานแล้ว พระชายาหมิงเป็นคนจิตใจโหดร้าย ไม่เมตตาปรานี แน่นอน ข่าวลือพวกนี้ล้วนเป็นเมื่อห้าปีก่อน ตอนนั้นเรื่องที่คุณหนูจวนกั๋วกงทำทุกอย่างเพื่อให้ได้แต่งงานกับอ๋องหมิงเป็นที่รู้กันไปทั่ว

พวกแม่เฒ่าหลานที่เป็นสตรีภาพพวกนี้ ชอบนินทาพูดจาไร้สาร

ดังนั้นหลายปีมานี้ ยังคงพูดถึงเรื่องกันอยู่อย่างสนุกปาก

ไม่รู้ว่าพระชายาหมิงตรงหน้าคนนี้ ไม่ใช่พระชายาหมิงเมื่อห้าปีก่อนแล้ว

เห็นนางค่อยๆเดินเข้ามาใกล้ ร่างกายเต็มไปด้วยพลังน่าเกรงขาม....

แม่เฒ่าหลานก็อดไม่ได้ที่จะขาอ่อน

นางดูเป็นคนอันธพาลไม่มีเหตุผลตรงไหน เห็นได้ชัดว่าเป็นนางมารเพียงแค่มองก็สามารถทำให้คนตายได้

“หยุนธิงหลาน เจ้ามาหาข้าดึกดื่นค่ำคืน เพื่อก่อความวุ่นวายหรือ?”

หยุนหว่านหนิงเดินไปใกล้ สายตาที่มองดูหยุนธิงหลานนั้นเยือกเย็นไร้ความปรานี

หยุนธิงหลานตกตะลึง

นางไม่รู้ว่าโม่หุยเฟิงทำอะไรหยวนเป่า ดังนั้นจึงไม่รู้ว่าทำไมตอนนี้หยุนหว่านหนิง ถึงมีท่าทีเย็นชากับนางขนาดนี้

“พี่สาว”

หยุนธิงหลานลองใช้ความญาติ

นางพยายามฝืนยิ้ม เดินไปจับใช้แขนเสื้อของหยุนหว่านหนิง พร้อมพูดขึ้นว่า “ได้ยินว่าพี่สาวกับพี่เขยอ๋องหมิงมายังเมืองเซียง ทำไมถึงไม่ส่งคนไปบอกข้า ข้าจะได้เตรียมการต้อนรับพี่สาวกับพี่เขย”

เวลานี้กลับรู้จักเรียกว่าพี่สาว พี่เขย

คิดถึงตอนนั้น หยุนธิงหลานยังไม่ได้แต่งงานเข้าไปอยู่ในจวนอ๋องสาม พูดอย่างหน้าไม่อายว่า ต่อไปหยุนหว่านหนิงต้องเรียกนางว่าพี่สะใภ้

“ไม่จำเป็น”

หยุนหว่านหนิงหัวเราะเย้ย พร้อมหลบมือของนาง

ไม่ไว้หน้านางถึงขนาดนี้......

ไฟแห่งความโกรธที่อัดอั้นอยู่ในใจหยุนธิงหลาน ค่อยๆปะทุขึ้นมา พร้อมพูดขึ้นว่า “พี่สาว ที่ข้ามาหาดึกขนาดนี้ เพราะมีเรื่องอยากถามพี่สาว”

“เจ้าจะถามเรื่องโม่หุยเฟิงใช่ไหม”

หยุนหว่านหนิงมองดูนาง

หยุนธิงหลานกัดฟัน พร้อมพูดขึ้นด้วยท่าทีไม่พอใจว่า “ใช่ ไม่รู้ว่าท่านอ๋องไปล่วงเกินอะไรอ๋องหมิง ถึงได้ทุกข์ทรมานจนกลายเป็นสภาพเช่นนั้น?”

พูดพร้อมกับ สติสัมปชัญญะที่มีเหลืออยู่น้อยนิดหลุดลอยไปหมด

“ไม่ว่ายังไง ท่านอ๋องก็เป็นพี่ชายของอ๋องหมิง”

สีหน้าของนางค่อยๆกลายเปลี่ยนเป็นย่ำแย่ น้ำเสียงก็ค่อนข้างแดกดัน พร้อมพูดขึ้นว่า “ถึงแม้ตอนนี้ท่านอ๋องจะถูกฮ่องเต้เนรเทศมาอยู่ห่างไกล”

“แต่ยังไงก็ยังเป็นท่านอ๋องสาม เป็นโอรสของฮ่องเต้กลับฮองเฮา”

หยุนธิงหลานกัดฟันพูด

มือทั้งคู่ของนางกำหมัดแน่น อดกลั้นไว้ที่จะไม่ลงมือทำร้ายหยุนหว่านหนิง พร้อมพูดขึ้นว่า “อ๋องหมิง ทำตามอำเภอใจโดยไม่เกรงกลัวใครแบบนี้ ไม่กลัวว่าฮ่องเต้กลับฮองเฮาจะรู้เรื่อง แล้วลงโทษอ๋องหมิงหรือ?”

