ฉินซื่อเสวียเองก็คาดไม่ถึงว่า จะเจอโม่เยว่กับหยุนหว่านหนิงที่นี่
โดยเฉพาะหยุนหว่านหนิง
นางสะดุ้งอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็ตั้งสติได้อย่างรวดเร็ว ฉากแบบนี้ นางเคยเห็นมาเยอะแล้ว แผนการกลยุทธ์ทุกอย่างก็ล้วนอยู่ในกำมือของนางทุกครั้ง?
“ที่แท้เป็นอ๋องหมิงกับพระชายาหมิงนี่เอง”
นางเดินเข้ามาด้วยรอยยิ้ม ราวกับว่าเรื่องไม่ดีที่เกิดขึ้นในจวนอ๋องหมิงเมื่อสองสามวันก่อนนั้น ไม่เคยเกิดขึ้นเลย "ไม่เจอกันนานเลย"
คำนี้พูดให้กับหยุนหว่านหนิง
แต่ดวงตาคู่นั้น ก็จ้องตรงไปที่โม่เยว่
ช่างเป็นดอกบัวขาวที่ไม่มีใครเทียบได้จริงๆเลย! (ดอกบัวขาว=ผู้หญิงที่ภายนอกดูใสซื่อบริสุทธิ์ แต่ภายในคิดไม่ซื่อ มีพฤติกรรมที่ไม่ดี)
หยุนหว่านหนิงแอบหมดคำพูดในใจ แต่สีหน้าก็ยังคงนิ่งสงบเหมือนเดิม "พระชายาหยิง ไม่พบกันมานาน สบายดีหรือไม่"
เมื่อได้ยินเช่นนี้ โม่เฟยเฟยก็ทนไม่ไหวแล้ว
นางปกป้องฉินซื่อเสวียจนติดเป็นนิสัยแล้ว ต่อให้จะสามารถพิสูจน์ได้ว่านางถูกฉินซื่อเสวียวางแผนทำร้าย แต่แต่นางก็ไม่สามารถเปลี่ยนทัศนคติที่มีต่อหล่อนได้เร็วขนาดนี้
ดังนั้น จึงรีบช่วยนาง "หยุนหว่านหนิง เจ้าพูดจายังไงกันแน่?"
“สบายดีหรือไม่? พี่สะใภ้สามทำอะไรเจ้า?”
ทันทีที่พูดออกมา สีหน้าของโม่เยว่ก็เย็นลง นางก็รู้ตัวทันที และหันมองหยุนหว่านหนิงโดยสัญชาตญาณ
นางเหมือนยิ้มแต่ไม่ได้ยิ้ม “องค์หญิงเก้าตื่นตระหนกเช่นนี้ทำไม?ข้าเพียงแค่ทักทายพระชายาหยิงเท่านั้น เพราะไม่ได้เห็นนางมาเป็นสักพักแล้ว”
สิ่งที่ฉินซื่อเสวียถนัดที่สุด ก็คือการประชดประชัน และผฝงความหมายอื่นอยู่ในคำพูด
วิธีนี้ หยุนหว่านหนิงเรียนรู้และใช้มันในขณะนี้เลย!
ฉินซื่อเสวียได้ยินคำนี้ ก็เข้าใจในทันที
นังสารเลวนี้ กำลังพูดเป็นนัยเรื่องที่นางโดนโม่หุยเฟิงกักขัง!
ราวกับว่านางไม่เคยถูกกักขังเลย
ฉินซื่อเสวียแอบคิดแค้นในใจ แต่สายตากลับมองไปยังโม่เยว่ด้วยความคับข้องใจ "ข้าเพียงแค่กล่าวทักทายกับพระชายาหมิงด้วยความหวังใจเท่านั้น แต่กลับเหมือนเป็นข้าที่ผิดไปสักงั้น"
โม่เยว่ไม่สนใจนาง
“พระชายาหยิง ข้าก็กล่าวทักทายกับเจ้าเช่นกันนี่นา”
หยุนหว่านหนิงทำหน้าไร้เดียงสา "หรือว่าเจ้าเข้าใจอะไรผิดไปหรือเปล่า?"
ฉินซื่อเสวีย:“……”
"เปล่า"
นางยิ้มอย่างเขินอาย รอยยิ้มเหมือนฝืนยิ้มเล็กน้อย แล้วเดินไปนั่งลงข้างโม่เฟยเฟยโดยตรง “เฟยเฟย ข้าได้ยินมาว่าช่วงนี้ท่านไม่สบาย ดีขึ้นหน่อยหรือยัง?”
