"พี่ขอเสียมารยาทถามได้ไหมคะว่าหนูนับเป็นคนรักของนายรึเปล่า ถ้าหนูนับเข้ามาเป็นนายหญิงของที่นี่บ้านนี้คงครึกครื้นดีนะคะ"
"นับไม่ได้เป็นแฟนตาลุงนั่นหรอกค่ะ แค่บังเอิญดวงซวยโดนลากมาขังไว้ที่นี่เฉยๆ"
"ตาลุงที่ว่าคือนายเหรอคะ? แต่นายอายุยังน้อยอยู่เลยนะคะ"
"แต่ถ้าเทียบกับอายุของนับก็เป็นตาลุงดีๆ เนี่ยแหละค่ะ" นับดาวทำหน้ามุ่ยขณะที่เดินตามหลังสายบัวเข้ามาในบ้านพักคนงานของหล่อน เธอยืนรออยู่ในห้องเงียบๆ ระหว่างที่สายบัวไปหยิบขนมขบเคี้ยวมาให้
"หนูนับนั่งบนเตียงก็ได้นะคะ"
"ไม่เป็นไรค่ะ มันเป็นพื้นที่ส่วนตัว ว่าแต่พี่รามไปไหนเหรอคะ เขาออกไปข้างนอกเหรอ"
"พี่ก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะว่าตอนนี้นายทำงานอยู่ที่ห้องไหน แต่ไม่ได้ออกไปข้างนอกหรอกค่ะ"
"คนเราจะมีห้องทำงานเยอะๆ ไปเพื่ออะไรคะ"
"อันนี้ต้องไปถามนายเอานะ" สายบัวตอบยิ้มๆ พร้อมกับหอบขนมขบเคี้ยวจำนวนหนึ่งมายื่นให้คนอายุน้อยกว่า แต่นับดาวก็หยิบไปแค่ซองเดียวเท่านั้น
"ขอบคุณค่ะ นับไม่ได้เอากระเป๋าสตางค์ลงมาด้วย เดี๋ยวนับจ่ายเงินให้พรุ่งนี้นะคะ"
"พี่ให้เฉยๆ ค่ะ ไม่ได้ขายต่อ"
"นับเกรงใจค่ะ"
"ขนมห่อละยี่สิบบาทเองค่ะ หนูนับจะกลับเลยไหมคะ เดี๋ยวพี่เดินไปส่ง"
"ไม่เป็นไรค่ะ พี่บัวพักผ่อนเถอะเดี๋ยวนับเดินกลับเอง ลูกน้องของพี่รามเต็มบ้านขนาดนี้คงไม่มีอะไรหรอกมั้งคะ" นับดาวรีบปฏิเสธด้วยความเกรงใจ "ขอบคุณสำหรับขนมนะคะ"
"หนูนับรีบกลับไปบ้านใหญ่เถอะค่ะ ถ้านายไม่เห็นหนูนับอยู่ที่บ้านใหญ่จะโดนดุเอานะคะ"
"งั้นนับกลับก่อนนะคะ" เธอบอกลาด้วยรอยยิ้มจริงใจ ก่อนจะหันหลังเดินออกมา โดยมีสายบัวเดินตามหลังออกมายืนส่งเธอที่หน้าบ้านพัก
"บัวแกคุยกับใคร" นับดาวเดินคล้อยหลังไปได้ไม่นานเสียงเปิดประตูบ้านพักอีกหลังหนึ่งก็ดังขึ้น ทำให้สายบัวที่กำลังจะเดินกลับเข้าบ้านหันไปตอบคำถามของเพื่อนที่กำลังชะโงกหน้าออกมาจากกรอบประตู
"ว่าที่นายหญิง"
"ฮะ?! พวกเรามีว่าที่นายหญิงกันแล้วเหรอ" ส้มจุกเบิกตาโพลงด้วยความตกใจกับสิ่งที่ได้ยิน เธอรีบเดินออกมาจากห้องพักพลางชะเง้อมองแผ่นหลังของนับดาวที่กำลังเดินห่างออกไปเรื่อยๆ "นายหญิงของพวกเราเนี่ยนะ? ร้อยวันพันปีไม่เคยเห็นนายพาผู้หญิงคนไหนเข้าบ้านเลย แล้วถ้าเป็นนายหญิงจริงจะมาทำอะไรที่บ้านพักคนใช้ตอนดึกๆ แบบนี้"
"เห็นบ่นว่าหิวขนมฉันเลยเอาขนมของฉันให้ แต่หนูนับอยากมาเดินเล่นด้วย"
"หนูนับ? อย่าบอกนะว่าหนูนับคือนายหญิง? แกเรียกนายหญิงแบบนั้นเลยเหรอ"
"นายหญิงเป็นคนอนุญาตเอง เป็นผู้ดีที่ไม่ถือตัวเลย เหมาะสมกับนายของพวกเราสุดๆ"
"สวยไหม"
"สวยกว่าดาราบางคนอีก ถ้าบอกว่าเป็นดาราฉันก็เชื่อ แถมนิสัยก็สวยเหมือนหน้าตาเลย"
"เพอร์เฟกต์อะไรขนาดนั้นอะ แต่แบบนั้นก็สมกับเป็นนายหญิงของที่นี่ดีนะ แกพูดซะฉันอยากเห็นหน้าเลยว่าจะสวยขนาดไหน
