อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ นิยาย บท 461

โม่ฮั่นอี่ว์ที่รู้สึกตัวช้า ตอนนี้ก็เข้าใจที่หยุนหว่านหนิงพูดแล้ว

เขาเบิกตาโพลงมองนาง “หว่านหนิง เจ้าหมายความว่า เสี่ยวไป๋ไม่ได้โดนเสี่ยวเฮยตีตาย? แต่เป็นคนอื่นเหรอ?!”

“ข้าก็หมายความแบบนั้นเลย”

หยุนหว่านหนิงเลิกคิ้วขึ้น

“งั้นจะเป็นใครล่ะ?!”

โม่ฮั่นอี่ว์รู้สึกตกตะลึง

หยุนหว่านหนิงมองเขาตาขวาง “ข้าควรจะถามเจ้ามากกว่าไม่ใช่เหรอ? ค่ายห้ากองพลเป็นของเจ้า คนของเจ้าถูกตีจนตาย เจ้ากลับไม่รู้อะไรเลยงั้นเหรอ?!”

“ข้าจะรู้อะไรล่ะ?”

“ข้ารู้ว่าในเมืองหลวงนี้ มีของกินที่ไหนอร่อยบ้าง……”

โม่ฮั่นอี่ว์พูดอย่างน้อยใจ

หยุนหว่านหนิง: “……”

โม่ฮั่นอี่ว์ยังคงพูดถึงเรื่องอาหารไม่หยุด โม่เยว่สั่งให้คนไปตรวจสอบแล้ว หลายวันมานี้เสี่ยวไป๋เจอใครบ้าง เคยล่วงเกินใครบ้าง

นอกจากเสี่ยวเฮยแล้ว ยังมีใครเคยทำอะไรเขาอีก?

เรื่องวันนี้ใหญ่มาก

แม้แต่โม่จงหรานก็สั่งคนมาถามไถ่

ส่งคนของโม่จงหรานออกไปแล้ว โม่ฮั่นอี่ว์ก็แยกย้ายคนในค่ายห้ากองพล รองแม่ทัพหวังก็ให้พี่น้องในค่ายเสินจีไปทำงานตัวเองได้แล้ว

โม่เยว่จับมือหยุนหว่านหนิงเข้าไปในค่าย

ที่นี่ไม่ใช่ ‘ค่ายหลัก’ ของค่ายเสินจี เป็นแค่ค่ายที่ไว้ฝึกทหาร จึงก่อตั้งค่ายนี้ขึ้นมา

โม่ฮั่นอี่ว์มองดูศพบนพื้น ให้หรูอวี้เฝ้าอยู่ที่นี่ แล้วเดินตามโม่เยว่เข้าไป

เดินได้ไม่กี่ก้าว ก็สั่งเสี่ยวเฮยว่า “เจ้าก็เข้ามาด้วย”

ลุงกับป้าของเสี่ยวเฮยคุกเข่าขอร้องบนพื้น……

“พวกเจ้าวางใจได้”

หยุนหว่านหนิงได้ยินเสียงขอร้อง ก็กลับไปปลอบใจ “ถ้าเสี่ยวเฮยไม่ได้ทำผิดจริง พวกเราก็จะไม่ใส่ความเขาโดยไร้หลักฐาน เรื่องนี้จะต้องกระจ่างแจ้ง”

เพิ่งเดินเข้าไปในค่าย เสี่ยวเฮยก็คุกเข่าลงพื้น “ท่านอ๋อง ข้าน้อยไม่ทราบจริงๆว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น”

“วันนี้ข้าน้อยโกรธเสี่ยวไป๋ เคยต่อสู้กับเขาสุดกำลังก็จริง ข้าน้อยไม่กล้ารับรองว่า การตายของเสี่ยวไป๋ไม่เกี่ยวกับข้าเลย……”

“กลัวอะไร?”

โม่ฮั่นอี่ว์ขมวดคิ้ว “เมื่อกี้หว่านหนิงก็บอกแล้วไม่ใช่เหรอ?”

“เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเจ้า เจ้าเป็นแค่แพะรับบาป! เจ้าอย่าเพิ่งพูดอะไร รอตรวจสอบเรื่องนี้ให้ชัดเจนก่อน”

เสี่ยวเฮยก็รีบหุบปาก ยืนก้มหน้าอยู่ข้างๆอย่างหมดอาลัยตายอยาก

ในตอนที่โม่เยว่มองโม่ฮั่นอี่ว์ด้วยแววตาลึกซึ้งครั้งที่สาม……

ในที่สุดเขาก็ทนไม่ไหว

“เจ้าเจ็ด วันนี้เจ้ามองข้าด้วยสายตาแปลกๆมาทั้งวันแล้วนะ เจ้าอยากทำอะไรกันแน่? เจ้ามีอะไรก็พูดมาตรงๆสิ อย่าทำให้ข้าตกใจแบบนี้!”

