โซ่คล้องรัก นิยาย บท 18

"แม่กลับบ้านไปเถอะ"

"แม่อยากเห็นลูกขับรถออกไปกับหนูนับก่อน ห้ามแกล้งหนูนับด้วยนะ" คนเป็นแม่ชี้หน้าลูกชายเป็นเชิงคาดโทษ หากแต่ใบหน้ายังเปื้อนรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ เธอชะโงกหน้าเข้าไปหานับดาวอีกครั้ง "หนูนับถ้าโดนพี่รามแกล้งรีบมาบอกอาเลยนะ เดี๋ยวอาจะจัดการพี่รามให้"

"ขะ..ขอบคุณค่ะ คุณอาไม่รีบกลับบ้านเหรอคะ"

"อากำลังจะกลับบ้านแล้วจ้ะ แต่เหลือบมองเห็นรถของรามิลยังจอดอยู่เลยเดินมาหาก่อน หนูนับไม่สบายเหรอลูกถึงใส่เสื้อพี่ราม"

"นะ..น้ำที่พี่รามทำหกมันกระเด็นมาเปื้อนชุดของหนูด้วยค่ะ พี่รามเลยให้ยืมเสื้อสูทมาใส่ก่อน"

"เพิ่งเจอกันสองครั้งก็สนิทกันแล้วเหรอ หืม?"

"คะ? แค่ให้ยืมเสื้อใส่น่ะเหรอคะ" นับดาวผละใบหน้าออกมาเอียงคอมองมินตราด้วยความงุนงง ในขณะที่อีกฝ่ายยิ้มกริ่ม

"ชื่อรามน่ะปกติแล้วมีแต่คนในครอบครัวที่เรียกได้นะ รามไม่ชอบให้คนอื่นเรียกชื่อเล่นของตัวเอง ยกเว้นคนที่สนิทมากๆ ถึงจะเรียกได้"

"มะ..เมื่อกี้หนูเผลอเรียกตามคุณอาค่ะ"

"แต่ดูเหมือนพี่รามจะอนุญาตให้หนูนับเรียกแบบนั้นได้นะ หนูนับเรียกแล้วน่าฟังจริงๆ เลย"

"..." นับดาวทำได้แค่ยิ้มแห้งๆ แล้วซบหน้าลงบนท่อนแขนแกร่งอีกครั้งเมื่อมือซุกซนของรามิลเอาแต่สอดเข้ามาหยอกเย้ากับติ่งเกสรเบาๆ จนร่างกายของเธอเริ่มปลดปล่อยน้ำหล่อลื่นสีใสออกมาผสมกับน้ำรักขาวขุ่น

"หนูนับลองกลับไปคิดเรื่องฝึกงานกับพี่รามดูนะ ถ้าไม่อยากฝึกงานเฉยๆ ขอเงินเดือนจากพี่รามก็ได้ พี่รามเขายอมจ่ายให้อยู่แล้ว"

"นะ..หนูจะลองกลับไปคิดดูอีกทีนะคะ"

"งั้นรามรีบพาหนูนับไปส่งที่บ้านเพื่อนเถอะ แม่จะกลับบ้านแล้วเหมือนเดิม"

"ครับ" รามิลรับคำสั้นๆ พร้อมกับเลื่อนกระจกรถขึ้นช้าๆ จนมันปิดสนิท

"อ๊ะ! พี่รามปล่อยนับนะ" คนตัวเล็กแหวใส่เสียงเขียวเมื่อโดนมาเฟียหนุ่มอุ้มขึ้นมานั่งคร่อมบนหน้าตักแกร่งอีกครั้ง เขาถอดเสื้อสูทของตัวเองออกไปจากร่างกายเปลือยเปล่าของเธอ แล้วผูกแขนมันไว้เหนือเอวคอด ก่อนที่ลูกน้องทั้งสองคนของเขาจะเข้ามาในรถ

