ภาคิน (ซีรีส์ 3 หนุ่มซานเตียนโน่) นิยาย บท 68

“กลับกันเถอะครับนา” สิงขรดึงมือของสาวเจ้าไปขึ้นรถอย่างรู้สึกสุขล้นในหัวใจ ที่ในที่สุดเธอก็ยืนอยู่ข้างเขา

“ค่ะ” นารีส่งยิ้มหวานไปให้อย่างรู้สึกผิด ที่ผ่านมาหากเธอเชื่อมั่นในความรักของสิงขรสักนิด ทุกอย่างก็คงจะไม่เป็นแบบนี้

สาลี่นั่งร้องไห้มองรถที่แล่นออกไปจนลับตา อย่างรู้สึกเจ็บปวด หากเธอป้องกันหรือใส่ใจคุมกำเนิดสักนิด แล้วรอคอยต่อไปอีกสักหนึ่งปี ก็คงจะได้เป็นเจ้าสาวของสิงขรสมใจ

“สรุปใครคือพ่อของลูกแกฮะ! นังสาลี่” เสริมถามเสียงดังลั่นอย่างรับไม่ได้ที่บุตรสาวมั่วผู้ชายสองคนพร้อมกัน

“ไม่รู้! รอให้มันเกิดมาแล้วค่อยตรวจ DNA เอาแล้วกัน” สาลี่บอกก่อนจะสะบัดหน้าเดินหนีเข้าบ้าน

“เดี๋ยวสิ! ฉันยังพูดไม่จบนะ” เสริมกำลังจะตามไปต่อว่า แต่ลูกน้องทั้งสองก็กระโจนเข้าต่อยกันจนฝุ่นตลบ

ผัวะ! ตุบ! ผลัก! ตุบ!

“ลูกฉัน!” อ้ายบอกอย่างโมโหที่รู้ว่าเพื่อนรักมีความสัมพันธ์กับสาลี่

“ลูกของฉันต่างหาก” ทิศบอกอย่างไม่ยอม ‘เพื่อนก็เพื่อนเถอะ เรื่องแบบนี้มันยอมกันได้ที่ไหนวะ รู้อยู่ว่าเราแอบชอบสาลี่ก็ยังจะแอบไปซั่มกันลับหลังอีก’

“โอ๊ยยย ใครก็ได้มาจับไอ้สองตัวนี้แยกกันที” เสริมตะโกนบอกคนงานที่อยู่ใกล้อย่างรู้สึกอับอายและรำคาญ แทนที่จะได้ลูกเขยเป็นคนสนิทของพ่อเลี้ยงภาคิน แต่กลับได้คนงานของตัวเองแทน แถมยังไม่รู้ว่าคนไหนคือพ่อของหลานที่กำลังจะเกิดมาอีก

ห้าวันต่อมา...นารีเปิดตัวคบหากับสิงขรอย่างเปิดเผย และเตรียมจะแต่งงานในอีกสองเดือนข้างหน้า

ภาคินกับวรันยาได้ทราบข่าวก็รีบกลับมาและจัดงานเลี้ยงเล็กๆ ให้กับคนสนิททั้งสอง แต่ทว่า...ยังไม่ทันได้ดื่มกิน ก็มีแขกไม่ได้รับเชิญโผล่มาซะก่อน

“สวัสดีครับคุณคิน คุณไวน์” ธรรมนัสเอ่ยทักทาย ขณะที่เสาวณียืนหลบอยู่ด้านหลัง

“สวัสดีครับ / สวัสดีค่ะ” ภาคินกับวรันยายกมือไหว้ผู้ใหญ่อย่างมีมารยาท

“ผมพาณีมากราบขอโทษเรื่องวันนั้นครับ” ธรรมนัสบอกเสียงอ่อน

“...” ภาคินนิ่งเงียบไม่ตอบ

“ได้โปรดเถอะครับคุณคิน” ธรรมนัสรีบเข้าไปจับมือของชายหนุ่ม อย่างขอความเห็นใจ

สิงขรเบือนหน้าหนี ไม่อาจจะทนมองภาพที่น่าสะอิดสะเอียนนี้ได้ หลังรู้ว่าอีกฝ่ายแอบยักยอกเงินไปเท่าไหร่