"ไปนอนได้แล้ว เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็ได้เห็นเองนั่นแหละ" สายบัวบอกปัด ก่อนจะเดินเข้าห้องพักไป ทำให้ส้มจุกต้องเดินกลับเข้าห้องพักของตัวเองด้วยความเสียดาย
"อยู่ในบ้านคนเดียวไม่เห็นต้องสร้างหลังใหญ่ขนาดนี้เลย" นับดาวบ่นพึมพำกับตัวเองเบาๆ ขณะที่เดินถือขนมเข้ามาในห้องโถงใหญ่ของคฤหาสน์คนเดียว เธอเหลือบมองลิฟต์ที่อยู่ใกล้ๆ กับบันไดวนเพียงนิด ถึงจะไม่ชอบความเหนื่อยล้าแต่สุดท้ายเธอก็เลือกที่จะเดินขึ้นไปบนชั้นสองด้วยขาของตัวเองเหมือนเดิม
"ห้องทำงานของพี่รามอยู่ไหนเนี่ย" คนตัวเล็กหันซ้ายหันขวาเมื่อเดินขึ้นบันไดมาจนถึงชั้นสอง เธออยากเจอรามิลเพราะมีเรื่องที่ต้องคุยกัน หากเดินกลับไปรอที่ห้องนอนก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่เขาจะทำงานเสร็จ
นับดาวยืนชั่งใจอยู่นาน จนสุดท้ายก็เลือกที่จะเดินไปทางฝั่งซ้ายของคฤหาสน์ที่มีประตูห้องเรียงกันอยู่ไม่ต่ำกว่าสี่ห้อง เธอถือวิสาสะเปิดประตูเข้าไปทีละห้องจนเจอกับห้องทำงานของรามิลในที่สุด ทว่าภายในห้องกลับว่างเปล่า ไม่มีใครเลยสักคน
"หายไปไหนเนี่ย" ร่างบางเดินเข้ามาหย่อนสะโพกนั่งลงบนเก้าอี้ทำงานอย่างถือวิสาสะพลางหมุนเก้าอี้ไปรอบๆ เพื่อมองหารามิล แต่นอกจากเธอแล้วในห้องทำงานของเขาก็ไม่มีใครอีกเลย "จับคนอื่นมาขังไว้ในบ้านแล้วหายหัวไปโดยไม่บอกกล่าวเนี่ยนะ"
เธอถอนหายใจพรืดใหญ่อย่างเบื่อหน่าย พร้อมกับเปิดซองขนมไปด้วย ทว่าในจังหวะที่กำลังจะหยิบขนมเข้าปากหางตาก็เหลือบไปเห็นกระดาษแผ่นหนึ่งที่วางอยู่บนแฟ้มเอกสารพอดี เธอคงจะมองข้ามมันไปหากไม่ได้บังเอิญอ่านข้อความบางส่วนบนกระดาษแผ่นนั้น
"การสั่งผลิตอาวุธสงครามล็อตใหม่..." ดวงตากลมโตเบิกโพลงด้วยความตกใจ เช่นเดียวกับหัวใจดวงน้อยที่เต้นแรงอย่างบ้าคลั่งจนแทบผิดจังหวะ นับดาวอ่านข้อความนั้นซ้ำอีกรอบเพื่อให้มั่นใจว่าสายตาของเธอไม่ได้ผิดปกติจนมองข้อความผิดไป
"ใครอนุญาตให้เข้ามา"
เฮือก!
น้ำเสียงเยือกเย็นของรามิลทำเอานับดาวสะดุ้งเฮือกด้วยความตกใจ เธอลนลานจนแทบทำอะไรไม่ถูกเมื่อเห็นเขากำลังเดินเข้ามาในห้อง หัวใจที่เคยเต้นระรัวในตอนนี้แทบจะหยุดเต้นไปเสียดื้อๆ
"นะ..นับมีเรื่องอยากคุยกับพี่ระ..."
"ฉันถามว่าใครอนุญาตให้เข้ามา" คำพูดสุดท้ายยังไม่ทันหลุดออกจากปากน้ำเสียงเยือกเย็นของรามิลก็ดังแทรกขึ้นอีกครั้ง สายตาดุดันที่จ้องมองเธอบ่งบอกถึงความไม่พอใจ
"นะ..นับอนุญาตตัวเองค่ะ นับมีเรื่องอยากจะคุยกับพี่ราม แต่พี่รามไม่ยอมกลับห้องสักที"
"เห็นอะไรบ้าง"
"หะ..เห็นว่าโต๊ะทำงานมันรกมากเลยค่ะ" หญิงสาวลอบกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่พลางก้มหน้าหลบสายตาเมื่อมาเฟียหนุ่มเดินเข้ามาใกล้ๆ เธอผลุนผลันลุกออกจากเก้าอี้ทำงาน แต่ก็โดนคว้าแขนไว้ในตอนที่ตั้งท่าจะเดินหนีออกไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: โซ่คล้องรัก