อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ นิยาย บท 462

พอพูดออกไป หรูอวี้ก็อยากจะกัดลิ้นตัวเองให้ขาดจริงๆ

พระชายาพูดอะไร นายท่านก็เชื่อหมดเลยนี่?!

ถึงแม้พระชายาจะขี้โม้ โม้เรื่องที่เป็นไปไม่ได้มากแค่ไหน เกรงว่านายท่านคงจะไม่สงสัยเลย……สำหรับทุกคำพูดของพระชายา นายท่านเชื่อโดยไม่มีข้อแม้เลยด้วยซ้ำ?!

ตั้งแต่พระชายาออกจากกักบริเวณ ถูกปล่อยออกจากเรือนชิงหยิ่ง หรูอวี้ก็เห็นว่า——

นายท่านของเขาเหมือน ‘ทรราช’ เลย!

ไม่งั้นจะมีคำพูดที่ว่า นารีเป็นเหตุ บ้านเมืองพินาศได้ยังไงล่ะ?

เป็นไปตามที่คิดไว้ โม่เยว่พยักหน้าอย่างไม่ลังเล “ข้าเชื่อหนิงเอ๋อร์”

เขาไม่เพียงแต่เชื่อนางโดยไม่มีข้อแม้ ยังบีบคอหรูอวี้ ให้เขาเปลี่ยนคำว่าเชื่อ!

“เชื่อๆๆขอรับ”

หรูอวี้รีบพยักหน้า เค้นคำพูดออกมาอย่างยากลำบาก “นายท่านปล่อยมือก่อน มีอะไรพูดกันดีๆ! ข้าน้อยไม่กล้าสงสัยคำพูดของพระชายาอีกแล้วขอรับ”

“หึ”

โม่เยว่ก็ถึงปล่อยมือออก

หรูอวี้รีบวิ่งไปหลบหลังหยุนหว่านหนิง

โม่ฮั่นอี่ว์มองเขาด้วยสีหน้าเห็นใจ “หรูอวี้ เจ้าช่างน่าสงสารเหลือเกิน!”

“อ๋องฮั่น ระวังคนต่อไปที่จะโดนนายท่านบีบคอจะเป็นท่านนะ!”

หรูอวี้ไม่พอใจ มองค้อนเขาอย่างโมโห

โม่ฮั่นอี่ว์ชะงัก “ทำไมเจ้าเจ็ดต้องบีบคอข้าด้วย? ข้าไม่ได้ไม่เชื่อคำเขาเสียหน่อย! ข้าเชื่อหนิงเอ๋อร์โดยไม่มีข้อแม้ต่างหาก!”

หรูอวี้เบะปาก บ่นในใจว่า: ประจบสอพลอ!

หยุนหว่านหนิงไม่สนใจพวกเขา นางนั่งลงแล้วเปิดผ้าขาวบนตัวเสี่ยวไป๋ออก

ถึงแม้จะเห็นมาเยอะแล้วก็ตาม……

ตอนนี้พอได้เห็นใบหน้าที่เละจนไม่มีชิ้นดีของเสี่ยวไป๋ โม่ฮั่นอี่ว์ก็อดไม่ได้ท้องไส้ปั่นป่วน “น่าสงสารจริงๆ! ถ้าไปภพภูมิอื่น คงจะกลายเป็นผีไร้หน้า?”

หยุนหว่านหนิงสั่งเสี่ยวเฮย ถอดเสื้อผ้าของเสี่ยวไป๋ออก ใส่แค่กางเกงในตัวเดียว

โม่เยว่สังเกตดูสีหน้าของหยุนหว่านหนิง

ตอนนี้ นางเย็นชาจนไม่เหมือนผู้หญิงคนหนึ่ง

พูดให้ดีเลยคือ ไม่เหมือนคนแล้ว……

ภายใต้คำสั่งของนาง เสี่ยวเฮยเช็ดเลือดบนตัวของเสี่ยวไป๋ให้สะอาด

หยุนหว่านหนิงมองดูใบหน้าที่เละจนไม่มีชิ้นดีก็รู้สึกไม่สบายตามาก ก็เลยให้หรูอวี้ปิดไว้ เผยให้เห็นแค่ส่วนคอลงไป

หลังจากเช็ดสะอาดแล้ว ร่างกายกำยำของเสี่ยวไป๋ก็ปรากฏสู่สายตาทุกคน

“เจ้าหมอนี่! หุ่นดีกว่าข้าอีก เสี่ยวเฮยชกเขาจนตายได้ยังไงกันนะ?”

