“เพิ่มลงไปอีกข้อค่ะคุณแม่ หลังจากเสร็จงานศพของตาคินแล้ว เราจะแนะนำผู้ชายดีๆ ให้น้องไวน์ออกเดทด้วย” ดาหลารีบสมทบตาม
“โธ่...นี่ผมใช่ลูกใช่หลานคนบ้านนี้หรือเปล่าครับเนี่ย?” ภาคินตัดพ้อ
“ก็เพราะใช่น่ะสิ ยายถึงต้องเตือนสติเราให้เยอะๆ ยายไม่อยากจะเสียมิตรภาพที่มีมายาวนาน น้องไวน์น่ะยายก็รักไม่แพ้คินนะ” กังศมาตอบ
“ครับ ผมสาบานว่าจะเป็นผัวที่ดีของน้องไวน์” คนทะลึ่งบอกพร้อมกับ ชูสามนิ้วให้สัญญา
“ฮ่าๆๆ พ่อว่าตอนนี้เอาแค่ให้ได้เป็นเจ้าบ่าวก่อนดีกว่านะ เรื่องไกลกว่านั้น อย่าเพิ่งไปคิดเลย” ลูคัสบอกอย่างรู้สึกหมั่นไส้ในความมั่นหน้ามั่นโหนกของบุตรชาย
“เฮ้อ...มีใครจะประชดอะไรผมอีกไหม ถ้าไม่มีแล้วก็ช่วยไปเตรียมตัวเจรจาสู่ขอน้องไวน์ให้ผมทีเถอะ มันสายแล้วครับ!” ภาคินบอกด้วยสีหน้าเซ็งๆ ไม่เข้าใจว่าทำไมทุกคนถึงรุมต่อว่าตนขนาดนี้
“แหม...ใจร้อนจริงๆ ยังเหลือเวลาอีกตั้งสองชั่วโมงไม่ใช่เหรอ?” ดาหลาตอกกลับคนใจร้อน ที่โทร. ไปเช็กเธอทุกๆ ยี่สิบนาที ว่าถึงไหนแล้วครับ? แม่ถึงไหนแล้ว? จะถึงหรือยัง? ทั้งๆ ที่นัดกันเอาไว้สิบเอ็ดโมง
ลูคัสกับกังศมาหัวเราะขึ้นพร้อมๆ กัน เมื่อเห็นดาหลาสะบัดหน้าใส่บุตรชายแล้วเดินหนีเข้าไปข้างในบ้าน
ภาคินกลอกตาก่อนจะรีบตามไปง้อ ตอนแรกว่าจะไปคุยกับผู้เป็นยายก่อน แต่อีกฝ่ายก็ดันหน้ามืดเพราะนอนน้อย จึงโทรไปเลื่อนนัดเป็นสิบเอ็ดโมง แล้วรอไปพร้อมกับบิดา-มารดา ซึ่งนั่งเครื่องบินส่วนตัวออกจากอังกฤษมาไทยตั้งแต่เมื่อคืน
เวลา 11:02 น. รีสอร์ตพรรณนารา
“สวัสดีครับทุกคน เชิญด้านในครับ” สินชัยส่งยิ้มให้กับลูคัส ดาหลา กังศมา ภาคินและสิงขร อย่างรู้สึกปลื้มใจ ที่พอตอบตกลงไปเมื่อคืน อีกวันทุกคนก็มากันพร้อมหน้าพร้อมตา
“สวัสดีสิน สบายดีไหม?” ลูคัสยิ้มให้คนที่กำลังจะเกี่ยวดองกัน
“สบายดีครับคุณลูคัส” สินชัยตอบ
“แล้วน้องไวน์ล่ะ อยู่ไหนเอ่ย?” ลูคัสถามพร้อมกับส่งสายตามองหา ว่าที่ลูกสะใภ้ที่เห็นมาตั้งแต่เด็ก
“อยู่ด้านในครับ กำลังช่วยนารีกับป้าเพลินเตรียมอาหาร” สินชัยรู้สึกประหม่านิดๆ เมื่อต้องมาเจอะเจอกันในสถานะที่แปลกไปจากทุกๆ ครั้ง
“ไม่ต้องพิธีมากหรอกพ่อสิน” กังศมาบอกยิ้มๆ
“ครับคุณมาร์” สินชัยพยักหน้ารับเบาๆ
“ว่าแต่...พี่สินยอมยกน้องไวน์ให้ตาคินแน่นะคะ” ดาหลาถามพร้อมกับเหลือบมองบุตรชายที่ตอนนี้ใบหน้าแดงก่ำมาจนถึงใบหู
“ครับคุณดา” คนที่น้ำท่วมปาก ยิ้มรับอย่างไม่รู้ว่าจะพูดอะไรต่อ เพราะได้ตกลงกับภาคินว่าเรื่องหนี้สินจะรู้กันแค่ตัวเขากับอีกฝ่าย แล้วก็บุตรสาวเท่านั้น
“อะ...โอเคค่ะ” ดาหลายิ้มเจื่อนๆ เมื่อวานหลังจากทราบข่าวของภาคินกับ วรันยา เธอยังคิดว่าเป็นมุมตลกๆ ของมารดา แต่ที่ไหนได้ ทั้งสามี หิรัญและภัคคินัยต่างยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่าภาคินแอบชอบวรันยามานานหลายปีแล้ว เธอจึงสั่งให้สามีพาบินกลับไทยด่วน
“สวัสดีค่ะน้าดา ลุงลูคัส คุณมาร์” วรันยาที่เพิ่งจะจัดโต๊ะทานอาหารเสร็จ เดินออกมาทักทายและยกมือไหว้ผู้ใหญ่ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
“แหม...ไม่เจอแค่ปีเดียว สวยขึ้นเยอะเลยนะเนี่ย” ดาหลามองสำรวจ เรื่องร่างบอบบางที่เต็มไปด้วยส่วนเว้าส่วนโค้งน่าทะนุถนอมอย่างชื่นชม
“ขอบคุณค่ะ น้าดาก็สวยไม่เปลี่ยนเลย” วรันยาร้อนผ่าวที่ใบหน้า รู้สึกเหมือนทุกคนกำลังจ้องมองมาที่เธอเป็นสายตาเดียว
“อ้าว! สิงห์ เข้ามาสิ ยืนทำไมตรงนั้นแดดร้อนจะตาย” สินชัยหันไปเอ่ยชวนคนสนิทของว่าที่ลูกเขย
“ครับพ่อเลี้ยง” สิงขรขานรับพลางส่งสายตามองหานารี
“ไลอ้อน!” ลูคัสเอ่ยเรียกบุตรชายที่ตอนมาถึงยังดีๆ แต่พอเห็นหน้าของ วรันยาแล้วกลับทำตาหวานเยิ้มราวกับคนเมากัญชายังไงอย่างงั้น
“คะ...ครับ” คนที่กำลังจ้องมองใบหน้างามหันมาขานรับอย่างงงๆ
“ช่วยทำตัวให้ปกติๆ หน่อย เดี๋ยวสินเขาก็คิดว่าลูกพี้กัญชาก่อนมาหรอก” ลูคัสเตือนเสียงเข้ม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ภาคิน (ซีรีส์ 3 หนุ่มซานเตียนโน่)