โม่ฮั่นอี่ว์กุมหน้าอก “เจ้าจะทำอะไรข้าอีกใช่ไหม?”

ทุกครั้งที่โม่เยว่จะทำเขา ก็จะใช้สายตาแบบนี้มองเขา มองจนเขาขนลุกซู่ไปหมด

“ทำไมข้าต้องทำอะไรเจ้าด้วย?”

โม่เยว่เลิกคิ้วขึ้น

พอพูดออกไป ก็ได้ยินเสียงนายพลเจิ้งดังขึ้น “ท่านอ๋อง ข้าน้อยมีเรื่องจะรายงานขอรับ!”

ถึงแม้เขาจะไม่ได้บอกว่าเป็นอ๋องหมิงหรืออ๋องฮั่น แต่โม่ฮั่นอี่ว์รู้ว่ากำลังเรียกเขา ก็เลยหันกลับไปตอบว่า “กลับไปก่อน เดี๋ยวข้าจะตามไป”

เขาก็ถึงมองโม่เยว่แล้วพูดว่า “เดี๋ยวพวกเราค่อยคุยกันอีกที”

โม่ฮั่นอี่ว์เดินออกไปโดยไม่กลับหลังหันมาอีก เขาเดินเร็วมาก ดูเหมือนกำลังวิ่งหนี

กลัวว่าถ้าไปช้ากว่านี้ โม่เยว่จะหักขาเขา แล้วทำอะไรเขาอีก

เห็นสายตาแฝงไปด้วยความนัยของโม่เยว่ หยุนหว่านหนิงก็หัวเราะเบาๆ “เจ้ากำลังสงสัยโม่ฮั่นอี่ว์เหรอ?”

“เขาน่าสงสัยมาก”

โม่เยว่ไม่ได้ปฏิเสธ เขาพูดเสียงทุ้มว่า “ถึงแม้พี่รองจะดูเหมือนไม่ควบคุมอะไร แต่กลัวเขาจะไม่กล้าออกความเห็นเพราะกลัวจะปล่อยไก่ออกมา เหมือนกับพี่ใหญ่ในตอนนั้น แสร้งเป็นหมู เพื่อหลอกกินเสือ เหมือนคมในฝัก!”

หยุนหว่านหนิงสายตาเป็นประกายเล็กน้อย

นางจะไม่เข้าใจที่โม่เยว่พูดได้ยังไง?

แต่โม่ฮั่นอี่ว์……

ยังไงก็ดูไม่เหมือนคนที่จะซ่อนคมในฝักได้เลยนะ!

นักกินจุอย่างเขา เหมือนจะทึ่มจริงๆนะ ดูไม่ออกเลยว่าเขาจะไม่กล้าออกความเห็นเพราะกลัวจะปล่อยไก่ออกมา?

“ข้ารู้สึกว่าเขาปล่อยไก่จริง ไม่จำเป็นต้องกลัวเลย……”

นางส่ายหน้า แล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “เขากับหยิงหยิงสองคนนี้เหมาะสมกันจริงๆ!”

โม่เยว่ไม่เห็นด้วย “ยังไงก็คอยระวังไว้หน่อยก็ดี”

หลังโม่หุยเหยียนกลับคำพูด โม่เยว่ก็ระแวงทุกคน ถึงแม้จะเป็นพี่น้องของตัวเองก็ตาม

ไม่นาน รองแม่ทัพหวังก็กลับมาตอบ

“ท่านอ๋อง พระชายา ข้าน้อยสืบมาแล้วขอรับ”

รองแม่ทัพหวังพูดด้วยสีหน้าเข้มงวด “ช่วงนี้เสี่ยวไป๋ไม่เคยทะเลาะกับใครเลย! เคยแค่ทะเลาะกับเสี่ยวเฮยในวันนั้น นอกนั้นก็ไม่เคยทะเลาะกับคนอื่นอีกเลย”

“ไม่มีทาง”

หยุนหว่านหนิงลุกขึ้น “ถึงแม้ร่างกายของเขาจะมีรอยแผลเยอะมาก แต่ก็ไม่ถึงกับตาย”

“ข้าน้อยตรวจสอบมาแล้ว ก่อนที่เสี่ยวเฮยจะลงมือ ร่างกายเขาก็บาดเจ็บอยู่แล้ว!”

ถึงแม้ผู้ชันสูตรศพจะชันสูตรเป็น แต่เพราะเสี่ยวไป๋ตายอนาถเกินไป จึงยากที่จะแบ่งแผลเก่ากับแผลใหม่ได้

“แต่การตรวจสอบเห็นได้ชัดว่า เสี่ยวไป๋ไม่เคยทะเลาะต่อสู้กับใครเลย”

รองแม่ทัพหวังลำบากใจมาก

ระหว่างที่พูดนั้น โม่ฮั่นอี่ว์ก็กลับมาอีกครั้ง “เจ้าเจ็ด หว่านหนิง เมื่อกี้คนของข้าบอกแล้วว่า ช่วงนี้เสี่ยวไป๋ไม่มีปฏิกิริยาแปลกๆอะไรเลย”

“นี่เป็นเรื่องเข้าใจผิดกันหรือเปล่า?”