โม่ฮั่นอี่ว์พูดขึ้น

หยุนหว่านหนิงไม่เสียสมาธิ นางหาจุดสำคัญ แล้วฝังเข็มลงไปช้าๆ ด้วยการฝังเข็มของนาง ร่างกายที่แข็งทื่อของเสี่ยวไป๋ก็เริ่มมีปฏิกิริยา

เขากำลังสั่นเล็กน้อย!

เห็นเขามีการตอบสนอง หยุนหว่านหนิงก็ถึงฝังเข็มลงไปแรงๆ

เข็มเงินทั้งแท่งฝังเข้าไปในร่างกายของเสี่ยวไป๋ ขนาดหัวเข็มยังหายเข้าไปด้วยเลย!

โม่ฮั่นอี่ว์ตกตะลึง!

ไม่เพียงแค่เขาที่ตกตะลึง ขนาดโม่เยว่ยังมองหยุนหว่านหนิงอย่างไม่อยากจะเชื่อ!

เขารู้มานานแล้วล่ะว่า วิชาการแพทย์ของหยุนหว่านหนิงล้ำเลิศมากแค่ไหน

ถึงแม้จะสงสัย ตอนแรกที่แต่งงานกับนาง นางก็เป็นแค่คุณหนูไร้น้ำยา……ทำไมถูกกักบริเวณสี่ปี ถึงได้เปลี่ยนแปลงไปมากขนาดนี้กันนะ

แต่ก็ต้องยอมรับว่า หยุนหว่านหนิงที่เป็นแบบนี้ มีเสน่ห์และดึงดูดเขามาก!

หรูอวี้พวกเขาก็เบิกตาโพลง มองดูหยุนหว่านหนิงลงมือนิ่งๆ “คุณพระ ได้ความรู้ใหม่แล้ว! เป็นบุญตาเสียจริง!”

หรูอวี้พึมพำ “พระชายาเป็นหมอเทพกลับชาติมาเกิดเหรอ?!”

หยุนหว่านหนิงไม่ได้ตอบ

นางฝังเข็มไปทั้งหมดเจ็ดแท่ง ก็ถึงหยุด แล้วถอนหายใจเบาๆ

ร่างกายที่แข็งทื่อของเสี่ยวไป๋ก็สั่นเทาเล็กน้อย

ก่อนที่จะฝังเข็ม ร่างกายเขามีแค่บาดแผลที่เสี่ยวเฮยทุบตี รวมไปถึงบาดแผลอื่นๆที่เห็นได้ชัด

บาดแผลพวกนั้น ผู้ชันสูตรศพแยกไม่ออกว่าเป็นแผลเก่าหรือแผลใหม่

แต่แค่พริบตาเดียวหยุนหว่านหนิงก็มองออกแล้วว่า แผลนั่นมีปัญหา

ตามด้วยร่างกายที่สั่นเทาของเสี่ยวไป๋ ร่องรอยบาดแผลก็ปรากฏให้เห็นชัดเจนมากขึ้น

บาดแผลพวกนั้น ไม่ได้เกิดจากการทำร้ายของเสี่ยวเฮย

แผลใหม่บวมแดง แผลเก่าบวมดำ มีสีม่วงเล็กน้อย

รอยแผลพวกนี้ลากยาวตั้งแต่คอไปจนถึงข้อเท้า บาดแผลเก่าและใหม่ปะปนกันเหมือนภาพวาดสีเข้มมืดมน

“แผลที่ทำให้ตาย คือจุดนี้”

หยุนหว่านหนิงชี้ไปที่หน้าอกเขา

บริเวณหน้าอกเป็นสีดำม่วง น่าตกใจมาก!

“นี่มันเป็นใครกัน ทำไมถึงทำได้ลงคอแบบนี้?!”

โม่ฮั่นอี่ว์อดไม่ได้กำหมัดแน่น

เสี่ยวไป๋เป็นคนของค่ายห้ากองพลของเขา

ไม่ว่าใครที่ทำร้ายเสี่ยวไป๋แบบนี้ได้ เขาจะไม่ยอมทนนิ่งเฉยแน่!

“เรื่องนี้เจ้าต้องไปสืบเอง”

หยุนหว่านหนิงลดสายตาลง พูดกับโม่ฮั่นอี่ว์ว่า “ร่องรอยบาดแผลของเขา อย่างมากก็ไม่เกินเจ็ดวัน ด้วยเหตุนี้เจ้าต้องตรวจสอบว่า ในเจ็ดวันนี้เขาไปเจอใครบ้าง”

โม่ฮั่นอี่ว์พยักหน้า “ข้าเข้าใจแล้ว”

สีหน้าของเขาเข้มงวดมากอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน “ในเมื่อเรื่องนี้เสด็จพ่อรู้เรื่องแล้ว……”

“ข้าก็จะรีบตรวจสอบโดยเร็ว เพื่อไม่ให้เสด็จพ่อกล่าวโทษ”

ว่าแล้ว โม่ฮั่นอี่ว์ก็ไม่ได้ตอบโม่เยว่ แล้วกลับหลังหันเดินออกไป

หรูอวี้ได้สติ “พระชายา ดังนั้นเสี่ยวไป๋ไม่ได้ตายเพราะโดนเสี่ยวเฮยต่อยใช่ไหมขอรับ?”