เสียดาย นางอดกลั้นไว้ไม่ลงมือทำร้าย.....

แต่ก็เพราะไม่กล้าลงมือทำร้ายจริงๆ

ส่วนหยุนหว่านหนิง กลับไม่สนใจอะไร

นางยกมือฟาดตบลงบนใบหน้าของหยุนธิงหลาน พร้อมพูดขึ้นว่า “ทำตามอำเภอใจอย่างไม่เกรงกลัวใคร? เจ้ายังมีหน้ามาพูดต่อหน้าข้า?”

นางฟาดตบลง อย่างไม่ออมแรงมือเลยสักนิด

หยุนธิงหลานถูกตบจนหน้าหัน เซไปจนเกือบจะล้มชนขอบประตู

“พระชายารอง”

แม่เฒ่าหลานร้องขึ้นมายังตกใจ รีบประคองนางไว้ แล้วหันไปมองหยุนหว่านหนิงอย่างหวาดกลัว

พระชายาหมิงคนนี้ เป็นคนอันธพาลไม่มีเหตุผลจริงๆ

หยุนธิงหลานเอามือกุมหน้า หันไปมองหยุนหว่านหนิงอย่างไม่อยากเชื่อ

ช่วงที่นางอยู่ที่เขาซีเซียง นอกจากโม่หุยเฟิง ก็ไม่เคยเกรงกลัวใคร

หยุนหว่านหนิงตบนาง ไม่เพียงตบจนนางเจ็บไปทั้งหน้า ยังเป็นการทำลายความทรนงของนาง ศักดิ์ศรีความภูมิใจของนาง

“หยุนหว่านหนิง”

นางไม่สนใจมารยาทกาลเทศะ ไม่สนใจความเป็นพี่น้อง ได้สติกลับมาก็คิดจะตบกลับไป ยังไม่ทันได้เข้าใกล้หยุนหว่านหนิง ก็ถูกหรูอวี้ใช้เท้าเตะลอยออกไป

หรูอวี้ขายาว แรงกำลังเยอะ

เพียงเตะหนึ่งที หยุนธิงหลานก็นอนกองลงใต้ชายคาโรงเตี๊ยม

แม่เฒ่าหลานไม่กล้าร้องตะโกน รีบไปประคองนางขึ้นมา

“ลุกขึ้น”

หยุนหว่านหนิงเดินไปใกล้ด้วยสีหน้าเย็นชา

แม่เฒ่าหลานหดคอ ก้มหน้าก้มตาคุกเข่าอยู่ด้านข้าง

นางนึกว่าเอาอกเอาใจหยุนธิงหลาน ต่อไปก็จะได้ไปเมืองหลวงพร้อมกับนาง เพื่อไปดูความเจริญรุ่งเรืองใต้แทบเท้าของจักรพรรดิ เป็นคนเหนือคนสักครั้ง

ที่ไหนได้ นางคิดว่าหยุนธิงหลานที่เป็นพึ่งที่ดีที่สุด ในสายตาหยุนหว่านหนิงนั้นไม่ใช่สิ่งของอะไรเลย

ได้เห็นหยุนหว่านหนิง แม่เฒ่าหลานค่อยรู้ว่าอะไรคือ “เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือคนยังมีคน”

พระชายารองหยุนที่ปกติเอาแต่ชี้นิ้วสั่งคนอื่นคนนี้ ในสายตาพระชายาหมิงนั้น ต่ำต้อยดั่งมด

“หยุนธิงหลาน”

หยุนหว่านหนิงมองดูหนังจากที่สูง พร้อมพูดขึ้นว่า “ต่อให้คืนนี้เจ้าไม่มาหาข้า พรุ่งนี้ข้าก็จะไปยังภูเขาซีเซียด้วยตนเอง เพื่อไปพูดคุยกับเจ้า”

หยุนธิงหลานเอามือกุมหน้า พร้อมท่าทีที่เปลี่ยนไป

จากน้ำเสียงของหยุนหว่านหนิง นางได้ยินถึงความอาฆาต

พูดคุยกับนาง?

เกรงว่าพรุ่งนี้ไปยังเขาซีเซียง ไปเพื่อทรมานนางมากกว่า

ผู้หญิงคนนี้มีนิสัยยังไง นางจะไม่รู้หรือ?

“เจ้าจะคุยอะไรกับข้า?”