วรันยามองใบหน้าของเสาวณีอย่างไม่เข้าใจว่าเหตุใดถึงยังมานั่งอยู่ตรงนี้ ทั้งๆ ที่ธรรมนัสก็ได้เงินหลายล้านบาท

“ฮึก...ณีขอโทษค่ะคุณไวน์ ฮือๆๆ” เสาวณีร้องไห้พร้อมกับคลานเข่าเข้าไปหา เตรียมจะก้มลงกราบที่ตักของหญิงสาวเพื่อเรียกคะแนนความสงสาร

“ยะ...อย่าค่ะคุณณี” วรันยารีบดึงอีกฝ่ายให้ลุกขึ้นยืนอย่างตกใจ

“ผมขอโอกาสแทนหลานสาวอีกครั้ง รับรองว่าจะไม่มีเรื่องแบบนั้นเกิดขึ้นอีก” ธรรมนัสบอกเสียงหนักแน่น

“...” ภาคินมองคนที่บิดาเคยหลงไว้ใจอย่างรู้สึกสมเพช เพราะตลอดเวลาที่อีกฝ่ายทำงานให้กับโรงแรมนั้น บิดาก็จ่ายค่าตอบแทนไปจำนวนมาก ไม่คิดว่าพอ อีกฝ่ายได้ขึ้นนั่งตำแหน่งผู้บริหารชั่วคราวแค่ปีกว่าๆ จะกลายเป็นคนคดโกงได้ถึงเพียงนี้

“ได้โปรดเถอะครับคุณคิน คุณไวน์” ธรรมนัสเห็นชายหนุ่มยังคงนิ่งเงียบจึงงัดไม้ตายออกมาใช้

“อย่าทำแบบนี้ค่ะคุณธรรม” วรันยาร้องห้ามเสียงหลงที่เห็นอีกฝ่ายเตรียมจะคุกเข่าให้สามี

สิงขรและนารีมองอย่างสุดอึ้ง ไม่คิดว่าทั้งสองจะลงทุนยอมเสียศักดิ์ศรีได้ถึงเพียงนี้

“พี่คินคะ ให้โอกาสคุณณีกลับเข้าทำงานอีกครั้งนะคะ” วรันยาบอกสามีเสียงสั่น

“แต่ว่า...” ภาคินกำลังจะเอ่ยท้วง แต่ก็ถูกเมียรักแทรกขึ้น

“นะคะ ถือว่าไวน์ขอ” วรันยาเล่นตามแผนที่เตี๊ยมกันไว้

“ก็ได้ครับ แต่ถ้าณีทำเหมือนวันนั้นอีกล่ะก็...” ภาคินจ้องมองใบหน้าของหญิงสาวที่เอาแต่ร้องไห้สายตาเหยียดๆ

“ณีสัญญาค่ะว่าจะไม่ทำอีก” เสาวณีรีบบอก ก่อนจะหันไปยกมือไหว้ผู้หญิงที่เธอเกลียดอย่างซึ้งใจ แม้ว่าเธอจะทำเรื่องไม่ดีไปก่อนหน้า แต่อีกฝ่ายก็ยอมช่วยกล่อมภาคินให้ “ขอบคุณคุณไวน์มากๆ นะคะที่ช่วยพูดให้ณี ฮือๆๆ”

หนึ่งอาทิตย์ต่อมา...ขณะที่ทุกอย่างกำลังดำเนินไปได้สวย ลัมภาก็ออกมาโพสต์รูปที่ตรวจครรภ์ที่มีสองขีด ทำเอาขาเผือกในโซเชียลต่างพากันขุดจนแทบไม่ได้หลับได้นอนว่าใครคือพ่อของเด็ก เพราะเจ้าตัวไม่ได้เขียนสเตตัสใดๆ

