หยุนธิงธิงเป็นน้องสาวของหยุนธิงหลาน
ทั้งสองคนมีความคล้ายคลึงกันทางหน้าตามากนัก แต่นิสัยใจคอของสองพี่น้องกลับแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
หยุนธิงหลานเก่งกาจในการเสแสร้งและชอบหลอกล่อ จนคนอื่นๆ ล้วนถูกนางหลอกลวงจนสนิทใจ เมื่ออยู่ต่อหน้านาง หยุนหว่านหนิงนางยังคงเป็นดอกไม้ผู้บอบบาง
แต่ท่าทางของหยุนธิงหลานนั้นเยือกเย็นกว่าที่เห็น
นางเหลือบมองไปยังหยุนหว่านหนิง
“พี่ใหญ่”
นางโค้งกายเคารพ น้ำเสียงของนางดูมิสู้ดีนัก “คิดมิถึงว่าพี่ใหญ่จากบ้านมาเพียงสองสามปีแล้วจะจำข้ามิได้”
“ช่างสมกับเป็นผู้ที่อยู่ในจวนอ๋องหมิงจริงเชียว”
แม่นางผู้นี้กล้าทำให้นางโกรธหรือ?
หยุนหว่านหนิงชะงักลงเล็กน้อย เมื่อเห็นว่าหรูเยียนเตรียมถกแขนเสื้อขึ้นจะจัดการใครบางคนแล้ว จึงได้กำชับนางว่า “หรูเยียน ไปเตรียมชาร้อนมา”
นับตั้งแต่ที่นางช่วยหรูเยียนเอาไว้ ก็ได้ปฏิบัติต่อนางด้วยความเคารพมิน้อย
และมิชอบที่จะเห็นใครดูหมิ่นหยุนหว่านหนิง โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนเช่นหยุนธิงธิงที่กล้าเยาะเย้ยนางต่อหน้าเช่นนี้
หยุนหว่านหนิงเดินเข้าประตูตรงไป “น้องสามเข้ามาสนทนากันด้านในเถิด”
หยุนธิงธิงมองไปที่เรือนชิงหยิ่ง แล้วนั่งลงตรงข้ามนาง “ได้ยินว่าท่านพี่ได้รับความชื่นชมและทะนุถนอมจากอ๋องหมิงมิน้อย เดิมทีข้าก็มิเชื่อ”
“เหตุใดเจ้าจึงมิเชื่อ?”
จู่ๆ หยุนหว่านหนิงก็รู้สึกสงสัยว่าแม่หนูคนนี้จะตอบนางเช่นไร
“เนื่องจากพี่ เดิมทีก็มิได้รับความนิยมจากใครนัก”
ใบหน้าของหยุนธิงธิงกล่าวออกมาอย่างมิลังเล
หยุนหว่านหนิง “......”
แทงใจดำ!
แม้แต่ผู้หญิงตัวเล็กๆ นี้ก็รู้ว่าแต่ไหนแต่ไรมานางมิได้เป็นที่นิยมชื่นชอบ เห็นได้ชัดว่าหยุนหว่านหนิงในอดีตนั้นมิต่างอันใดกับหนูในตลาดที่ทุกคนพบเห็นก็ล้วนกับต้องพากันตบตี
“เวลาเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งอย่างได้”
หยุนหว่านหนิงยิ้มขึ้นเบาๆ
“อืม”
หยุนธิงธิงพยักหน้าเห็นด้วยที่หายาก “ก่อนหน้านี้ข้าก็มิชอบพี่”
“แต่ในวันนี้เมื่อข้าเห็นพี่อีกครั้ง กลับมิรู้สึกรังเกียจเหมือนแต่เมื่อก่อน”
นี่นับว่าเป็นคำชมหรือไม่?
ใครกันแน่ที่เป็นพี่สาวและใครกันแน่ที่เป็นน้องสาว?
แม่หนูคนนี้มิรู้จักที่ต่ำที่สูง
“ท่านพ่อกล่าวว่า พี่มิเพียงแต่ได้รับความโปรดปรานจากอ๋องหมิง ทั้งยังได้รับความสนใจจากฮ่องเต้ด้วย ข้ามิเชื่อ”
มิรอให้นางกล่าวอะไรออกมา หยุนธิงธิงก็ได้เอ่ยขึ้นอีกครั้งว่า “ก่อนหน้านี้พี่ทำเรื่องเลวร้ายมากมาย อ๋องหมิงจะชื่นชอบและโปรดปรานพี่ได้อย่างไร นอกจากว่าเขาตาบอด”
หยุนหว่านหนิงรู้สึกว่าครั้งนี้หัวใจของนางแทบจะแตกสลาย
นางตัวแสบคนนี้คิดอะไรก็เอ่ยไปตามนั้น
“ท่านพ่อกล่าวว่าถ้าข้ามิเชื่อให้เดินทางมาดูด้วยตนเอง”
หยุนธิงธิงจึงได้เดินทางมาเพื่อประการฉะนี้ “ข้าจึงคิดว่าจะมาเชิญพี่ไปร่วมงานที่ข้าบรรลุนิติภาวะและวันเกิดของข้าด้วย”
“ยิ่งกั๋วกงให้เจ้ามาสินะ?”
หยุนหว่านหนิงขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย
หยุนธิงธิงเห็นนางเรียกหยุนเจิ้นซงเป็นชื่อเต็มออกมา แต่มิได้เรียกว่าท่านพ่อก็ชะงักลงครู่หนึ่ง แต่มิได้เอ่ยสิ่งใดออกมาอีก
“ใช่” บรรทัดใหม่
หยุนหว่านหนิงหัวเราะขึ้น
เกรงว่าเจ้าหนูนี่คงยังมิรู้ว่าตนถูกหยุนเจิ้นซงหลอกใช้เข้าเสียแล้ว
หยุนธิงธิงยกถ้วยน้ำชาขึ้นจิบเบาๆ แล้วกระซิบว่า “อ๋องหมิงโปรดปรานพี่จริงหรือ?”
“เอ๊ะ แม่หนูนี่ถามทำไมนักหนา?”
หยุนหว่านหนิงชำเลืองมองนาง
นางจำได้ว่าเมื่อก่อนหน้านี้ที่นางอยู่ในจวนกั๋วกง หยุนธิงธิงยังเล็กนัก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อนงค์ใจพระชายาราชสีห์
อัพใหม่เถอะค่ะ...
เมื่อไรจะอัพเพิ่มคะ ฮือ รอนานมากแล้วววว...
อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ บทที่ 353 - 430 หายไปไหน หายยาววววมากกกก...
รอตอนต่อไปจ้า...
สนุกดีอ่านแล้วขำ 555...