"แม่กลับบ้านไปเถอะ"
"แม่อยากเห็นลูกขับรถออกไปกับหนูนับก่อน ห้ามแกล้งหนูนับด้วยนะ" คนเป็นแม่ชี้หน้าลูกชายเป็นเชิงคาดโทษ หากแต่ใบหน้ายังเปื้อนรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ เธอชะโงกหน้าเข้าไปหานับดาวอีกครั้ง "หนูนับถ้าโดนพี่รามแกล้งรีบมาบอกอาเลยนะ เดี๋ยวอาจะจัดการพี่รามให้"
"ขะ..ขอบคุณค่ะ คุณอาไม่รีบกลับบ้านเหรอคะ"
"อากำลังจะกลับบ้านแล้วจ้ะ แต่เหลือบมองเห็นรถของรามิลยังจอดอยู่เลยเดินมาหาก่อน หนูนับไม่สบายเหรอลูกถึงใส่เสื้อพี่ราม"
"นะ..น้ำที่พี่รามทำหกมันกระเด็นมาเปื้อนชุดของหนูด้วยค่ะ พี่รามเลยให้ยืมเสื้อสูทมาใส่ก่อน"
"เพิ่งเจอกันสองครั้งก็สนิทกันแล้วเหรอ หืม?"
"คะ? แค่ให้ยืมเสื้อใส่น่ะเหรอคะ" นับดาวผละใบหน้าออกมาเอียงคอมองมินตราด้วยความงุนงง ในขณะที่อีกฝ่ายยิ้มกริ่ม
"ชื่อรามน่ะปกติแล้วมีแต่คนในครอบครัวที่เรียกได้นะ รามไม่ชอบให้คนอื่นเรียกชื่อเล่นของตัวเอง ยกเว้นคนที่สนิทมากๆ ถึงจะเรียกได้"
"มะ..เมื่อกี้หนูเผลอเรียกตามคุณอาค่ะ"
"แต่ดูเหมือนพี่รามจะอนุญาตให้หนูนับเรียกแบบนั้นได้นะ หนูนับเรียกแล้วน่าฟังจริงๆ เลย"
"..." นับดาวทำได้แค่ยิ้มแห้งๆ แล้วซบหน้าลงบนท่อนแขนแกร่งอีกครั้งเมื่อมือซุกซนของรามิลเอาแต่สอดเข้ามาหยอกเย้ากับติ่งเกสรเบาๆ จนร่างกายของเธอเริ่มปลดปล่อยน้ำหล่อลื่นสีใสออกมาผสมกับน้ำรักขาวขุ่น
"หนูนับลองกลับไปคิดเรื่องฝึกงานกับพี่รามดูนะ ถ้าไม่อยากฝึกงานเฉยๆ ขอเงินเดือนจากพี่รามก็ได้ พี่รามเขายอมจ่ายให้อยู่แล้ว"
"นะ..หนูจะลองกลับไปคิดดูอีกทีนะคะ"
"งั้นรามรีบพาหนูนับไปส่งที่บ้านเพื่อนเถอะ แม่จะกลับบ้านแล้วเหมือนเดิม"
"ครับ" รามิลรับคำสั้นๆ พร้อมกับเลื่อนกระจกรถขึ้นช้าๆ จนมันปิดสนิท
"อ๊ะ! พี่รามปล่อยนับนะ" คนตัวเล็กแหวใส่เสียงเขียวเมื่อโดนมาเฟียหนุ่มอุ้มขึ้นมานั่งคร่อมบนหน้าตักแกร่งอีกครั้ง เขาถอดเสื้อสูทของตัวเองออกไปจากร่างกายเปลือยเปล่าของเธอ แล้วผูกแขนมันไว้เหนือเอวคอด ก่อนที่ลูกน้องทั้งสองคนของเขาจะเข้ามาในรถ
"ออกรถ" รามิลออกคำสั่งในขณะที่กำลังปลดกระดุมกางเกงออกอีกครั้ง หญิงสาวนั่งตัวแข็งทื่ออย่างทำอะไรไม่ถูกเมื่อรู้ว่ามีผู้ชายอีกสองคนนั่งอยู่ข้างหลัง ราวกับสมองหยุดประมวลผลไปชั่วขณะ แต่สติที่กำลังกระเจิดกระเจิงก็ถูกดึงกลับมาในตอนที่ถูกยกตัวขึ้นเล็กน้อย
"ยะ..อย่าเอามันเข้ามา..อื้อ!" มือเรียวจิกเล็บลงบนไหล่กว้างอย่างแรงเมื่อมาเฟียหนุ่มสอดใส่ความใหญ่โตเกินมาตรฐานเข้ามาในช่องทางรักคับแคบอีกครั้งหลังจากที่รถยนต์เคลื่อนออกมาจากโรงจอดรถของร้านอาหารได้ไม่นาน
"ทำให้ฉันแตกอีกรอบสิ แล้วเธอจะได้กลับบ้าน"
"ระ..โรคจิต ลูกน้องของตัวเองก็นั่งอยู่ในรถตั้งสองคนยังกล้าทำแบบนี้กับนับอีกเหรอ"
"อยากกระแทกเองหรืออยากโดนฉันกระแทก?"
