วันต่อมา...รีสอร์ตพรรณนารา
“เอ่อ...น้องคะ ไวน์อยู่ไหม” มีนาเดินเข้าไปถามพนักงานในร้านกาแฟ พร้อมกับกวาดสายตามองหาเพื่อนสาว
“คุณไวน์น่าจะอยู่กับคุณภาคินที่ไร่ไปรยาเวศค่ะ” พนักงานสาวหันไปตอบด้วยรอยยิ้ม
“แล้ววันนี้จะเข้ามาที่ร้านหรือเปล่า” มีนาเลิกคิ้วถาม
“ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ แต่เดี๋ยวจะลองถามคุณนารีให้นะคะ” พนักงานบอกพลางมองหาเลขาใหญ่ ที่เมื่อครู่เห็นเดินดูงานอยู่แถวๆ นี้
“อ๋อ! ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวพี่จะโทรหาไวน์เอง ขอล้าเต้เย็นหวานน้อยแก้วหนึ่งแล้วกัน” มีนารีบบอกก่อนจะเดินไปนั่งรอที่โต๊ะใกล้ๆ
“ได้ค่ะ รอสักครู่นะคะ” พนักงานสาวยิ้มก่อนจะลงมือทำกาแฟต่อ
“จ้ะ” มีนาขานรับ แล้วล้วงมือถือออกมาต่อหาเพื่อนสาว
ตู๊ด...ตู๊ด...
เสียงรอสายดังขึ้นไม่กี่ครั้งปลายสายก็กดรับ มีนาจึงรีบเอ่ยชวน
[ไวน์! เราอยู่ที่ร้านกาแฟ ออกมาหาหน่อยสิ]
[อืม...น้องไวน์คงจะไปไม่ได้ครับ] ภาคินตอบกลับพร้อมกับเหลือบมองใบหน้าของภรรยาที่ไม่ว่าจะหลับหรือตื่น เธอก็สวยและน่ามองเสมอ
[คุณภาคิน!] มีนาอุทานเสียงดังอย่างตกใจ ทำเอาพนักงานที่กำลังชงกาแฟถึงกับสะดุ้งและยกมือขึ้นลูบที่หน้าอกเบาๆ
[ครับผมเอง]
[เอ่อ...ไวน์ทำอะไรอยู่เหรอคะ] มีนาที่ดีใจจนไม่ทันได้สังเกตสิ่งรอบข้างว่ามีลูกค้าในร้านหลายคนที่รู้จักทั้งภาคินและวรันยากำลังเงียบเพื่อรอฟังการสนทนา
[น้องไวน์หลับอยู่ ถ้าตื่นแล้วผมจะบอกให้โทรกลับครับ] ภาคินตอบก่อนจะก้มลงหอมแก้มของภรรยา
[ค่ะ] คนที่กำลังหัวใจพองโตเพราะได้คุยกับชายในฝัน ที่หากมีโอกาสได้เจอกันก่อนหน้านี้ บางทีเธออาจจะได้เป็นภรรยาของอีกฝ่าย แทนสาวเฉิ่มอย่างวรันยา
“อ้าว! มีนมาดื่มกาแฟเหมือนกันเหรอ” เอื้องเอ่ยทักทายอย่างมึนๆ ไม่คิดว่าจะเจอเพื่อนสาวที่นี่
“ส้ม เอื้อง” มีนาตกใจ! เผลอกดวางสายไปอย่างลืมตัว
“พวกเรามางานศพของเพื่อนร่วมงานน่ะ เลยแวะมาหากาแฟดื่ม” ส้มบอกพร้อมกับสังเกตอาการแปลกๆ ของเพื่อนร่วมรุ่น
“ฉันมาหาไวน์น่ะ แต่ไม่อยู่” มีนาออกตัว
“สงสัยจะไปเที่ยวกับคุณคินมั้ง” เอื้องบอกก่อนจะหันไปสั่งกาแฟกับพนักงานสาว “ขอเหมือนเดิมจ้ะ”
“ได้ค่ะคุณเอื้อง” พนักงานส่งยิ้มหวานให้กับลูกค้าประจำที่แวะเวียนมาอาทิตย์ละ 2-3 ครั้ง
“เธอรู้ได้ไงเอื้อง” มีนาถามอย่างสนใจ
“อ้าว! ก็เห็นในเฟซบุ๊กคุณภาคินน่ะลงรูปแล้วแท็กไวน์เอาไว้” เอื้องเอ่ยเฉลย ‘อะไรกัน นี่ยัยมีนไม่ได้เป็นเพื่อนทางเฟซบุ๊กกับไวน์หรือไง?’
“เราขอเฟซบุ๊กไวน์หน่อยสิ” มีนกดเปิดมือถือรอ
“แหม...เธอก็ลองพิมพ์ชื่อ วรันยา ซานเตียนโน่ ดูสิมีน” ส้มบอกคนที่ชอบถาม ด้วยสีหน้าเซ็งๆ ‘เฮ้อ...ไปเล่าไปเรียนไกลถึงฝรั่งเศส แค่เรื่องง่ายๆ ยังให้ต้องสอนอีก’
มีนากลอกตาก่อนจะพิมพ์ตามที่อีกฝ่ายบอก พอเจอก็รีบส่งมือถือให้เพื่อนสาวดู “อันนี้ใช่ไหม”
“ใช่ๆ อันนี้แหละ” เอื้องพยักหน้ารับ ก่อนจะหันไปจ่ายเงินค่ากาแฟให้พนักงาน
มีนากดแอดเพื่อนไป และเข้าส่องดูโพสต์ต่างๆ ของวรันยาที่ภาคินแท็กหา
{พาภรรยาสุดที่รักมาเปลี่ยนบรรยากาศคร้าบ}
Anna : ไปเปลี่ยนบรรยากาศหรือว่าไปทำน้องเจ้าพ่อเลี้ยง อิๆ (แซวเล่นเน้อเจ้า)
ภาคิน ??
