อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ นิยาย บท 554

การหายตัวไปอย่างกะทันหันของโจวถง ทำให้คนที่อยู่เบื้องหลังตื่นตระหนกมากเช่นกัน

ไม่รู้ว่าช่วงนี้โม่หุยเหยียนยุ่งอะไร

เขายึดค่ายห้ากองพลคืนจากโม่ฮั่นอี่ว์ อีกทั้งยังต้องควบคุมค่ายเสินจีชั่วคราว แต่ช่วงนี้เขากลับไม่ยุ่งกับงานราชการ แต่ไม่รู้หายไปไหน

เขาไม่เคยมาที่คุกหลวงอีกเลย และโม่เยว่ก็ยุ่งอยู่กับการสืเรื่องตระกูลโจว ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ไปที่คุกเพื่อเยี่ยมหยุนหว่านหนิงชั่วคราว

เพราะเช่นนี้ทำให้นางมีโอกาสไปไหนมาไหนได้อย่างอิสระ

ด้วยความที่ไม่ได้เจอโม่จงหรานเป็นเวลานาน หยุนหว่านหนิงยังคิดถึงชารสชาติดีในห้องทรงพระอักษรของฮ่องเต้

โม่จงหรานยังทรงว่าราชการอยู่เลย นางก็แอบเข้าไปในห้องทรงพระอักษรของฮ่องเต้แล้ว และขอให้เหลียงเสี่ยวกงกงชงชาให้นาง

“หอมจัง!”

พอได้กลิ่นหอมของชา หยุนหว่านหนิงก็สูดลมหายใจลึก รู้สึกสดชื่น “นานแล้วที่ข้าไม่ได้กลิ่นชาอันหอมกรุ่นเช่นนี้ ชาของเสด็จพ่อหอมจริงๆ!”

“กลิ่นในคุกหลวงทำให้ข้าแทบอยากอาเจียน!”

พอได้ยินเช่นนี้ เหลียงเสี่ยวกงกงก็แอบยิ้ม “พระชายาหมิง เป็นเช่นนี้ เหตุใดท่านถึงไม่กลับจวน”

“กลับไปก็น่าเบื่อแย่สิ โม่ฮั่นอี่ว์กับพี่โจวต่างก็อยู่ในคุกหลวง เล่นไพ่กับพวกเขาน่าสนุกกว่าเยอะ!”

หยุนหว่านหนิงกลอกตา

ในช่วงสองวันที่ผ่านมา นางสอนโม่ฮั่นอี่ว์กับโจวฉางเฟิง เล่นไพ่จนชำนาญ

ถึงแม้ทั้งสามคนจะไม่ได้ถูกขังอยู่ในห้องขังเดียวกัน แต่ก็ไม่เป็นอุปสรรคของหยุนหว่านหนิง

ผู้คุมหลายคนยืนเฝ้าอยู่นอกห้องขัง และเป็นคนแจกไพ่ให้ทั้งสามคน

ถ้าหากไม่ใช่เพราะขาดกำลังคน นางคงสอนวิธีเล่นไพ่นกกระจอกให้พวกเขาแล้ว!

น่าเสียดายที่ผู้คุมพวกนี้ล้วนโง่เขลา พวกเขายังจำหน้าไพ่ไม่หมด นับประสาอะไรกับการเล่นไพ่นกกระจอก ดังนั้นจึงเป็นเรื่องยากมากที่จะมีคนเล่นครบสี่คน!

ในขณะที่กำลังพูด โม่จงหรานก็กลับมาจากว่าราชการพอดี

ยังไม่ทันเดินเข้าประตู เขาก็ได้กลิ่นชาอันหอมกรุ่นแล้ว...

โม่จงหรานหยุดชะงัก ก่อนจะหันหลังกลับและจากไปทันที “ข้ารับปากว่าจะทานอาหารเช้ากับเต๋อเฟย รีบไปที่ตำหนักหย่งโซ่ว!”

ซูปิ่งซ่านเอวก็มองไปทางประตูที่ปิดสนิท แล้วรีบเดินตามโม่จงหรานไป “ฝ่าบาท ในห้องทรงพระอักษรมีคนอยู่ข้างในหรือพ่ะย่ะค่ะ”

“มีนางมารร้ายอยู่ข้างใน”

โม่จงหรานเร่งความเร็วของเขา

ไม่ต้องอธิบายก็รู้แล้วว่าใครคือนางมารร้าย ซูปิ่งซ่านก็เดาได้แล้ว!

“พระชายาหมิงตอนนี้ควรอยู่ในคุกหลวงไม่ใช่หรือพ่ะย่ะค่ะ”

“คุกหลวงนั่น ขังนางไว้ได้หรือ”

โม่จงหรานตะคอกอย่างเย็นชา

แต่คิดไม่ถึงว่า หลังจากเดินไปได้ไม่กี่ก้าว ประตูห้องทรงพระอักษรก็เปิดออกพร้อมกับ “เสียงแหลม” “เสด็จพ่อ หม่อมฉัน​รอพระองค์อยู่นาน เหตุใดถึงไม่เข้ามาแต่จะจากไปเช่นนี้”

“ในสมัยโบราณ เพื่อควบคุมน้ำท่วมเดินผ่านบ้านสามครั้ง แต่ไม่เคยเดินเข้าไป”

“วันนี้เสด็จพ่อเพิ่งว่าราชการกลับมา พอได้กลิ่นชาก็จะหนีไป”

หยุนหว่านหนิงเอามือไพล่หลังเดินเข้าหา “เสด็จพ่อ หม่อมฉัน​ไม่ใช่สัตว์ประหลาด เหตุใดเสด็จพ่อถึงคิดจะหนีไป”

อาจเป็นเพราะได้รับการตามใจจากพ่อสามีอย่างโม่จงหราน หยุนหว่านหนิงจึงลอกเลียนแบบเขา สองมือไพล่หลัง ท่าทางสุขุม

“เจ้าไม่ใช่สัตว์ประหลาด แต่เจ้าน่ากลัวกว่าสัตว์ประหลาด”

โม่จงหรานถอยหลังหนึ่งก้าวด้วยสีหน้าบึ้งตึง พยายามรักษาระยะห่างจากนาง “เจ้าคิดจะทำอะไร”

พอมองไปที่คางของโม่จงหราน ที่มีรอยแผลเป็นเล็ก ๆ ซึ่งดูเหมือนรอยข่วน...

หยุนว่านหนิงรู้สึกสงสัย “เสด็จพ่อ เป็นอะไรไปเพคะ?

“เจ้ายังมีหน้ามาพูดอีก!”

พอพูดถึงบาดแผลนี้ โม่จงหรานก็กัดฟันกรอดด้วยความโกรธ!

เขาจ้องมองนางอย่างโมโห “เจ้าไปพูดอะไรเสด็จแม่ของเจ้า ไปฟ้องอะไรไว้! บอกว่าข้าสั่งจับเจ้าไปขังคุกหลวง!”

เพราะเหตุนี้ เต๋อเฟยทะเลาะกับเขาอย่างแรง!

“ยังเด็กยังเล็ก ไปเรียนแต่สิ่งที่ไม่ดี สอนหลานชายผู้น่ารักของข้านิสัยเสียขึ้นมาจะทำอย่างไร!”

โม่จงหรานทำหน้าบึ้ง

“ถูกเสด็จแม่เต๋อเฟยสั่งสอนมาหรือเพคะ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อนงค์ใจพระชายาราชสีห์