"เดิมทีข้าควรมาเยี่ยมท่านนานแล้ว แต่ท่านก็รู้ว่า ร่างกายของข้า……"
นางพูดอึกๆ อักๆ
หางตาเหลือบมองหยุนหว่านหนิงเหมือนตั้งใจและเหมือนไม่ได้ตั้งใจ "สาเหตุของโรคนี้ก็เกรงว่าคงหายดีขึ้นไม่ได้แล้ว!"
“โดยเฉพาะในฤดูหนาว ร่างกายยิ่งอ่อนแอ ดังนั้นจึงพักฟื้นอยู่ในจวนอ๋องหยิงมาโดยตลอด และไม่สามารถเข้าวังมาเยี่ยมท่านได้ ท่านคงไม่โกรธพี่สะใภ้สามสินะ?"
หยุนหว่านหนิงไม่เคยเห็นคนหน้าด้านแบบนี้มาก่อน
เมื่อหลายปีก่อนหลังจากที่ฉินซื่อเสวียถูกนาง "ใส่ร้าย" ก็ทำให้ได้โรคติดตัวมา
หลายปีผ่านมา ก็ไม่เห็นมีท่าทีที่จะดีขึ้นเลย
เรื่องนี้ ทุกคนต่างก็รู้ดี
โม่เฟยเฟยก็ยิ่งร้องขอความเป็นธรรมให้นางมาหลายครั้ง
ตอนนี้ ฉินซื่อเสวียก็พูดถึงเรื่องนี้ขึ้น "โดยบังเอิญ" แต่โม่เฟยเฟยกลับไม่ได้ดุว่าหยุนหว่านหนิงเป็นอันดับแรก เพียงแค่ถามอย่างไม่ค่อยปกติว่า "แล้วเจ้าได้เชิญหมอหลวงมาตรวจดูหรือยัง?"
ยังไงนางก็ดีกับฉินซื่อเสวียมาหลายปี จะให้นางปฏิบัติต่อหล่อนอย่างเย็นชาทันที ก็เหมือนจะทำไม่ได้
ขณะพูด โม่เฟยเฟยก็ขยับไปด้านข้างด้วยความหวาดระแวง
เหมือนกับว่า ต้องการออกห่างจากฉินซื่อเสวีย
แต่นางเป็นคนที่เสแสร้งไม่เก่ง
พอขยับ ดวงตาของฉินซื่อเสวียก็ทรุดลงเล็กน้อย
“ตรวจแล้ว บอกว่าต้องพักฟื้นรักษาดีๆ”
ฉินซื่อเสวียปกปิดอารมณ์ไว้อย่างดี พูดอย่างอ่อนโยนว่า "วันนี้เป็นวันฉลองพระชันษาของเต๋อเฟย ท่านจะไปอวยพรวันประสูติที่ตำหนักหย่งโซ่วให้เต๋อเฟยหรือไม่?"
หากต้องการทราบว่านางสนมในวังใครเป็นผู้ที่ได้รับความโปรดปราน เพียงแค่ดูว่าอาศัยอยู่ในตำหนักไหนก็รู้แล้ว
ฮองเฮาจ้าวอาศัยอยู่ในตำหนักคงหนิง เต๋อเฟยที่โปรดปรานที่สุดอาศัยอยู่ในตำหนักหย่งโซ่ว
ว่ากันว่า ในตำหนักหย่งโซ่วนั้นเหลืองอร่ามแวววาว เตียงแกะสลักจากหยก เย็นสบายในฤดูร้อนและอบอุ่นในฤดูหนาว
แถมภายในยังหรูหรามากอีกด้วย
เนื่องจากโม่จงหรานโปรดปรานเพียงเต๋อเฟยเพียงผู้เดียวมาเป็นเวลาหลายปี จึงทำให้เหล่าขุนนางชั้นสูงไม่พอใจเป็นอย่างยิ่ง และทุกๆสามหรือห้าวัน ก็จะยื่นคำร้องให้ "ฝ่าบาทโปรดพระราชทานพระเมตตาอย่างทั่วถึง" และ "ปลดอำนาจของเต๋อเฟย"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อนงค์ใจพระชายาราชสีห์
อัพใหม่เถอะค่ะ...
เมื่อไรจะอัพเพิ่มคะ ฮือ รอนานมากแล้วววว...
อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ บทที่ 353 - 430 หายไปไหน หายยาววววมากกกก...
รอตอนต่อไปจ้า...
สนุกดีอ่านแล้วขำ 555...