ภาคิน (ซีรีส์ 3 หนุ่มซานเตียนโน่) นิยาย บท 55

สามชั่วโมงต่อมา...ทันทีที่มีนาขับรถมารับวรันยา ก็รู้สึกทึ่งในความสวยงามของเรือนหลังใหญ่ และอาณาเขตที่กว้างสุดลูกหูลูกตาของไร่ไปรยาเวศ

“ว้าว! ฉันไม่คิดเลยว่าที่นี่จะสวยขนาดนี้”

“อืม...หลักๆ ก็มีสวนองุ่น สวนส้ม แล้วก็สวนผักออร์แกนิกจ้ะ”

“ชักอยากมาเที่ยวบ่อยๆ แล้วสิ”

“ว่างๆ ก็มาได้นะ เดี๋ยวเราพาทัวร์เอง”

“แหม...รับรองว่าฉันจะมาอีกแน่ๆ” มีนายิ้มก่อนจะชวนเพื่อนสาวขึ้นรถ แล้วขับตรงไปยังร้านอาหารที่นัดรวมพลกับเหล่าเพื่อนๆ เอาไว้

ห้องอาหารโรงแรมซานเตียนโน่...

“ที่โทรตามกูกับไอ้พันมาดื่มนี่...คงไม่ใช่ทะเลาะกับเมียหรอกนะ?” แม่ทัพถามอย่างสงสัย เมื่อเห็นเพื่อนรักทำหน้าบูดๆ

“นิดๆ” ภาคินยอมรับพร้อมกับถอนหายใจเบาๆ ตอนแรกว่าจะไปดักเมีย ที่บ้านพ่อตา แต่พอไปถึงก็พบว่าสินชัยกำลังจะเดินทางไปขึ้นเครื่อง ตนจึงอาสาขับรถมาส่งที่สนามบิน จากนั้นก็โทร. นัดเพื่อนรักมานั่งดื่มที่เล้านจ์ของโรงแรมตน เพื่อจะผ่อนคลายอารมณ์ที่หงุดหงิด

“เฮ้ย! หมดไปเกือบครึ่งขวดนี่ไม่นิดมั้ง” แม่ทัพเอ่ยแซว

“นั่นสิ! น้องไวน์มีกิ๊กหรือไงวะ ถึงมานั่งทำหน้าเหมือนข้อศอกหมาแบบนี้” ขุนพันเอ่ยหยอก

“ไอ้เชี่ย! ถ้าเมียกูมีกิ๊กนะ กูคงไม่มานั่งอยู่ตรงนี้หรอก” ภาคินบอกก่อนจะยกแก้วบรั่นดีขึ้นกระดกเพื่อดับความร้อนรุ่มในใจ

“ฮ่าๆๆ งั้นเรื่องอะไรวะ?” ขุนพันพยักหน้าให้แม่ทัพก่อนจะหัวเราะขึ้นพร้อมๆ กัน

“เฮ้อ...เรื่องไม่เป็นเรื่องน่ะ” ภาคินบอกอย่างหงุดหงิดเพราะไม่ว่าจะทำดีแค่ไหน วรันยาก็เหมือนจะไม่ได้รักตน

“เช่น?” แม่ทัพถามพร้อมกับรินบรั่นดีลงในแก้วให้กับเพื่อน

“ยายกูไปทำธุระที่กรุงเทพ น้องไวน์ก็เลยขอกลับไปนอนที่รีสอร์ต” ภาคินระบายความคับข้องใจ

“แหม! มึงก็ทำเหมือนรีสอร์ตพรรณนาราอยู่ไกลจากไร่ไปรยาเวศเป็นพันกิโลอย่างงั้นแหละไอ้คิน” ขุนพันต่อว่าอย่างอดไม่ได้

“แต่เมียกูจะไปหลายวัน แถมลากกระเป๋าใบใหญ่มาเก็บเสื้อผ้าด้วย” ภาคินมองค้อนคนที่ไม่ช่วยแต่ยังไปออกตัวให้กับวรันยาอย่างขุ่นเคือง

“ฮ่าๆๆ” ขุนพันหัวเราะขึ้นอย่างขบขันกับคำตอบ

“กูว่าน้องไวน์คงจะทนรับความหื่นของมึงไม่ไหว ก็เลยเก็บเสื้อผ้าหนีกลับรีสอร์ตแน่ๆ” แม่ทัพออกความเห็นที่คิดว่าน่าจะมีเปอร์เซ็นเป็นไปได้มากที่สุด

“ใช่! มึงควรเว้นช่วงบ้างอะไรบ้าง” ขุนพันรีบสมทบตาม

“ขอบคุณมากนะ พวกมึงช่วยทำให้กูรู้สึกดีขึ้นเยอะเลย” ภาคินมองค้อนก่อนจะถอนหายใจอีกครั้งอย่างรู้สึกเซ็งๆ ‘ใครมันจะไปห้ามใจได้ ว่าวันนี้จะเอา แล้วพักไปก่อนอีกสองวันค่อยเอาใหม่?’

“เรื่องแค่นี้! ทำให้มึงงอนแล้วหนีมานั่งดื่มอยู่ที่นี่เหรอวะ” แม่ทัพถามอย่างไม่เข้าใจ

“เออ!” ภาคินบอกอย่างอารมณ์เสีย ‘รู้งี้ชวนพี่สิงห์ไปนั่งดื่มที่ท้ายไร่ก็ดี ไม่น่ามาให้ไอ้สองตัวนี่ถากถางเลย’

“แล้วไอ้นัยล่ะ เป็นไงบ้าง?” ขุนพันถามถึงฝาแฝดของอีกฝ่ายที่หายเงียบ ไปนาน

“มันก็สบายดี ยุ่งเรื่องงานอยู่ที่หัวหินน่ะแหละ” ภาคินบอกก่อนจะยกแก้วบรั่นดีขึ้นชนกับเพื่อนทั้งสอง

แม่ทัพยกแก้วขึ้นจิบพร้อมกับจ้องมองคนที่สละโสดเป็นคนแรกของกลุ่ม อย่างไม่รู้จะปลอบใจหรือให้คำปรึกษายังไง เพราะตนเองก็ยังไม่เคยคบหาใครจริงๆ จังๆ มาก่อน

“เฮ้ย! ณีมาทางนี้ว่ะ” ขุนพันสะกิดเพื่อนทั้งสองให้รู้ตัว

“สวัสดีค่ะบอส วันนี้นึกครึ้มอกครึ้มใจอะไรถึงมานั่งดื่มแต่หัวค่ำคะ” เสาวณีที่เลิกงานและกำลังจะกลับบ้าน แต่พอรู้ว่าภาคินมาดื่มที่เล้านจ์ของโรงแรม จึงรีบเดินเข้ามาทักทายด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม

“ไม่มีอะไรครับ ว่าแต่คุณยังไม่กลับเหรอ?” ภาคินส่งยิ้มบางๆ ให้กับอดีตวันไนต์สแตนอย่างรู้สึกกระดากนิดๆ

“ยังค่ะ! ณีว่าจะหาอะไรทานที่นี่ก่อน” เสาวณีบอกพลางส่งยิ้มให้สองหนุ่มที่นั่งอยู่ด้วย

“อ้าว! ณีมาทำงานที่โรงแรมของไอ้คินหรอกเหรอเนี่ย” แม่ทัพแกล้งถามด้วยสีหน้าตกใจ

“ใช่ค่ะ!” เสาวณีพยักหน้ารับยิ้มๆ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ภาคิน (ซีรีส์ 3 หนุ่มซานเตียนโน่)