“เมื่อคืน”
โจวหยิงหยิงพูดขึ้นอย่างมีลับลมคมในว่า “เสด็จแม่ที่เป็นใบ้อยู่หลายเดือน จู่ๆก็สามารถพูดได้แล้ว”
“อ๋า?”
หยุนหว่านหนิงตกตะลึง
ฮองเฮาจ้าวจู่ๆก็สามารถพูดได้?
ก่อนหน้านี้นางวางยาพิษให้นางเป็นใบ้ไปแล้วไม่ใช่หรือ?
“แต่ก็แค่ครึ่งชั่วโมงเอง”
โจวหยิงหยิงพูดขึ้นด้วยเสียงต่ำว่า “ตอนนั้น เสด็จพ่อไปยังตำหนักคุนหนิงพอดี คนของตำหนักคุนหนิงมาตามเสด็จไปหลายครั้ง บอกว่าเสด็จแม่อาการหนัก”
“ไม่มีใครรู้ว่าทำไม อยู่ดีๆนางก็ล้มป่วย”
นางพูดขึ้นด้วยสีหน้าเหยียดหยามว่า “อาจเป็นเพราะเหตุว่าเสด็จแม่เต๋อเฟยล้มป่วย เสด็จพ่ออยู่ดูแลตลอด เสด็จแม่จึงไม่พอใจ ใช้วิธีนี้มาเพื่อแย่งความรัก?”
“เสด็จพ่อเพิ่งเข้าไป ก็ได้ยินนางพูดได้พอดี”
“เดี๋ยวก่อน”
หยุนหว่านหนิงรินน้ำชาให้ตนเองหนึ่งแก้ว แล้วก็รินน้ำชาให้กับโจวหยิงหยิง ยกแก้วน้ำชาขึ้นมาพร้อมบอกให้เล่าต่อ
เรื่องนี้แปลกประหลาดจริงๆ หยุนหว่านหนิงไม่อยากพลาดสักคำ
“เสด็จแม่เปิดปากพูด บอกว่าครั้งนี้ที่หยวนเป่าถูกลักพาตัว เป็นฝีมือของโม่หุยเฟิง.....”
โจวหยิงหยิงขมวดคิ้วย่น
ตอนที่โม่เยว่กับหยุนหว่านหนิงสืบรู้ว่าเป็นฝีมือโม่หุยเฟิง พวกเขาไม่ได้บอกโม่จงหรานเป็นอันดับแรก เพราะโม่ฮั่นอี่ว์กับโจวหยิงหยิง ก็ไม่รู้ว่าเป็นฝีมือโม่หุยเฟิง
เกี่ยวกับเรื่องที่ฮองเฮาจ้าวเปิดปากพูด โจวหยิงหยิงเห็นเป็นเหมือนเรื่องเล่า
เพราะเรื่องนี้ มีเพียงโม่จงหราน ซูปิ่งซ่าน ตลอดจนคนของตำหนักคุนหนิงเท่านั้นที่รู้
ตอนที่รู้มาถึงหูโจวหยิงหยิง นางก็ไม่กล้ามั่นใจว่าเป็นเรื่องจริงหรือเท็จ
เพราะนางไม่กล้าหาญเหมือนอย่างหยุนหว่านหนิง ไม่กล้าบุกเข้าวังเพื่อไปถามโม่จงหราน
เมื่อกี้อยู่ด้านนอกประตู นางถามว่าใครเป็นคนลักพาตัวหยวนเป่า ได้ยินว่าเป็นโม่หุยเฟิง.....ดังนั้นจึงคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในวังเมื่อวาน แล้วรีบเล่าให้หยุนหว่านหนิงฟัง
“หลังจากนั้นล่ะ?”
หยุนหว่านหนิงก็ถามขึ้นว่า
“ข้าก็ไม่รู้ว่าเสด็จพ่อจัดการเสด็จแม่ยังไง แต่ตอนนี้เสด็จแม่ก็พูดไม่ได้อีกแล้ว น่าแปลกมากเลย เสด็จพ่อยังคิดว่าผีหลอก”
โจวหยิงหยิงพูดด้วยเสียงประหลาดใจว่า “เจ้าว่า เทพเจ้าก็ทนดูไม่ไหวแล้วหรือเปล่า”
“ดังนั้นจึงให้เสด็จแม่พูดได้ สารภาพลูกชายของตนเองออกมา?”
