“แหม...พี่จะโกหกเราไปทำไม พี่ไม่ได้อยู่บ้านของพ่อนะ แต่อยู่ห้องพักธรรมดาๆ ใช้ชีวิตเหมือนคนถังแตก” ภาคินบอกพลางหัวเราะเบาๆ
“ร้อยก็ไม่เชื่อ พันก็ไม่เชื่อค่ะ” วรันยาหัวเราะตามอย่างรู้สึกขำกับคำว่า...ใช้ชีวิตเหมือนคนถังแตก
“เรื่องจริงครับ พ่อพี่ชอบตั้งกฎเยอะจะตาย! ให้เงินใช้จำกัด พี่กับไอ้นัยต้องไปทำงานพาสไทม์เพิ่ม โชคดีที่หน้าตาเหมือนกัน ก็เลยแอบสลับวันกันไปทำได้” ภาคินเล่าถึงชีวิตตอนที่เรียนต่างประเทศ
“แล้วที่ทำงานเขาไม่จับได้เหรอคะ” วรันยาอมยิ้มอย่างเห็นภาพ เพราะสามีชอบเก๊กหน้าตีขรึมแกล้งเป็นภัคคินัยประจำ
“ไม่ แต่โคตรเซ็งเลยที่ต้องตีขรึมเป็นไอ้นัย”
“แล้วพี่คินกับพี่นัยไปทำงานที่ไหนคะ” วรันยาหัวเราะอย่างขำๆ เพราะปกติภาคินก็มักจะแกล้งเป็นภัคคินัยบ่อยๆ เวลาที่มีใครเดินเข้ามาทักแล้วอีกฝ่ายไม่อยากคุยด้วย
“โรงแรมโรคาซานเดอร์ แกรนด์ ครับ หลายอย่างที่พี่เรียนรู้จากที่นั่นก็เอามาปรับใช้กับโรงแรมของเราด้วย” ภาคินบอกพร้อมกับลงมือตักน้ำซุปของต้มแซบ ตีนไก่ขึ้นมาชิม
“เยี่ยมไปเลยค่ะ” วรันยาบอกอย่างรู้สึกทึ่ง
“ว่าแต่...ทำไมอยู่ๆ น้องไวน์ถึงอยากกินน้ำยาป่าตีนไก่ครับ?” ภาคินถามขึ้นอย่างสงสัย
“เอ่อ...พอดีไวน์ไปอ่านนิยายเรื่องหนึ่งมา ก็เลยอยากกินน่ะค่ะ” วรันยารับสารภาพตามตรง
“อ้าว! พี่นึกว่าเราเคยกินมาแล้ว” ภาคินเลิกคิ้วมองภรรยาสาวอย่างมึนงง ก่อนจะยกต้มแซบตีนไก่รสจัดจ้านไปวางที่โต๊ะ
“เปล่าค่ะ เพิ่งเคยกินครั้งนี้เป็นครั้งแรก” วรันยาบอกพร้อมกับเดินตามสามีเข้าไปนั่งที่โต๊ะอาหาร
“แล้วเป็นไงบ้างครับ” ภาคินนั่งลงพร้อมกับหันไปถามคนข้างๆ
“อร่อยค่ะ ไม่แปลกใจเลยที่คุณคาเรนชอบ” วรันยาบอกอย่างรู้สึกเขินนิดๆ เมื่อนึกไปถึงพระเอกของเรื่อง ที่แม้จะหื่นอยู่นิดๆ หน้ามึนอยู่หน่อยๆ แต่ก็รักนางเอกมากซะจนเธอแอบอิจฉา พออ่านจบก็ต้องเข้าไปดาวน์โหลดอีบุ๊กของนิยายเรื่องอื่นๆ ของนักเขียนมาจนครบ เพราะทุกเรื่องมีความเกี่ยวโยงของตัวละครที่แม้จะจบในเรื่องแต่ก็ยังมีโผล่ไปแจมในเรื่องอื่นๆ ให้พอได้หายคิดถึงอยู่บ้าง
“นี่พูดถึงนิยายอยู่ใช่ไหมครับ” ภาคินกลอกตาเมื่อเห็นภรรยามีสีหน้าเคลิบเคลิ้ม
“ค่ะ” วรันยาพยักหน้ารับ ก่อนจะกลับมาคุยเรื่องขนมจีนต่อ “ปกติไวน์ชอบกินแต่ขนมจีนน้ำเงี้ยวกับแกงเขียวหวานไก่”
“พี่ก็เหมือนกันครับ ถ้าน้องไวน์ชอบ! พี่จะทำให้กินอีก” ภาคินบอกอย่างเอาใจเมียรัก
“ขอบคุณค่ะ ว่าแต่...มือถือของไวน์ล่ะคะ” วรันยาเอ่ยถามหามือถืออย่างเพิ่งนึกขึ้นได้
“นี่ครับ” ภาคินลุกเดินไปหยิบมาส่งให้
“มีแต่เพื่อนของไวน์โทรมาหาเต็มเลย” วรันยารับมาเปิดเช็กข้อความและเบอร์โทร. เสร็จ แล้วเข้าไปเปิดดูเฟซบุ๊กของตัวเองก็ถึงกับตกใจ รีบหันไปมองหน้าของสามีอย่างไม่อยากจะเชื่อว่าอีกฝ่ายจะกล้าทำอะไรแบบนี้ออกสื่อ “นี่พี่คิน...”
