อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ นิยาย บท 469

เดิมทีหยุนหว่านหนิงไม่อยากไปร่วมงานเลี้ยง

แต่หยุนเจิ้นซง เห็นได้ชัดว่าแก่แล้ว หัวเริ่มไม่ดี

หยุนหว่านหนิงอ้วกเพราะขยะแขยงเขา แต่เขากลับคิดว่านางมีครรภ์ แล้วเอาเรื่องนี้ไปบอกกับโม่เยว่อย่างดีอกดีใจ……หยุนหว่านหนิงจึงตัดสินใจว่า: งานเลี้ยงนี้ นางจะต้องเข้าร่วมให้ได้!

นางเป็น ‘ลูกสาวแท้ๆ’ ของหยุนเจิ้นซง จะไม่เข้าร่วมงานเลี้ยงวันเกิดของพ่อตัวเองได้ยังไง?

ด้วยเหตุนี้ ก่อนงานเลี้ยงหนึ่งวัน นางก็ไปที่จวนหยุนกั๋วกงอย่างร่าเริง

หยุนเจิ้นซงอยากให้นางมาเข้าร่วมงานเลี้ยงของเขา แต่พอเห็นหยุนหว่านหนิงมาจริงๆ……

เขากลับรู้สึกกลัวแทน

“งานเลี้ยงจัดขึ้นพรุ่งนี้ นางมาทำอะไรวันนี้นะ?”

หยุนเจิ้นซงที่นั่งอยู่ในห้องหนังสือ ก็ถามอย่างไม่สบายใจ

พ่อบ้านลุงเฉินยืนอยู่ข้างๆ รู้สึกไม่สบายใจ “บ่าวก็มิทราบได้! พระชายาหมิงไม่ได้พูดอะไรมาก แค่บอกจะมาดูว่างานเลี้ยงจัดไปถึงไหนแล้ว……”

“นางสนใจเรื่องนี้ด้วยเหรอ?”

หยุนเจิ้นซงรู้สึกแปลก

เขาลุกขึ้น “ทำไมข้าถึงรู้สึกว่านางคิดไม่ดีล่ะ?”

ลุงเฉินปาดเหงื่อบนหน้าผาก พูดอย่างระมัดระวังว่า “นายท่าน พูดตามตรง บ่าวก็คิดเช่นนั้นเหมือนกัน!”

หยุนหว่านหนิงชื่อนี้สำหรับจวนหยุนกั๋วกงแล้ว เป็นเหมือนมารร้าย

ก่อนหน้านั้นก็ชนะเฉินอี๋เหนียง ต่อมาก็เป็นหยุนธิงหลานที่แต่งเป็นพระชายารองในจวนอ๋องสาม

สองแม่ลูกนี้ เคยเชิดหน้าชูตาอยู่ในจวนหยุนกั๋วกงมานานหลายปี

หยุนหว่านหนิงไม่ลงมือยังดี แต่ถ้าให้ทำจริง สองแม่ลูกก็ ‘พ่ายแพ้’ อย่างอนาถ!

ขนาดหยุนเจิ้นซง ตอนนี้ยังต้องกลัวหยุนหว่านหนิงอยู่บ้าง!

ถ้ายัยเด็กนี่แผลงฤทธิ์เมื่อไหร่ นางไม่มีทางไว้หน้าพ่อคนนี้แน่!

“ข้าไปดูสิ”

คิดไปคิดมา หยุนเจิ้นซงไปหาหยุนหว่านหนิงเองดีกว่า

ตอนนี้หยุนหว่านหนิงกำลังนั่งในห้องโถง ฟังแม่บ้านพูดอยู่

หยุนธิงธิงก็นั่งข้างๆ ฟังหยุนหว่านหนิงพูดอย่างตั้งใจ

“เชิญสามสิบโต๊ะ?”

หยุนหว่านหนิงเลิกคิ้ว “ท่านพ่ออายุห้าสิบห้าปี เพื่อนก็เยอะมาก อย่างน้อยก็น่าจะเชิญสักห้าสิบห้านะ……ไม่เพียงแต่เลขมงคล แล้วยังจะทำให้จวนกั๋วกงดูสง่าด้วย!”

แม่บ้านอึ้ง

แต่ก็ตอบคำถามว่า “พระชายา นายท่านบอกว่าไม่อยากจัดใหญ่โตเจ้าค่ะ”

“ไม่อยากจัดใหญ่โต?”

หยุนหว่านหนิงหัวเราะ

ด้วยนิสัยของหยุนเจิ้นซง คงอยากประกาศให้ทุกคนทั่วทุกสารทิศรู้ และเชิญทุกคนมากงานเลี้ยงวันเกิดของเขาน่ะสิ?