หยุนหว่านหนิง “……”
ที่ผ่านมานางไม่เคยเชื่อเรื่องผีสางเทวดา
นับตั้งแต่ข้ามภพมาถึงที่นี่ แล้วก็ได้รู้จักซ่งจื่ออวี๋กับเสวียนซันเซียนเซิง สำหรับผีสางเทวดานั้นหวาดกลัวจากใจจริง
“มีความเป็นไปได้”
นางพยักหัว
ในหัวสมองกลับอดไม่ได้ที่จะคิดว่า ก่อนหน้านี้ตอนที่หยวนเป่าอยู่ในโรงเตี๊ยมเมืองเซียง ก็บอกว่าคนที่คอยปกป้องเขามาตลอดทางก็คือซ่งจื่ออวี๋.....งั้นครั้งนี้ที่ฮองเฮาจ้าวพูดขึ้นมาได้อย่างกะทันหัน เป็นฝีมือซ่งจื่ออวี๋ด้วยหรือเปล่า?
นอกจากเขาแล้ว ยังจะมีใครเก่งกาจขนาดนี้
แอบเดาไปเองจะเอามายืนยันจริงไม่ได้
หยุนหว่านหนิงทานอาหารค่ำไปอย่างเหม่อลอย จนเมื่อโม่ฮั่นอี่ว์กับโจวหยิงหยิงกลับไปแล้ว นางค่อยปรึกษากับโม่เยว่ว่า จะไปหาซ่งจื่ออวี๋ไหม
“ข้ามักรู้สึกว่า เรื่องนี้แปลกประหลาด”
นางพูดขึ้นด้วยเสียงเย็นชาว่า “เสียงของเสด็จแม่ ข้าวางยาพิษด้วยตนเอง”
“จู่ๆก็สามารถพูดได้ แล้วก็เสียงหายไปอีก.....”
นางมองดูโม่เยว่แวบหนึ่ง แววตาแฝงไปด้วยความหมายไม่ชัดเจน
โม่เยว่พยักหัวอย่างครุ่นคิด พร้อมพูดขึ้นว่า “ข้าเข้าใจความหมายของเจ้า”
แต่ โม่จงหรานก็อดทนได้ดีมาก
วันนี้ได้เจอหยุนหว่านหนิง ก็ไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้ และก็ไม่ได้ให้นางไปดูฮองเฮาจ้าว เห็นทีคำพูดของโม่เยว่ประโยคนั้นใช้ได้ผล
โม่เยว่บอกว่าหยุนหว่านหนิงเดินทางมาอย่างเหน็ดเหนื่อย ร่างกายอ่อนล้าจนอาจทนไม่ไหว
ดังนั้น โม่จงหรานจึงทนเก็บความสงสัยไว้ ไม่ได้พูดเรื่องนี้ต่อหน้าหยุนหว่านหนิง
หากเดาไม่ผิด พรุ่งนี้ก็จะพูดเรื่องนี้กับนาง
“เรื่องนี้ฟังดูแล้วก็น่าแปลกจริงๆ”
โม่เยว่มองดูหยวนเป่าที่กำลังพูดคุยอยู่กับหรูอวี้ พร้อมพูดขึ้นว่า “แต่ข้าคิดว่า ไปยังตำหนักคุนหนิงก่อนจะดีกว่า”
ซ่งจื่ออวี๋ปกป้องหยวนเป่า เขาก็ซาบซึ้งใจ
แต่ซ่งจื่ออวี๋สำหรับเขานั้น.....
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อนงค์ใจพระชายาราชสีห์
อัพใหม่เถอะค่ะ...
เมื่อไรจะอัพเพิ่มคะ ฮือ รอนานมากแล้วววว...
อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ บทที่ 353 - 430 หายไปไหน หายยาววววมากกกก...
รอตอนต่อไปจ้า...
สนุกดีอ่านแล้วขำ 555...