หลังจากเห็นของในมือหรูอวี้แล้ว สายตาหยุนหว่านหนิงกะพริบตา
เป็นพู่หยกอันหนึ่งที่แตกแล้ว
นี่เป็นของขวัญวันเกิดโม่เยว่เมื่อปีที่แล้ว นางทำให้เขา
ซึ่งพู่หยกนี้หยุนหว่านหนิงให้ช่างหยกข้างนอกทำให้ เพราะเวลากระชั้นชิด ลืมสลักชื่อโม่เยว่ ตอนที่เอาให้เขา เขายังแสดงสีหน้าไม่ชอบ
คิดไม่ถึงว่า เขาจะพกพู่หยกนี้ติดตัวตลอด?
หยุนหว่านหนิงค่อยๆยื่นมือ รับเอาพู่หยกมาจากในมือหรูอวี้
ตอนที่เอาพู่หยกให้ไป บนพู่หยกไม่ทันได้สลักชื่อ แต่ตอนนี้บนนั้นสลักตัวอักษร “เยว่” ไว้แล้ว
พู่หยกไม่ได้แตกแยกเป็นสี่ห้าชิ้น แต่ตรงกลางถูกลูกธนูแทงทะลุเป็นรู
“นายท่านบาดเจ็บสาหัสมาก หากไม่ใช่เพราะพู่หยกชิ้นนี้ คงจะบาดเจ็บสาหัสกว่านี้”
หรูอวี้สะอึกสะอื้น
หยุนหว่านหนิงหันไปมองดูสายน้ำเกลือแวบหนึ่ง ไม่ปกปิดต่อหน้าพวกหรูอวี้ ลูบพู่หยกอย่างแผ่วเบา ภายในใจรู้สึกหลากหลายผสมผสานไปหมด
หากไม่มีพู่หยกปกป้อง เพียงแรงสั่นสะเทือนของลูกศรนี้
โม่เยว่ทนรับไม่ไหวแน่
พู่หยกช่วยต้านทานแรงกระทบไว้ให้เขาได้อย่างมาก แต่ลูกศรนี้ก็ยังคงแทงทะลุโดนหน้าอกของโม่เยว่
เพียงพอที่จะแสดงให้เห็นว่าทักษะการยิงธนูของคนคนนี้ล้ำลึกมาก
หยุนหว่านหนิงตรวจดูอย่างละเอียดแล้ว ตรงบาดแผลจากลูกศรยังคงมีพิษหลงเหลืออยู่บ้าง แสดงว่าบนลูกศรอาบยาพิษ
และก็เพราะพู่หยกอันนี้ ทำให้พิษไม่สามารถทำอันตรายโม่เยว่ได้
พู่หยกอันนี้ดูแล้วผลงานไม่ประณีต อันที่จริงยังมีเรื่องกลไกลึกลับประการหนึ่ง
ตอนนั้นตรงกลางภายในพู่หยก หยุนหว่านหนิงใส่น้ำยาป้องกันพิษที่ไร้กลิ่นไร้รสไว้ นางเฝ้าดูช่างหยกนำน้ำยากันพิษใส่ลงไปกับตาตนเอง เพราะทำยากมากทำให้ไม่มีเวลาสลักอักษร
โม่เยว่มั่นใจว่าที่ตนเองต้านทานพิษได้ทุกอย่าง เป็นเพราะหยุนหว่านหนิงใช้เขาทดลองพิษเป็นเหตุ
ความจริงแล้ว เป็นเพราะประสิทธิภาพของพู่หยกอันนี้
หากไม่ใช่เพราะพู่หยกถูกแทงทะลุ น้ำยากันพิษช่วยถอนพิษ โม่เยว่คงไม่รอดผ่านเมื่อคืนวานมาได้
หยุนหว่านหนิงถอนหายใจเล็กน้อย พร้อมพูดขึ้นว่า “พู่หยกนี้ไม่มีประโยชน์แล้ว โยนทิ้งไปเถอะ”
“แต่ว่า นี่เป็นสิ่งของที่นายท่านรักมาก......”