"ถะ..ถ้านับบอกพ่อกับแม่ว่าพี่รามทำเรื่องเลวๆ อะไรกับนับไว้บ้างพ่อไม่มีทางจับคู่ให้เราอีกแน่"
"แล้วทำไมเมื่อกี้ไม่บอกแม่ฉัน?"
"..."
"ไม่กล้าบอกเหรอว่าโดนฉันเอามาแล้วกี่รอบ โดนแตกในไปหลายรอบคงจะอายใช่ไหม"
"..."
"แต่เวลาน้ำของฉันมันไหลออกจากตรงนั้นของเธอเธอก็ดูเสียวดีนี่"
"ยะ..หยุดพูดนะ! นับไม่เคยรู้สึกดีกับเซ็กซ์ห่วยๆ ของพี่รามเลย!" กำปั้นเล็กๆ ฟาดใส่แผงอกแกร่งเต็มแรงเพื่อกลบเกลื่อนความเขินอาย นับดาวขึ้นเสียงใส่คนตรงหน้าด้วยความไม่พอใจที่เขากล้าพูดจาไม่ให้เกียรติเธอต่อหน้าลูกน้องของตัวเอง
"อยากให้ฉันเงียบก็ขยับสะโพกสิ"
"อึก..นะ..นับเกลียดพี่ราม" เธอเม้มริมฝีปากเข้าหากันแน่น แล้วเริ่มขยับสะโพกขึ้นลงอย่างเนิบนาบ ถึงแม้จะไม่อยากยอมรับแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าร่างกายคุ้นเคยกับสัมผัสของเขา
ปึก! ปึก! ปึก! ปึก!
"อ๊า..." มาเฟียหนุ่มเปล่งเสียงครางออกมาเบาๆ เมื่อคนบนหน้าตักเร่งจังหวะการกระแทกกระทั้นให้หนักหน่วงขึ้น มือหนาปัดปลายผมของเธอออกจากหน้าอกใหญ่ทั้งสองข้าง แล้วเลื่อนใบหน้าเข้าไปขบเม้มยอดปทุมถันอย่างแรง
"ยะ..อย่าดูด..อ๊า..นะ..นับไม่ชอบ" นับดาวพยายามดันใบหน้าคมคายออกห่างด้วยความเสียวซ่าน ร่างกายกระตุกเกร็งถี่ๆ ทุกครั้งที่แก่นกายใหญ่สอดใส่เข้ามาจนถึงจุดกระสัน เธอก้มมองการกระทำของชายหนุ่มพลางหอบหายใจหนักๆ ทั้งเขินอายและเสียวซ่านในเวลาเดียวกัน
"เอ่อ นายจะกลับบ้านเลยไหมครับ" ชารีฟเอ่ยถามท่ามกลางเสียงครางระงมภายในรถอย่างกล้าๆกลัวๆ ทำให้รามิลยอมถอนริมฝีปากออกจากยอดปทุมถันอย่างจำใจ
"กลับบ้านเลย"
"มะ..ไม่เอา..อึก..นะ..นับจะไปหาเพื่อน"
"แผนของเธอหลอกได้แค่พวกผู้ใหญ่เท่านั้นแหละ" มาเฟียหนุ่มแย้งขึ้นอย่างรู้ทัน พร้อมกับรั้งใบหน้าหวานลงมาประกบจูบแนบชิด ช่วงชิงลมหายใจของกันและกันอย่างหนักหน่วง เขาค่อยๆ ส่งเรียวลิ้นสากเข้าไปตวัดเกี่ยวพันกับเรียวลิ้นเล็กในโพรงปากบาง ทำเอานับดาวเผลอจูบตอบอย่างลืมตัว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: โซ่คล้องรัก