สี่โมงเย็น...
คนที่กำลังหลับเพลินๆ สะดุ้งตื่นเมื่อได้ยินเสียงเคาะประตูห้องหนักๆ เน้นๆ และยังคงเคาะอยู่อย่างต่อเนื่อง
“อื้อ...รอแป๊บค่ะ” วรันยาขยับลุกจากเตียง เดินตรงไปที่ประตูห้องพร้อมกับแอบต่อว่าในใจ ‘ใครนะ? ช่างเคาะประตูห้องได้ไร้มารยาทได้ขนาดนี้’
คลิก!
“ขอพี่เข้าไปหน่อยสิ” ภาคินรีบแทรกตัวเข้าไปในห้องนอนของสาวเจ้าทันทีที่ประตูเปิดออก
“อ๊ะ! เข้ามาทำไม แล้วพี่นาอยู่ไหน?” วรันยาถึงกับตกใจที่เห็นจอมทะลึ่ง ถือดีขยับขึ้นมานั่งอยู่บนเตียงของเธอ
“พี่นาไปตรวจงานครับ พี่มาบอกเรื่องของนัยกับคาร่า” ภาคินรีบเอ่ยเรื่องสำคัญ เพราะกลัวจะถูกไล่ออกจากห้อง
“เกิดอะไรขึ้นเหรอคะ” วรันยาถามอย่างอยากรู้
“พ่อพี่ไปเจอเพื่อนเก่าที่สนามบิน เลยชวนไปกินข้าวด้วยกันที่เพนท์เฮาส์ แต่พอไปถึงก็เจอนัยนอนอยู่บนเตียงกับคาร่าในสภาพที่เปลือยเปล่า” ภาคินเล่าเรื่องราวที่พอจะทราบมา ขณะเดียวกันก็แอบจ้องมองเรือนร่างบอบบางภายใต้เสื้อยืดสีขาวตัวใหญ่ ซึ่งเขาสามารถมองทะลุเข้าไปจนเห็นปลายถันสีชมพูอ่อนได้ลางๆ
“ตายจริง!” คนที่กำลังเคร่งเครียดไม่ทันได้ระวังตัว จึงไม่รู้ว่าคนตรงหน้ากำลังจินตนาการไปไกลถึงไหนต่อไหน
“ใช่! แล้วที่แย่กว่านั้นก็คือพ่อของคาร่าคือเพื่อนเก่าของพ่อพี่ที่มาด้วยกัน” ภาคินเริ่มหายใจติดๆ ขัดๆ เมื่อก้มลงมองขาอ่อนแล้วเห็นแพนตี้ตัวจิ๋วสีฟ้าอ่อนโอบอุ้มเนินเนื้ออันอวบอูม พลัน! เลือดในกายก็เดือดพล่านขึ้นมาราวกับลาวาที่กำลังจะระเบิดในอีกไม่กี่วินาทีข้างหน้า ‘! นี่น้องไวน์ใส่แค่เสื้อยืดกับกางเกงในนอนเหรอวะ’
“ลุงอัสลานเป็นเพื่อนกับลุงลูคัส?” วรันยายกมือขึ้นทาบอกอย่างรู้สึกช็อก ไม่คิดว่าทุกอย่างจะประจวบเหมาะได้ขนาดนี้
“ใช่! นัยกับคาร่าก็เลยต้องหมั้นหมายกันเอาไว้ก่อน หากคาร่าเรียนจบเมื่อไหร่ก็ค่อยมาคุยเรื่องแต่งงานกันอีกที” คนที่พยายามเก็บอาการหื่นลอบกลืนน้ำลายลงคออย่างฝืดเคือง
“แล้วตอนที่พี่คินไปถึง คาร่าเป็นยังไงบ้างคะ” วรันยาถามอย่างรู้สึกเป็นห่วงเพื่อนสาว ‘ในห้องเราร้อนหรือไง? ทำไมอีตาบ้านี่ถึงเหงื่อแตก’
“ก็...ตาบวม เดาว่าคงจะร้องไห้ไปหนักมาก” ภาคินตอบก่อนจะยกมือขึ้นปาดหยดน้ำอุ่นๆ ที่ผุดขึ้นมาตามรูขุมขนบนใบหน้าทิ้ง