หรูอวี้เงยหน้าขึ้นมา น้ำตานองหน้า พร้อมพูดขึ้นว่า “เมื่อคืนนายท่านเผชิญอันตราย จนถึงสุดท้ายยังจับกุมหน้าอกไว้ เดิมข้าน้อยคิดว่ากุมบาดแผลไว้ ที่ไหนได้ในมือนายท่านกุมพู่หยกนี้ไว้”
เขาอดทนไม่ไหวอีกต่อไป ชายอกสามศอกร้องไห้เหมือนอย่างเด็กสามขวบ
หรูอวี้ร้องห่มร้องไห้ จนหยุนหว่านหนิงปวดหัว
“ร้องไห้ทำไม?”
นางพูดขึ้นมาอย่างหงุดหงิดว่า “มีข้าอยู่นี่ทั้งคน จะปล่อยให้เขาตายได้หรือ?”
ไม่รู้ว่าหงุดหงิดเพราะหรูอวี้ร้องไห้ หรือว่าเพราะพู่หยกนี้ ทำให้นางรู้จักโม่เยว่ในมุมมองใหม่.....
“ขอเพียงข้าไม่ยอมให้เขาตาย มัจจุราชก็แย่งชีวิตเขาไปไม่ได้”
สีหน้าหยุนหว่านหนิงเย็นชา สายตาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น
หรูโม่ยืนอยู่ด้านข้าง อดไม่ได้ที่จะน้ำตาไหล
หรูอวี้กัดริมฝีปาก ยืนอยู่ด้านข้างอย่างน่าสงสาร
หยุนหว่านหนิงค่อยพูดขึ้นมาอีกว่า “ข้าเป็นเมียของเขา ข้ายังไม่ร้องไห้เลย เจ้าร้องไห้หนักขนาดนี้ ข้าจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน”
หรูโม่ “.......”
หรูอวี้ “......”
ที่พระชายาไม่ให้เขาร้องไห้ เพราะเหตุนี้หรือ?
หรูอวี้พูดขึ้นอย่างน่าสงสารว่า “พระชายา เราร้องไห้ด้วยกันไหม?”
หยุนหว่านหนิงเหล่ตาถลึงใส่เขา พร้อมพูดขึ้นว่า “.......คนไม่เอาไหน ไสหัวไป”
หรูอวี้นั้นไม่ยอมไปอย่างแน่นอน นายท่านตนเองยังไม่ฟื้น เขาจะต้องเฝ้าอยู่ข้างเตียง
หยุนหว่านหนิงเปลี่ยนน้ำเกลือให้กับโม่เยว่อีก ตรวจบาดแผลของเขา เมื่อกี้ใส่ยาห้ามเลือดแล้ว เวลานี้พอช่วยห้ามเลือดบนบาดแผลได้บ้าง มีเพียงน้ำเลือดเล็กน้อยที่ยังซึมออกมา
นางชักมือกลับอย่างพอใจ คิดในใจว่าหากไม่ดีขึ้นก็จะฉีดยาให้เขา
หรูโม่กับหรูอวี้มองดูการกระทำของนางอย่างแปลกใจ ยังมีสิ่งแปลกประหลาดที่แขวนอยู่บนหัวเตียงนั่น
ไม่รู้เลยจริงๆว่า พระชายาเอามาจากไหน
หากเป็นเมื่อก่อน ทั้งสองคนจะต้องห้ามไม่ให้หยุนหว่านหนิงใช้ของพวกนี้ให้กับโม่เยว่
แต่ตอนนี้พวกเขารู้ว่า มีเพียงพระชายาที่สามารถช่วยนายท่านได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อนงค์ใจพระชายาราชสีห์
อัพใหม่เถอะค่ะ...
เมื่อไรจะอัพเพิ่มคะ ฮือ รอนานมากแล้วววว...
อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ บทที่ 353 - 430 หายไปไหน หายยาววววมากกกก...
รอตอนต่อไปจ้า...
สนุกดีอ่านแล้วขำ 555...