อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ นิยาย บท 446

โม่เหว่ยอึ้งไปสักพัก พร้อมพูดขึ้นว่า “เจ้าเจ็ดพูดได้ถูกจริงๆ”

เขายิ้มแย้ม

หยุนหว่านหนิงหันไปมองโม่เหว่ยอย่างครุ่นคิด

เขาจะมีเรื่องอะไรขอร้องนาง?

เมื่อคิดไปคิดมา ก็มีเพียงหยุนธิงธิงแล้ว....

หยุนหว่านหนิงค่อยคิดขึ้นมาได้ว่า วันนี้เป็นวันครบรอบวันเกิดของหยุนเจิ้นซง

แต่พวกเขากลับมาถึงเมืองหลวงจนถึงตอนนี้ รู้สึกเหมือนเมืองหลวงค่อนข้างเงียบสงบ ไม่ได้ยินเสียงจุดประทัด เสียงฆ้องเสียงกลอง เสียงคณะแสดงละคร

หรือว่า หยุนเจิ้นซงยกเลิกงานฉลองครบรอบวันเกิด

ไม่รอให้นางได้ทันถาม โม่เหว่ยก็พูดอธิบายขึ้นว่า

พวกเขาออกมาจากวังพร้อมกัน เขาก็พูดไปด้วยว่า “เดิมวันนี้เป็นวันครบรอบวันเกิดของยิ่งกั๋วกง”

“แตยิ่งกั๋วกงพูดว่า ลูกสาวของเขาทั้งสองคนล้วนไม่อยู่ในเมืองหลวง ตอนนี้หยวนเป่าก็หายตัวไปยังไม่กลับมา เขาจึงไม่อยากที่จะจัดงานเลี้ยงครบรอบวันเกิดของตนเอง”

เห้อ

หยุนหว่านหนิงฟังแล้วก็หัวเราะเย้ย

หยุนเจิ้นซงจะใจดีขนาดนี้?

“หลังจากนั้นล่ะ?”

นางเม้นริมฝีปาก รอยยิ้มแฝงไปด้วยความเสียดสี

โม่เหว่ยมองดูนางอย่างแปลกใจ

เขามักรู้สึกว่า หยุนหว่านหนิงกับหยุนเจิ้นซงไม่เหมือนเป็นพ่อลูกกัน เหมือนศัตรูกันมากกว่า....

“ไม่มีต่อแล้ว”

โม่เหว่ยพูดขึ้นว่า “เมื่อช่วงเช้าข้าไปยังจวนยิ่งกั๋วกง เอาของขวัญไปให้จวนยิ่งกั๋วกง เขาก็ไม่ได้พูดถึง ว่าวันนี้จะทำอย่างไร”

“พี่สี่พูดเข้าเรื่องเลยดีกว่า”

โม่เยว่พูดขึ้นด้วยสีหน้าเรียบเฉยว่า “อยากให้หนิงเอ๋อร์ช่วยทำอะไร?”

ผู้ชายคนนี้ มักจะพูดอย่างตรงจุดตรงประเด็น

โม่เหว่ยลูบจมูก พร้อมพูดขึ้นว่า “ลุงเฉินพูดว่า ตอนนี้สุขภาพร่างกายของข้าก็หายดีขึ้นมากแล้ว”

“ข้าจะต้องจัดงานเลี้ยงต้อนรับเสด็จพ่อเสด็จแม่และพวกพี่น้อง เพื่อเป็นการตอบแทนที่ทุกคนดูแลมาตลอดหลายปี และถือโอกาสนี้ป่าวประกาศออกไปว่า ข้าไม่ใช่เป็นคนป่วยอีกต่อไปแล้ว”

เขาพูดอย่างตรงไปตรงมา พูดตามคำพูดของลุงเฉิน บอกหยุนหว่านหนิงกับโม่เยว่อย่างไม่บิดเบือน

“จวนอ๋องโจวไม่มีนายหญิง”

พูดตรงประเด็นแล้ว

หยุนหว่านหนิงกับโม่เยว่มองสบตากัน พร้อมพูดขึ้นว่า “ข้าคิดว่า หว่านหนิงมีความสามารถขนาดนี้ ถึงตอนนั้น ช่วยข้าจัดงานได้ไหม?”

“พี่สี่จะยืมตัวหนิงเอ๋อร์?”

โม่เยว่หัวเราะเย้ย พร้อมพูดขึ้นว่า “เรื่องนี้ น่าจะควรที่จะปรึกษาข้า แต่ไม่ใช่ไปถามความเห็นของหนิงเอ๋อร์ก่อน”

น่าขำ

โม่เหว่ยขาดนายหญิง

ต่อให้หยุนหว่านหนิงช่วยเขาไปก่อน แต่ความหมายก็ไม่เหมือนกัน.....

“ช่วยพี่สี่จัดงานเลี้ยงในจวน ก็ควรที่จะให้พี่สะใภ้ช่วย ไม่ใช่น้องสะใภ้”

โม่เยว่สีหน้าบูดบึ้ง

หนานกงเยว่ โจวหยิงหยิงกับฉินซื่อเสวีย ล้วนเป็นพี่สะใภ้ของพวกเขา

ควรที่จะหาพวกนางก่อนสิ

ที่ไหนได้ โม่เหว่ยส่ายหัวยังจนใจ พร้อมพูดขึ้นว่า “เจ้าเจ็ด พี่สะใภ้ใหญ่กลับตงจวิ้นไปแล้ว พี่สะใภ้สองปกติก็ไว้ใจไม่ได้ พี่สะใภ้สาม....บ้าๆบอๆเชื่อถือไม่ได้”

“หากขอร้องพวกนางได้ ข้าจะมารบกวนหว่านหนิงหรือ?”

เขายิ้มอย่างขมขื่น

ใช่ว่าเขาไม่รู้ หากขอให้หยุนหว่านหนิงมาช่วย จะต้องถูกโม่เยว่พูดจากระทบกระเทียบ ยังต้องทนดูสีหน้าเขาอีก

สักพัก โม่เหว่ยก็พูดขึ้นว่า “แต่ ข้ารู้ว่าขอร้องหว่านหนิงก็พอ”

ไม่จำเป็นต้องถามโม่เยว่ ดังนั้นจึงถามหยุนหว่านหนิงเกี่ยวกับเรื่องนี้โดยตรง

โม่เยว่พูดขึ้นด้วยสีหน้าเย็นชาว่า “นี่พี่สี่หมายความว่าอย่างไร?”

“ข้าหมายความว่า หว่านหนิงตัดสินใจเองได้ ไม่จำเป็นต้องถามเจ้าเจ็ด”

โม่เยว่ “……”

เขาเป็นประมุขของบ้าน

เป็นสามีของหยุนหว่านหนิง

โม่เหว่ยดูถูกเขาหรือ?

เห็นความตึงเครียดระหว่างสองพี่น้อง จนจะต่อสู้กันแล้ว.....หยุนหว่านหนิงพูดขึ้นอย่างจนใจว่า “อ๋องโจว เรื่องนี้ข้าช่วยเจ้าได้”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อนงค์ใจพระชายาราชสีห์