“สรุปพี่นัย...” วรันยาเอ่ยค้างไว้อย่างขอความเห็น
“พี่ยังไม่มีโอกาสได้คุยอะไรกับมัน” ภาคินรีบเบือนหน้าหนีไปทางอื่น เพราะเริ่มจะควบคุมอารมณ์ของตัวเองไม่ไหว
“เอ่อ...พี่คินออกไปรอที่ข้างล่างนะคะ ไวน์จะเปลี่ยนเสื้อผ้า” คนที่เพิ่งจะรู้ว่าตัวเองอยู่ในสภาพที่ล่อแหลมรีบดึงผ้าห่มมาคลุมตัวอย่างอายๆ
“รู้อะไรไหม? พี่อยากจะหมั้นกับเราเอาไว้ก่อน” ภาคินหันบอกด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“บ้า ออกไปได้แล้วค่ะ” วรันยาผลักร่างสูงให้ออกห่างอย่างรู้สึกกลัว
“ขอชื่นใจหน่อยสิ” คนหื่นเอ่ยขออย่างหน้ามึน
“พี่คิน!” วรันยาส่งสายตาดุๆ ไปให้
“น่า...นิดเดียวเอง” ภาคินอ้อนพร้อมกับดึงสาวเจ้าเข้ามากอด
“อ๊ะ! ปะ...ปล่อยนะ”
“เรียนจบมัธยมปลายแล้วเป็นเมียพี่นะ” ภาคินบอกก่อนจะก้มลงหอม ที่แก้มนวลอย่างอดใจไม่ไหว
“ไม่! ทะ...ทำบ้าอะไรเนี่ย” วรันยาเริ่มจะสติแตกเมื่อมือหนาล้วงเข้ามาใต้เสื้อยืดตัวใหญ่ ลูบไล้หน้าอกของเธอไปมาเบาๆ
“พี่พูดจริง!” ภาคินบอกก่อนจะก้มลงจูบริมฝีปากจิ้มลิ้มอย่างหื่นกระหาย ขณะเดียวกันก็ดึงเสื้อยืดตัวใหญ่ขึ้นเพื่อจะได้มองดอกบัวงามเต็มๆ ตา
“อื้อ...พี่คิน! ปะ...ปล่อยไวน์นะ” วรันยาถึงกับสั่นสะท้านไปทั้งเนื้อทั้งตัวหลังจากที่จอมทะลึ่งถอนจูบออก
ภาคินซุกไซ้ซอกคอระหง พร้อมกับขอคำมั่น “สัญญามาก่อนสิ ว่าเราจะเป็นเมียพี่”
“ไม่!” วรันยาดิ้นพล่านเมื่อริมฝีปากหยักได้รูปกำลังจะแตะสัมผัสที่ปลายถันของเธอ
“งั้นก็ต้องใช้กำลังบังคับกันแล้วล่ะ” ภาคินเงยหน้าขึ้นบอกก่อนจะก้มลง เตรียมจะลิ้มรสดอกบัวที่สวยสดงดงามกว่าของสาวๆ คนใด ที่เคยสัมผัสมา
“ยะ...อย่านะ! ฮึก...ฮือๆๆๆ” วรันยาผลักใบหน้าหล่อเหลาของออก แล้วปล่อยโฮทันใด
คนที่หวังจะเคลมสาวถึงกับหน้าเสีย รีบดึงเสื้อยืดลงปิดหน้าอก พร้อมกับโอบกอดร่างบางที่สั่นเทาอย่างรู้สึกผิด “เฮ้! พี่แค่แกล้งแหย่เล่นเฉยๆ”
“ไอ้คนบ้า ปล่อยนะ ปล่อย! ฮือๆๆ” วรันยาทุบที่อกกว้างอย่างรู้สึกโกรธที่ถูกลวนลาม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ภาคิน (ซีรีส์ 3 หนุ่มซานเตียนโน่)