Anna ???
ฤดี : อิจฉาคุณไวน์เจ้า ได้สามีน่ารัก
ภาคิน ???
ขุนพัน : กลับมาเรามีเรื่องต้องเคลียร์กันนะเพื่อน
ภาคิน ขุน! คนที่แกต้องเคลียร์ไม่ใช่ฉัน
แม่ทัพ : ร้ายกาจจริงๆ เพื่อนKU
ภาคิน ขอบคุณครับที่ชม
แม่ทัพ ประชด!
ขุนพัน อย่าประชดเลยทัพ ไอ้คินมันหน้าด้าน ไม่รู้สึกรู้สา อะไรหรอก
ภัคคินัย : รอฟังข่าวดี
ภาคิน แน่นอนอยู่แล้ว
หิรัญ : จะมีน้ำยาเหรอ? ?
ภาคิน เตรียมขนมจีนรอได้เลยครับเสี่ย
หิรัญ ราคาคุย
ภาคิน ไม่เกินสองเดือนรู้เรื่องครับ
“อ่านแล้วอย่าสำลักความหวานตายล่ะ เมื่อวานฉันเกือบเอาชีวิตไม่รอดแน่ะ ขอบตานี่ลุกเป็นไฟเลย” เอื้องบอกอย่างอิจฉา
“คิกๆๆ” ส้มหัวเราะกับท่าทางของเพื่อนรัก ที่ยกมือขึ้นโบกพัดบริเวณรอบดวงตา
“นั่นใครอะ ดูคล้ายๆ ยัยลัมภานะ” เอื้องสะกิดเพื่อนรักให้หันไปมองผู้หญิงที่นั่งอยู่ตรงโซนข้างนอกร้าน
“ไม่ใช่มั้ง ยัยนั่นจะกล้ามาที่นี่เหรอ” ส้มออกความเห็น
“กาแฟได้แล้วค่ะ” พนักงานวางกาแฟลงบนโต๊ะให้กับสามสาว
“ขอบใจจ้ะ” เอื้องบอกพร้อมกับหยิบแก้วกาแฟแบบ Take a way ของตัวเองขึ้นมาถือ แล้วหันไปบอกกับเพื่อนสาว “มีน! พวกเราขอตัวก่อนนะ ต้องไปทำธุระต่อ”
“โอเค! ไว้ค่อยเจอกัน” มีนาละสายตาจากการเข้าไปส่องในเฟซบุ๊กของภาคิน แล้วโบกมือให้กับสองสาว
“บายจ้ะ” ส้มบอกก่อนจะเดินออกไปยังรถที่จอดอยู่กับเพื่อนรัก
“บาย” มีนายิ้มก่อนจะหันมากดเซฟรูปของภาคินลงในมือถือต่อ
โซนข้างนอกร้าน...
“ภา! ไปกันเถอะแก” ไอซ์ สาวประเภทสองสะกิดเรียกคนที่นั่งนิ่งอยู่ราวกับกำลังคิดอะไรในใจให้รู้สึกตัว
“อืม!” ลัมภาที่ใส่แมสปิดปาก ใส่แว่นตาสีดำและสวมหมวกแก๊บปิดบังใบหน้า ลุกเดินตามเพื่อนรักไปขึ้นรถ
ช่วงสองเดือนที่ผ่านมานี้...เธอจมอยู่กับความเจ็บปวด เพราะเฝ้าแต่คิดว่าหากเธอคือหญิงสาวที่ชื่อ วรันยา ชีวิตมันจะมีความสุขเพียงใด ยิ่งได้มาเห็นสถานที่แห่งนี้ ก็ยิ่งรู้สึกว่า...สวรรค์! ช่างไม่มีความยุติธรรมเลยสักนิดที่ทำให้เธอเกิดมาเป็นลูกสาวของแม่ค้าขายข้าวแกง ในขณะที่อีกฝ่ายเป็นถึงลูกสาวเจ้าของรีสอร์ตใหญ่ที่มีพร้อมทุกอย่าง ทั้งฐานะ การศึกษา แถมยังเป็นผู้หญิงที่ภาคินรักและให้เกียรติ แตกต่างกับเธอ...ที่ต้องอยู่ในสถานะหลบๆ ซ่อนๆ
นารีที่ไปตรวจงานมา ทันได้เห็นสาวคนหนึ่งซึ่งเธอรู้สึกคุ้นตาเป็นอย่างมาก จึงรีบเดินเข้าไปถามพนักงานในร้านกาแฟอย่างร้อนใจ “เมื่อครู่ใช่ลัมภาหรือเปล่า?”
“ใช่ค่ะ อ้อ! แล้วก็มีเพื่อนคุณไวน์ที่ชื่อมีนมาด้วยนะคะ เพิ่งจะกลับไปเมื่อกี้เองค่ะ” พนักงานสาวรีบรายงาน
“เขามาดื่มกาแฟเหรอ?” นารีขมวดคิ้วถามอย่างสนใจ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ภาคิน (ซีรีส์ 3 หนุ่มซานเตียนโน่)