"ออกรถ" รามิลออกคำสั่งในขณะที่กำลังปลดกระดุมกางเกงออกอีกครั้ง หญิงสาวนั่งตัวแข็งทื่ออย่างทำอะไรไม่ถูกเมื่อรู้ว่ามีผู้ชายอีกสองคนนั่งอยู่ข้างหลัง ราวกับสมองหยุดประมวลผลไปชั่วขณะ แต่สติที่กำลังกระเจิดกระเจิงก็ถูกดึงกลับมาในตอนที่ถูกยกตัวขึ้นเล็กน้อย

"ยะ..อย่าเอามันเข้ามา..อื้อ!" มือเรียวจิกเล็บลงบนไหล่กว้างอย่างแรงเมื่อมาเฟียหนุ่มสอดใส่ความใหญ่โตเกินมาตรฐานเข้ามาในช่องทางรักคับแคบอีกครั้งหลังจากที่รถยนต์เคลื่อนออกมาจากโรงจอดรถของร้านอาหารได้ไม่นาน

"ทำให้ฉันแตกอีกรอบสิ แล้วเธอจะได้กลับบ้าน"

"ระ..โรคจิต ลูกน้องของตัวเองก็นั่งอยู่ในรถตั้งสองคนยังกล้าทำแบบนี้กับนับอีกเหรอ"

"อยากกระแทกเองหรืออยากโดนฉันกระแทก?"

"ถะ..ถ้านับบอกพ่อกับแม่ว่าพี่รามทำเรื่องเลวๆ อะไรกับนับไว้บ้างพ่อไม่มีทางจับคู่ให้เราอีกแน่"

"แล้วทำไมเมื่อกี้ไม่บอกแม่ฉัน?"

"..."

"ไม่กล้าบอกเหรอว่าโดนฉันเอามาแล้วกี่รอบ โดนแตกในไปหลายรอบคงจะอายใช่ไหม"

"..."

"แต่เวลาน้ำของฉันมันไหลออกจากตรงนั้นของเธอเธอก็ดูเสียวดีนี่"

"ยะ..หยุดพูดนะ! นับไม่เคยรู้สึกดีกับเซ็กซ์ห่วยๆ ของพี่รามเลย!" กำปั้นเล็กๆ ฟาดใส่แผงอกแกร่งเต็มแรงเพื่อกลบเกลื่อนความเขินอาย นับดาวขึ้นเสียงใส่คนตรงหน้าด้วยความไม่พอใจที่เขากล้าพูดจาไม่ให้เกียรติเธอต่อหน้าลูกน้องของตัวเอง

"อยากให้ฉันเงียบก็ขยับสะโพกสิ"

"อึก..นะ..นับเกลียดพี่ราม" เธอเม้มริมฝีปากเข้าหากันแน่น แล้วเริ่มขยับสะโพกขึ้นลงอย่างเนิบนาบ ถึงแม้จะไม่อยากยอมรับแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าร่างกายคุ้นเคยกับสัมผัสของเขา

ปึก! ปึก! ปึก! ปึก!

"อ๊า..." มาเฟียหนุ่มเปล่งเสียงครางออกมาเบาๆ เมื่อคนบนหน้าตักเร่งจังหวะการกระแทกกระทั้นให้หนักหน่วงขึ้น มือหนาปัดปลายผมของเธอออกจากหน้าอกใหญ่ทั้งสองข้าง แล้วเลื่อนใบหน้าเข้าไปขบเม้มยอดปทุมถันอย่างแรง

"ยะ..อย่าดูด..อ๊า..นะ..นับไม่ชอบ" นับดาวพยายามดันใบหน้าคมคายออกห่างด้วยความเสียวซ่าน ร่างกายกระตุกเกร็งถี่ๆ ทุกครั้งที่แก่นกายใหญ่สอดใส่เข้ามาจนถึงจุดกระสัน เธอก้มมองการกระทำของชายหนุ่มพลางหอบหายใจหนักๆ ทั้งเขินอายและเสียวซ่านในเวลาเดียวกัน