“อืม”

หยุนหว่านหนิงพยักหน้า “ถ้าจะให้พูดตามตรง ก่อนที่จะต่อสู้กับเสี่ยวเฮย เสี่ยวไป๋ก็ตายแล้ว สิ่งที่รองรับเขาไว้ ก็เป็นแค่ลมหายใจเฮือกสุดท้ายเท่านั้น”

ลมหายใจเฮือกสุดท้ายนี้ ทำให้เสี่ยวไป๋เหมือนหุ่นเชิด

“น่ากลัว! น่ากลัวมากจริงๆ!”

แววตาของหรูอวี้ประกายไปด้วยความตกใจ “งั้นศพของเสี่ยวไป๋……”

“หากยังหาตัวคนร้ายตัวตรงไม่ได้ ก็ต้องนำศพของเขาไว้ในโลงเย็น”

“ขอรับ พระชายา”

รองแม่ทัพหวังรีบไปจัดการทันที

เสี่ยวเฮยคุกเข่าลง ร้องห่มร้องไห้ “ขอบพระคุณพระชายาที่ช่วยข้าน้อยขอรับ! ข้าน้อยคิดว่าตัวเองฆ่าเสี่ยวไป๋เสียอีก……”

“ลุกขึ้น”

โม่เยว่เหลือบมองเขา “เจ้าย้อนคิดสิ ทำไมถึงถูกคนจับตามอง”

“ไม่มีมูลหมาไม่ขี้ ไม่มีเหตุย่อมไม่มีผล”

เสี่ยวเฮยสีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย ตอบรับอย่างเคารพ

วันนี้อาการของเขาดูแย่มาก โม่เยว่จึงสั่งลุงกับป้าของเขามารับตัวเขาไป

“หนิงเอ๋อร์ วันนี้เจ้าลำบากแย่เลยนะ”

หลังจากที่ทุกคนออกไปแล้ว โม่เยว่ก็แสยะยิ้ม “หลังจากคลี่คลายคดีนี้แล้ว ข้าจะขอบคุณเจ้าอย่างดีเลยนะ!”

“เจ้าจะขอบคุณข้ายังไง?”

หยุนหว่านหนิงเลิกคิ้ว

“ข้าขอตอบแทนด้วยร่างกาย?”

โม่เยว่ขยับเข้าไปใกล้หูของนาง แล้วพูดเสียงเบา

หยุนหว่านหนิงขนลุกซู่ นางถูแขน แล้วพูดอย่างรังเกียจ “ไม่เอา”

นางกลับหลังหันเดินออกไป

มองดูแผ่นหลังของนาง โม่เยว่ไม่โกรธแต่กลับหัวเราะแทน “หยิ่งผยองดี ข้าชอบ!”

“นายท่านชอบความท้าทาย! เช่นการจีบพระชายาให้ได้! แต่ข้าน้อยขอเตือนนายท่านก่อน ตอนนี้เรื่องที่ท่านทำบ่อยที่สุด นั่นก็คือการจ้องแผ่นหลังของพระชายานะขอรับ”

หรูอวี้ขยับเข้าไปอย่างไม่กลัวตาย “สักวัน……”

ยังพูดไม่ทันจบ โม่เยว่ก็เตะเขาอย่างแรง “ไสหัวไป!”

หรูอวี้รีบไสหัวออกไปทันที

เขาจะไสหัวไปถามพระชายา ฮองเฮาจ้าวที่ยังแขวนอยู่หลังวังจะจัดการยังไง!

หรือว่าจะให้แขวนอยู่แบบนั้น?!

หยุนหว่านหนิงเดินเร็วมาก

หรูอวี้ตามนางไป นางก็เดินเข้าจวนอ๋องหมิงไปแล้ว

ใครจะรู้ว่าเพิ่งเดินเข้าไป ก็ได้ยินข้ารับใช้หน้าประตูพูดว่า “พระชายา มีแขกรอท่านอยู่ที่ห้องโถงขอรับ! รอมาทั้งวันแล้วด้วย!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อนงค์ใจพระชายาราชสีห์