"นับจะกลับบ้านค่ะ"
"คิดดีแล้วเหรอที่ชี้นิ้วใส่ฉันแบบนั้น"
"แล้วพี่รามสูงส่งมาจากไหนคะ"
"ลงมา"
"นับบอกว่านับจะกลับบะ..."
"ฉันบอกให้ลงมา" น้ำเสียงกดต่ำของรามิลทำเอานับดาวรู้สึกเสียวสันหลังวาบ เธอยอมลดมือลงแต่ยังยืนจังก้าอยู่บนเตียงเหมือนเดิม เพราะไม่อยากเสียฟอร์มต่อหน้าเขา
"ถะ..ถึงพี่รามจะกดนับลงบนเตียงอีกนับก็ไม่กลัวหรอก นอนด้วยกันมาตั้งสามครั้งแล้วคิดว่านับจะกลัวเรื่องแบบนั้นอีกเหรอ"
"ถ้าอยากกลับบ้านก็ให้พ่อเธอมารับกลับไป"
"..." นับดาวกำหมัดแน่นกับความร้ายกาจของมาเฟียหนุ่ม หากเธอทำแบบนั้นมันก็ไม่ต่างจากการประกาศให้คนในครอบครัวของเธอรู้เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างเขากับเธอเลย "นับนั่งแท็กซี่กลับบ้านเองได้ค่ะ"
"ด้วยชุดนั้นน่ะเหรอ?"
"พี่รามเป็นคนฉีกชุดนับเองไม่ใช่เหรอคะ ผู้ชายที่ไม่มีความเป็นสุภาพบุรุษอย่างพี่รามนับชอบไม่ลงหรอก" ร่างบางยอมทรุดเข่านั่งลงบนเตียงอีกครั้ง ดวงตากลมโตจ้องมองใบหน้าคมคายเขม็งอย่างไม่เกรงกลัว ทว่าในสายตาของรามิลเขากลับมองเห็นลูกแมวเอาแต่ใจตัวหนึ่งที่กำลังแยกเขี้ยวขู่อย่างสุดกำลังเท่านั้น
"ฉันบอกให้ถอดเสื้อผ้าออก"
"นับก็บอกชัดเจนแล้วเหมือนกันว่านับจะกลับบ้าน เลิกยุ่งกับนับสักทีเถอะค่ะ"
"ถ้าฉันต้องพูดเป็นครั้งที่สามฉันไม่แน่ใจนะว่าเธอจะได้อาบน้ำอย่างเดียวรึเปล่า"
"..." คำพูดสองแง่สองง่ามของชายหนุ่มทำเอาใบหน้าหวานของคนฟังร้อนผ่าวด้วยความเขินอาย นับดาวก้มหน้างุด ริมฝีปากอวบอิ่มเม้มเข้าหากันแน่นด้วยความไม่พอใจเมื่อต้องเป็นฝ่ายพ่ายแพ้อีกครั้ง เธอยกมือขึ้นมาเสยผมที่ตกลงมาปรกหน้าลวกๆ ก่อนจะตวัดขาก้าวลงจากเตียง ถอดเสื้อผ้าออกทีละชิ้นจนเหลือเพียงร่างกายเปลือยเปล่า "แบบนี้ใช่ไหมคะที่พี่รามิลต้องการ"
"..." รามิลไม่ได้ตอบอะไรกลับไปนอกจากปลดเปลื้องอาภรณ์ท่อนล่างของตัวเองออก แล้วเดินหนีเข้าห้องน้ำไป ทำให้นับดาวที่กำลังพยายามอดทนอดกลั้นกับความเอาแต่ใจของเขาต้องเดินตามไปอย่างไม่มีทางเลือก
"นี่เราสนิทกันถึงขั้นนั่งในอ่างอาบน้ำอันเดียวกันได้เลยเหรอคะ" คนตัวเล็กถามประชดประชัน
"ตัวติดกันยังทำมาแล้วเลย"
"นับไม่อยากทะเลาะกับพี่ราม เห็นแก่ที่ครอบครัวของเราสนิทกัน ปล่อยนับไปได้ไหมคะ"
"..." มาเฟียหนุ่มเอ่ยกายพิงกับขอบอ่างอาบน้ำโดยไม่ตอบอะไรกลับไป ท่าทีเย็นชาของเขายิ่งทำให้นับดาวรู้สึกอารมณ์เสียเข้าไปใหญ่ เธอก้าวเข้าไปในอ่างอาบน้ำแล้วกระแทกตัวนั่งลงอย่างแรงจนน้ำกระเด็นใส่ใบหน้าคมคาย
"มะ..มองทำไมคะ จะตีนับเหรอ" นับดาวแสร้งเสมองไปทางอื่นเมื่อโดนคนตรงหน้าตวัดสายตามองอย่างดุดัน บางครั้งเธอก็แอบคิดว่าบรรยากาศรอบตัวของรามิลมันแตกต่างจากนักธุรกิจคนอื่นๆ เขามีความน่าเกรงขามในแบบของนักธุรกิจ แต่ก็รู้สึกได้ถึงแรงกดดันจากเขาแทบจะตลอดเวลา หากจะบอกว่าเขาเป็นพวกมาเฟียทรงอิทธิพลก็คงไม่ผิด
"รีบอาบน้ำได้แล้ว"
นับดาวทำปากขมุบขมิบตามคำพูดของเขาด้วยความหมั่นไส้ ทั้งสองคนใช้เวลาอาบน้ำด้วยกันราวๆ ครึ่งชั่วโมง ก่อนที่รามิลจะออกจากห้องนอนไปทันทีที่แต่งตัวเสร็จเรียบร้อย ปล่อยให้นับดาวนั่งเล่นอยู่ในห้องนอนคนเดียว
"ไอ้เฮงซวย! จับคนอื่นมาขังไว้ในห้องนอนของตัวเอง แล้วตัวเองก็หนีไปทำอย่างอื่นเนี่ยนะ" หญิงสาวรัวกำปั้นเล็กๆ ใส่หมอนไม่ยั้งเพื่อระบายความหงุดหงิด พร้อมทั้งจินตนาการว่ามันเป็นใบหน้าของรามิล เธอโยนหมอนในมือลงบนพื้นอย่างแรง ก่อนจะผลุนผลันเดินออกมาจากห้องนอน กวาดสายตามองหาเจ้าของบ้านที่ทิ้งเธอไว้ในห้องนอนคนเดียวเกือบยี่สิบนาที
"ตอนกลางคืนเหมือนบ้านผีสิงเลยแฮะ" ความเงียบสงัดภายในคฤหาสน์หลังใหญ่ทำให้นับดาวเริ่มขนลุกซู่ เธอหันซ้ายหันขวาอย่างหวาดระแวง แล้วรีบวิ่งลงไปที่ชั้นหนึ่งทันที
"ต้องการอะไรรึเปล่าคะ"
"กรี๊ด!" นับดาวกรีดร้องลั่นด้วยความตกใจเมื่อมีผู้หญิงคนหนึ่งเดินเข้ามาเอ่ยถามจากทางด้านหลังในตอนที่เธอกำลังเดินสำรวจห้องโถงใหญ่คนเดียว เธอหมุนตัวกลับไปยกมือทาบอกอย่างโล่งใจเมื่อเห็นว่าคนคนนั้นคือสาวใช้ "นับมาเดินเล่นค่ะ ขอโทษที่รบกวนนะคะ"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: โซ่คล้องรัก