ให้ทุกคนรู้ว่า พระนัดดาองค์โตผู้สูงศักดิ์เป็นหลานของเขา……

ไม่อยากจัดใหญ่คงไม่จริง กลัวขุนนางในราชสำนักกล่าวโทษว่าสิ้นเปลืองคงจะจริง?!

เขาไม่กล้า หยุนหว่านหนิงจะทำให้เขา ‘กล้า’ ให้ได้!

นางแสยะยิ้มมุมปาก “อายุห้าสิบห้าก็เป็นอุปสรรคเหมือนกัน ในเมื่อถึงอายุนี้แล้ว ก็ควรจะฉลองกันหน่อย ไม่แน่วันไหน อาจจะจากโลกนี้ไปก่อนล่ะ?”

แม่บ้านเหงื่อแตกพลั่ก: “……”

นางไม่กล้าพูดต่อหรอกนะ!

หยุนธิงธิงรู้นิสัยของพี่สาวตัวเอง นางก็ส่ายหน้าอย่างเหนื่อยใจด้วยรอยยิ้ม

หยุนเจิ้นซงที่เดินมาถึงหน้าประตู ได้ยินแล้วก็แทบสะดุดล้มหน้าควบลงพื้น!

หยุนหว่านหนิงพูดแบบนี้ เกือบส่งเขาสู่ขิตแล้วไหมล่ะ!

ถึงแม้จะเป็นวันเกิดอายุห้าสิบห้าปี แต่พรุ่งนี้จัดงานเลี้ยงวันเกิด เป็นเรื่องมงคล

ยัยลูกคนนี้กลับพูดจาปากไม่มีหูรูด กลับแช่งเขาในวันที่ดีขนาดนี้?!

ลุงเฉินพยุงเขาไว้ได้ทัน เขาก็ถึงคว้ากรอบประตูไว้แล้วยืนนิ่งได้ เขาพูดอย่างหวาดกลัว “ยัยลูกคนนี้ไปทำปากสาลิกามาหรือไง?”

ได้ยินเสียงหน้าประตู หยุนหว่านหนิงก็หันไปดู

แม่บ้านก็โล่งอก

นายท่านมาก็ดีแล้วล่ะ……

พูดกับพระชายาหมิง รู้สึกกดดันและตื่นเต้นมาก นางกลัวว่าถ้าพูดผิดคำไหน จะทำให้คุณหนูท่านนี้โมโหอีก!

“หว่านหนิง งานเลี้ยงวันเกิดจัดพรุ่งนี้นี่?”

หยุนเจิ้นซงเดินเข้าไปนั่ง

“ข้าคิดว่า จวนกั๋วกงไม่มีนายหญิงที่คอยจัดงาน ถึงข้าจะแต่งงานออกไปแล้ว แต่ยังไงก็นามสกุลหยุน จวนกั๋วกงเสียหน้าก็ทำให้ข้าเสียหน้าด้วย”

หยุนหว่านหนิงพูดอย่างจริงจัง “ด้วยเหตุนี้จึงตั้งใจมาดู ทุกอย่างเตรียมเสร็จแล้ว”

“ข้าหวังดี หยุนกั๋วกงคงไม่ว่าอะไรหรอกนะ?!”

หวังดี?!

ยัยลูกคนนี้จะหวังดีอะไรล่ะ?!

หยุนเจิ้นซงสงสัยหนักมาก

เขายิ้มแห้ง “ไม่หรอก! ในเมื่อเช่นนี้ เจ้าเห็นว่าดีหรือยัง?”

“ก็เกือบเสร็จแล้วล่ะ แต่ยังมีอีกเรื่อง”

หยุนหว่านหนิงอ้ำอึ้ง “ยังไงหยุนกั๋วกงก็เป็นคนมีชื่อเสียงระดับหนึ่ง และยังเป็นวันเกิดห้าสิบห้าปีอีก ถ้าจัดแค่สามสิบโต๊ะ ดูจะขี้เหนียวไปนะ?”

หยุนเจิ้นซง: “……เจ้าคิดยังไง?”

“ห้าสิบห้าโต๊ะไปเลย”

“ห้าสิบห้า?”

หยุนเจิ้นซงขมวดคิ้ว

สีหน้าของเขาลังเล กังวลว่าจะโดนพวกขุนนางในราชสำนักกล่าวโทษ

“หยุนกั๋วกงคงไม่ขาดเงินหรอกนะ เพิ่มอีกแค่ยี่สิบห้าโต๊ะ น่าจะเป็นเรื่องเล็กนะ?”

หยุนหว่านหนิงเลิกคิ้วขึ้น

“ถึงจะพูดเช่นนี้ แต่ข้าก็เตรียมรายชื่อแขกไว้แล้ว และส่งบัตรเชิญไปแล้วด้วย ถ้าเพิ่มอีกยี่สิบห้าโต๊ะกะทันหัน เชิญแขกไม่ทันหรอก!”