"เอ่อ นายจะกลับบ้านเลยไหมครับ" ชารีฟเอ่ยถามท่ามกลางเสียงครางระงมภายในรถอย่างกล้าๆกลัวๆ ทำให้รามิลยอมถอนริมฝีปากออกจากยอดปทุมถันอย่างจำใจ

"กลับบ้านเลย"

"มะ..ไม่เอา..อึก..นะ..นับจะไปหาเพื่อน"

"แผนของเธอหลอกได้แค่พวกผู้ใหญ่เท่านั้นแหละ" มาเฟียหนุ่มแย้งขึ้นอย่างรู้ทัน พร้อมกับรั้งใบหน้าหวานลงมาประกบจูบแนบชิด ช่วงชิงลมหายใจของกันและกันอย่างหนักหน่วง เขาค่อยๆ ส่งเรียวลิ้นสากเข้าไปตวัดเกี่ยวพันกับเรียวลิ้นเล็กในโพรงปากบาง ทำเอานับดาวเผลอจูบตอบอย่างลืมตัว

"โอ๊ย!" ร่างบางเบ้หน้าด้วยความไม่พอใจเมื่อโดนเหวี่ยงร่างขึ้นมาบนเตียงอย่างไร้ความปรานีทันทีที่รามิลเดินมาถึงห้องนอนของตัวเอง "พานับกลับมาที่นี่ทำไมคะ"

"..."

"บอกไว้ก่อนนะว่าถ้าจะกักขังกันนับไม่กลัวหรอก"

"แต่เธอคงกลัวการผูกมัดใช่ไหม"

"แล้วมีเหตุผลอะไรที่พี่รามต้องผูกมัดนับ เราเพิ่งรู้จักกันไม่ใช่เหรอคะ แล้วนับไม่ชอบคนแก่ด้วย"

"นั่นสิ ฉันแก่แล้ว"

"..." นับดาวกอดอกมองชายหนุ่มอย่างหวาดระแวงเมื่อเขายอมรับโดยไม่โต้แย้ง ทั้งที่ความจริงแล้วเขายังหนุ่มยังแน่นแท้ๆ การเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อยไม่ใช่เรื่องที่ใครก็ทำได้ "ระ..รู้ตัวว่าแก่แล้วก็เลิกยุ่งกับนับสิ"

"แก่แล้วก็คงต้องเริ่มมีครอบครัว"

"กะ..ก็มีไปสิ มันเกี่ยวอะไรกับนับด้วย"

"เธอเป็นตัวเลือกที่ไม่เลว"

"ให้ตาย! อย่ามาพูดจาหมาๆ แบบนี้กับนับนะ" เธอผลุนผลันลุกขึ้นมายืนจังก้าบนเตียงพลางชี้หน้ารามิล "คนอย่างนับดาวไม่เคยคิดที่จะเป็นตัวเลือกของใคร มีแต่พวกผู้ชายอย่างพี่รามิลนั่นแหละที่จะเป็นตัวเลือกของนับ"

"..."

"รู้ไว้ด้วยนะว่าคนอย่างนับดาวต้องเป็นฝ่ายเลือกเท่านั้น ไม่ใช่ฝ่ายที่ถูกเลือก"

"..."

"แล้วการที่เรานอนด้วยกันนับก็ถือว่ามันเป็นแค่วันไนต์สแตนด์ นับไม่ใช่หนึ่งในตัวเลือกของพี่ราม ถ้าคิดจะยอมรับการจับคู่ของพวกผู้ใหญ่ก็ยอมไปคนเดียวเถอะ"

"หึ" มาเฟียหนุ่มยกยิ้มมุมปากอย่างนึกขำกับคำพูดที่นับดาวพรั่งพรูออกมา ดูเหมือนเธอจะแยกไม่ออกระหว่างคำพูดหยอกล้อกับความจริง

"จะปล่อยนับกลับบ้านได้รึยังคะ"

"ถอดเสื้อผ้าออก จะได้อาบน้ำพร้อมกัน"

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: โซ่คล้องรัก