ลักษณะท่าทีของหยุนธิงหลานอ่อนลงทันที ไม่ก้าวร้าวเหมือนอย่างเมื่อกี้ ไม่มีลักษณะท่าทีที่จะมาถามหยุนหว่านหนิงอีก

ต้องโดนตบสักครั้ง ถึงค่อยเชื่อฟัง

“เรามาคุยกันดีกว่า เรื่องที่โม่หุยเฟิงจ้างคนมาลักพาตัวลูกชายข้า”

หยุนหว่านหนิงค่อยๆนั่งยองลง มองดูหยุนธิงหลานที่พยายามเตรียมจะลุกขึ้นมาด้วยสายตาเย็นชาว่า “ข้าอยากถามเจ้าว่า เจ้ารู้เรื่องนี้ไหม”

“เจ้าพูดว่ายน้ำอะไรนะ?”

หยุนธิงหลานเหมือนถูกสายฟ้าผ่า

หลังจากตกตะลึง ก็ถามขึ้นอย่างไม่อยากเชื่อว่า “โม่หุยเฟิงลักพาตัวลูกชายของเจ้าไปตั้งแต่เมื่อไหร่?”

นางไม่สนใจใบหน้าที่บวมแดง รีบคลานลุกขึ้นมา พร้อมพูดขึ้นว่า “เจ้า เจ้าไม่ได้โกหกข้าใช่ไหม?”

เห็นนางตกตะลึงขนาดนี้….

หยุนหว่านหนิงก็ค่อยๆลุกขึ้น นางขมวดคิ้วมองดูนาง พร้อมพูดขึ้นว่า “เจ้ารู้เรื่องนี้ไหม?”

ก่อนหน้านี้นางเคยตกลงข้อแลกเปลี่ยนกับหยุนธิงหลาน ซึ่งหยุนธิงหลานจะบอกความเคลื่อนไหวของโม่หุยเฟิงให้นางรู้ ที่ผ่านมาโม่หุยเฟิงรู้เรื่องหยวนเป่า หยุนธิงหลานก็เคยบอกให้นางรู้

ครั้งนี้หยวนเป่าถูกลักพาตัว หยุนธิงหลานกลับไม่รู้เรื่อง?

นางแกล้งทำเป็นไม่รู้ หรือแกล้งโง่กันแน่

หรือว่าไม่รู้เรื่องจริงๆ?

หยุนหว่านหนิงขมวดคิ้วย่น

“ข้าไม่รู้เรื่องจริงๆ”

ภายใต้สายตากดดันของนาง หยุนธิงหลานไม่หลบสายตา เพียงรีบพูดขึ้นอย่างหวาดกลัวว่า “หากข้ารู้ ข้าต้องส่งข่าวให้เจ้ารู้เรื่อง ให้เจ้าได้ระวังตัว”

“แต่ว่าเรื่องนี้ ข้าไม่รู้เรื่องจริงๆ”

คราวนี้นางเข้าใจแล้ว ทำไมโม่เยว่จึงถึงสั่งคนจับตัวโม่หุยเฟิงไป

ยังทรมานนางอย่างตายทั้งเป็น

ที่แท้ก็เป็นเพราะว่า โม่หุยเฟิงจ้างคนลักพาตัวหยวนเป่า

เรื่องนี้สำหรับโม่เย่วกับหยุนหว่านหนิง เท่ากับเป็นการแตะกล่องดวงใจของพวกเขา….ครั้งนี้โม่หุยเฟิงยังสามารถมีชีวิตรอด ถือเป็นปาฏิหาริย์อย่างมากแล้ว

ตอนนี้นางมาหาถึงที่ ไม่เท่ากับมาหาที่ตายหรือ?

หากหยุนหว่านหนิงคิดว่า นางร่วมมือกับโม่หุยเฟิง….

หยุนธิงหลานร้อนใจ คว้าจับมือหยุนหว่านหนิง พร้อมพูดขึ้นว่า “พี่สาว เจ้าต้องเชื่อข้านะ”

“เรื่องนี้ข้าไม่รู้เรื่องจริงๆ”

“เจ้าไม่รู้เรื่อง?”

หยุนหว่านหนิงหรี่ตามอง พร้อมพูดขึ้นว่า “หยุนธิงหลาน ที่ข้าให้เจ้ามาเขาซีเซียงเพื่ออะไร เจ้ารู้ดีแก่ใจ”

“เจ้ากับโม่หุยเฟิงอยู่ด้วยกันทั้งวันทั้งคืน ตอนนี้เจ้ากลับบอกข้าว่า เจ้าไม่รู้เรื่องที่เขาจะลักพาตัวหยวนเป่า?”

นางสะบัดมือของนางอย่างแรง พร้อมพูดขึ้นว่า “เจ้าโกหกใคร?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อนงค์ใจพระชายาราชสีห์