นี่เป็นข้ออ้างที่ดี

หยุนหว่านหนิงแสยะยิ้ม “จะยากอะไร?”

นางพูดอย่างเรียบเฉย “อีกยี่สิบห้าโต๊ะที่เกินออกมา ถ้าเชิญแขกไม่ได้ งั้นก็เชิญเพื่อนบ้านหรือชาวบ้านที่เดินผ่านไปมาก็ได้”

“ถ้าเป็นแบบนี้ ไม่เพียงแต่ไม่กระอักกระอ่วน ยังได้รับคำชมจากชาวบ้านอีก! และยังได้ห้าสิบห้าโต๊ะเป็นตัวเลขมงคลอีก ยิงนกตัวเดียวได้ตั้งสองตัว”

หยุนธิงธิงที่อยู่ข้างๆ ยอมใจกับฝีปากของพี่สาวตัวเอง

เก่งจริงๆ!

ถ้าเป็นนาง คงจะคิดวิธีแบบนี้ไม่ออกหรอก!

หยุนเจิ้นซงเห็นได้ชัดว่าเริ่มสนใจ

เขายกถ้วยชาขึ้น แต่ก็ยังรู้สึกไม่สบายใจ “แต่ถ้าฝ่าบาทถามขึ้นมา……ก่อนหน้านั้นฝ่าบาทเพิ่งบอกว่าท้องพระคลังว่างหลังผ่านปีใหม่มา”

“เพื่อเป็นตัวอย่างให้ชาวบ้าน ห้ามสิ้นเปลือง ทุกอย่างจะต้องเรียบง่าย……”

ว่าแล้ว เขาก็กลัวขุนนางกล่าวโทษ กลัวโม่จงหรานด่า!

หยุนหว่านหนิงมองเขาแล้วหัวเราะ “หยุนกั๋วกงก็ยอมรับมาเถอะ ที่จริงเจ้าอยากจัดห้าสิบห้าโต๊ะ แต่กลัวจะโดนว่า”

“ข้า……”

หยุนเจิ้นซงใบหน้าแดงก่ำ ไอกระแอมแล้วก้มหน้าพูดว่า “ใช่ เจ้าพูดถูก”

หยุนหว่านหนิงกับหยุนธิงธิงสบตากัน “ในเมื่อเช่นนี้ งั้นข้าก็จะทำให้เจ้าสมหวัง!”

“ข้าไม่ได้เตรียมของขวัญวันเกิดอะไรให้เลย งั้นก็ช่วยเจ้าจัดการอีกยี่สิบห้าโต๊ะที่เหลือแล้วกัน หากเสด็จพ่อพูดขึ้น ก็บอกว่าเป็นความคิดของข้า”

พอพูดแบบนี้ หยุนเจิ้นซงก็ดีใจ “พูดจริงนะ?!”

“พูดแล้วไม่คืนคำ”

หยุนหว่านหนิงลุกขึ้นพรวด “ใช้โอกาสตอนที่ยังมีเวลา รีบไปซื้อของเตรียมเชิญแขกกัน”

“และไปบอกพวกเพื่อนบ้านชาวบ้าน พรุ่งนี้ให้มาเข้าร่วมงานเลี้ยง!”

นางกลับหลังหันเดินออกไป

หยุนธิงธิงรีบตามไป “พี่ใหญ่รอข้าด้วย!”

หยุนเจิ้นซงมีคำ ‘รับรอง’ ของหยุนหว่านหนิง ก็ดีใจมากๆ รีบสั่งลุงเฉินกับแม่บ้านไปทำตามที่หยุนหว่านหนิงบอก

ลุงเฉินลังเล ‘นายท่าน’

“บ่าวคิดว่า พระชายาหมิงไม่ได้หวังดีแบบนั้นนะขอรับ? คงไม่ได้มีแผนร้ายอะไรหรอกนะขอรับ?”

“กลัวอะไร? นางบอกว่านางจะยอมรับผิดเอง! นางเป็นที่รักของฝ่าบาท ถึงจะโดนกล่าวโทษก็ไม่เป็นไรหรอก”

หยุนเจิ้นซงปัดมือ “ไปเตรียมตัวได้แล้ว! ข้าจะให้ทุกคนรู้ว่า ลูกสาวของข้าเป็นที่รักของราชวงศ์ หลานของข้าเป็นพระนัดดาองค์โตผู้สูงส่ง!”

เขาพูดอย่างได้ใจ

เห็นว่าพูดแล้วเขาไม่ฟัง ลุงเฉินก็เลยต้องทำตามคำสั่ง

ขณะเดียวกัน หยุนธิงธิงก็ไล่ตามออกไปข้างนอก

“พี่ใหญ่!”

นางจับมือของหยุนหว่านหนิงไว้ แล้วขมวดคิ้วพูดว่า “พี่ พี่มีแผนอะไรเหรอ?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อนงค์ใจพระชายาราชสีห์