“เข้าใจผิด?”

หยุนหว่านหนิงแสยะยิ้มเย็นชา “เจ้าหมายความว่า ข้าวินิจฉัยผิดหรือไง?”

“ไม่ใช่! ข้าไม่ได้หมายความแบบนั้น”

เห็นนางชักสีหน้า โม่ฮั่นอี่ว์ก็เหงื่อแตกเต็มหน้าผาก เขายิ้มแห้งๆแล้วอธิบายว่า “หว่านหนิง เจ้าวางของในมือลงก่อน ข้าเห็นแล้วกลัว”

หยุนหว่านหนิงถือเข็มเงินไว้ในมือ……

เดิมทีนางคิดว่า ในเมื่อรองแม่ทัพหวังบอกว่าเสี่ยวไป๋ไม่เคยทะเลาะกับใคร งั้นนางก็จะใช้วิธีของนาง ให้เสี่ยวไป๋ ‘เปิดปากพูด’!

ดังนั้นก็ถึงเอาเข็มเงินออกมา

เมื่อกี้โม่ฮั่นอี่ว์เข้ามา หยุนหว่านหนิงก็ยกมือชี้ไปที่เขา

แสงแดดสาดส่องเข้ามา ปลายเข็มสะท้อนแสงความเยือกเย็นออกมา

โม่ฮั่นอี่ว์กลืนน้ำลาย แผ่นหลังเย็นวาบ “เจ้ารู้ว่าข้าขี้กลัว อย่าเอามาขู่ข้าสิ”

หยุนหว่านหนิงหัวเราะเยาะเขา “ความกล้าของเจ้า ดูจะไม่สมส่วนกับรูปร่างของเจ้าเลยนะ”

โม่ฮั่นอี่ว์พูดอย่างน้อยใจ “ข้าเป็นคนขี้กลัว เจ้าเจ็ดก็รู้ดีนี่”

“เข้าประเด็นเลย”

วันนี้โม่เยว่ไม่อยากพูดกับโม่ฮั่นอี่ว์ เขามองไปยังหยุนหว่านหนิง “หนิงเอ๋อร์ เจ้าจะทำยังไงเหรอ? เสี่ยวไป๋ตายแล้ว สืบหาความจริงยากมากขึ้น”

“สืบยาก ไม่ได้หมายความว่าสืบไม่ได้”

หยุนหว่านหนิงหุบรอยยิ้มบนใบหน้า

นางเดินเข้าไปในค่าย โม่เยว่พวกเขาก็เดินตามหลัง

ทหารค่ายห้ากองพลกับค่ายเสินจีแยกย้ายกันหมดแล้ว ต่างก็ไปฝึกซ้อมทำหน้าที่ของตัวเอง

มีเพียงหรูอวี้ที่ยังเฝ้าศพของเสี่ยวไป๋ไม่หายไปไหน

เขาเบื่อมาก ตอนนี้กำลังเล่นผ้าขาวบนตัวเสี่ยวไป๋ “เสี่ยวไป๋เสี่ยวไป๋ ขุดหลุมฝังศพ กลบดินฝังไว้ คืนนี้เกิดใหม่……”

เขาแต่งกลอนสี่ขึ้นมา แล้วฮัมเป็นเพลง

หยุนหว่านหนิงหัวเราะกับกลอนของเขา

“ถ้าเสี่ยวไป๋ได้ยิน คืนนี้คงจะไปขอบคุณเจ้าในฝัน”

หรูอวี้รีบลุกขึ้น “พระชายา”

หยุนหว่านหนิงมองเขาแล้วหัวเราะ “หรูอวี้ เจ้าเชื่อไหมว่า ข้ามีวิธีทำให้เสี่ยวไป๋ที่ตายแล้ว กลับมาพูดได้?”

หรูอวี้เหมือนได้ยินคำพูดที่ตลกที่สุดในโลก

“พระชายาโม้อะไร ข้าน้อยก็เชื่อหมด! แต่มีแค่เรื่องนี้ ข้าน้อยไม่เชื่อเด็ดขาด!”

เขาหัวเราะแล้วพูดว่า “คนที่ตายแล้วจะกลับมาพูดอีกครั้งได้ยังไงกัน?”

“เจ้าไม่เชื่อเหรอ?”

หยุนหว่านหนิงเลิกคิ้วขึ้น

“ข้าน้อยไม่เชื่อจริงๆ!”

หรูอวี้มองไปยังโม่เยว่ “นายท่านเชื่อหรือไม่?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อนงค์ใจพระชายาราชสีห์