“สามีโพสต์รูปแล้วแท็กภรรยา พี่ว่ามันไม่แปลกนะ” ภาคินรีบออกตัว
“แต่มันแปลกที่พี่คินไม่ถามไวน์ก่อน” วรันยาต่อว่าอย่างขุ่นเคือง เพราะสามีตัวดีโพสต์แต่ข้อความเลี่ยนๆ แล้วแท็กหาเธอ
“ขอโทษครับ ครั้งหน้าพี่จะถามก่อน” คนที่อยากอวดตัวเองบอกยิ้มๆ
“มีคนแห่มาคอมเมนต์กันเต็มเลย” วรันยาบอกพร้อมกับถอนหายใจอย่างเพลียๆ ป่านนี้เพื่อนๆ ของเธอคงจะพากันหัวเราะอยู่เป็นแน่
“หึๆ พี่ว่ามีแต่คนอิจฉาน้องไวน์นะ” ภาคินล้วงมือถือของตัวเองออกมาถ่ายอาหารบนโต๊ะ แล้วโพสต์ลงไปในเฟซบุ๊กอีกครั้ง
#ทำขนมจีนน้ำยาป่าเอาใจภรรยาครับ
“พี่คิน!” วรันยามองค้อนคนที่ยิ่งว่าเหมือนยิ่งยุอย่างไม่พอใจ
“ห้ามลบแท็กนะ ไม่งั้นพี่โกรธจริงๆ ด้วย” ภาคินบอกก่อนจะตักขนมจีนขึ้นมากินต่ออย่างอารมณ์ดี
“โอ๊ย! พี่คินเป็นบ้าอะไรเนี่ย เดี๋ยวคนอื่นเขาก็คิดว่าไวน์อวดสามีหรอก” วรันยาต่อว่าเมื่อเห็นคอมเมนต์เริ่มผุดขึ้นมาเรื่อยๆ จนตามอ่านไม่ทัน
“สามีมีดีก็อวดบ้างสิครับ น้องไวน์น่ะทำตัวอย่างกับสาวโสด ในเฟซบุ๊กไม่เห็นลงรูปของพี่บ้างเลย” ผัวยืนหนึ่ง เอ๊ย! สามีที่ถูกต้องตามกฎหมายทวงถามพร้อมกับเชิดหน้าขึ้นนิดๆ
“เฮ้อ...เอาที่สบายใจเถอะค่ะ ไวน์ขี้เกียจจะทะเลาะกับพี่คินแล้ว” วรันยายอมยกธงขาวแล้วหันไปสนใจขนมจีนที่แสนอร่อยตรงหน้าต่อ
“ดี! งั้นต่อไปนี้พี่จะลงรูปคู่ทุกวันเลย” คนได้คืบจะเอาศอกบอกอย่าง ฮึกเหิม
“บ้า!” วรันยาถลึงตาใส่อย่างเริ่มจะโกรธขึ้นมานิดๆ
“พี่พูดจริง แล้วถ้าเราปิดแท็กล่ะก็น่าดู!” ภาคินเอ่ยคาดโทษด้วยสายตาดุๆ
“ทำไมต้องขู่ไวน์ด้วย” วรันยาต่อว่า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ภาคิน (ซีรีส์ 3 หนุ่มซานเตียนโน่)