ด้านภาคินที่นั่งเครื่องไปดูงานกับเจ้าของไร่อื่นๆ (จอมพล เสกสรร ธนากร) ที่กรุงเทพฯ. สามวัน ก็ไม่รู้ว่าตัวเองถูกจับโยงเข้าไปในข่าวซุบซิบของลัมภา เพราะมีคนเอ่ยถึงเหตุการณ์ในร้านฮาร์เปอร์ที่ลัมภาเข้าไปกอดแขนของตน จนกลายเป็นกระแสลุกลามไปทั่วโลกโซเชียล ว่าแท้ที่จริงแล้วเขายังคงแอบคบหากับลัมภาและอาจจะเป็นพ่อของเด็กในท้อง

วรันยาอ่านข่าวที่เพื่อนๆ ส่งเข้ามาให้ในไลน์ด้วยหัวใจสั่นๆ นั่งทบทวนเรื่องราวต่างๆ ที่ผ่านมา ก็ทำให้เธออดคิดไม่ได้ว่าหากลัมภากำลังตั้งท้องลูกของภาคินจริง เธอจะทำยังไง? ขณะเดียวกันสระแสในโลกออนไลน์ต่างพากันถามถึงความรับผิดชอบของพ่อเด็ก และคิดแทนว่า...หากเป็นเธอ! จะยอมหย่ากับสามีเพื่อให้เด็กที่กำลังจะเกิดมาได้มีครอบครัวที่สมบูรณ์ แต่ก็มีคอมเมนต์โต้กลับว่า...จะหย่าทำไม หากอีกฝ่ายเป็นชู้กับสามีจริง ก็ฟ้องกลับไปเลย เมียหลวงต้องยืนหนึ่ง! มีคอมเมนต์เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยผุดขึ้นมากมายจนตามอ่านแทบไม่ทัน

เธอกดปิดมือถือแล้วถอนหายใจอย่างรู้สึกเครียดนิดๆ อยากจะโทร. ไปถามสามีให้รู้เรื่อง แต่ก็กลัวว่าจะรบกวนการประชุมของอีกฝ่าย จึงได้แต่รอให้ภาคินโทร. กลับมา แล้วค่อยลองสอบถาม

ชั่วโมงต่อมา...คนที่ว้าวุ่นหัวใจ ไม่รู้จะโทร.ไปปรึกษาใครดี จึงปั่นจักรยาน สีชมพูฟรุ้งฟริ้งมายืนปั้นหน้ายิ้มต้อนรับลูกค้าอยู่ที่หน้าร้านกาแฟได้ไม่ถึงยี่สิบนาที ก็เห็นเพื่อนสาวขับรถเข้ามาจอด และเดินตรงเข้ามาหาเธอด้วยสีหน้าตื่นๆ

“ไวน์! เธอเห็นข่าวของคุณภาคินกับยัยลัมภาหรือยัง?” มีนาถามเสียงดัง จนลูกค้าในร้านต่างพากันหันมามองเป็นสายตาเดียว

“ยะ...ยัง?” วรันยาแสร้งส่ายหน้าปฏิเสธ พร้อมกับภาวนาให้เพื่อนสาว อย่าถามอะไรต่อในตอนนี้

“เอ่อ...เราออกไปคุยที่ข้างนอกกันเถอะ” มีนาหันไปมองรอบๆ ก่อนจะดึงแขนของเพื่อนสาวให้ออกเดินตาม แต่อีกฝ่ายก็ถูกเรียกเอาไว้ซะก่อน

“คุณไวน์คะ การประชุมจะเริ่มขึ้นในอีกสองนาทีนี้แล้วนะคะ” นารีที่วิ่งหน้าตั้งเข้ามาหา บอกด้วยน้ำเสียงที่หอบนิดๆ

“ตายจริง! ไวน์ลืมไปสนิทเลยค่ะ” วรันยาแทบจะโผเข้าไปกอดคนสนิทที่มาช่วยได้ถูกจังหวะ

“พี่นาว่าเรารีบไปกันเถอะค่ะ” นารีเอ่ยเร่ง

“ค่ะ” วรันยาขานรับก่อนจะหันไปบอกเพื่อนสาวด้วยสีหน้าเจื่อนๆ “เราขอตัวก่อนนะมีน”

“โอเค! ไว้ค่อยคุยกัน” มีนาขานรับอย่างไม่มีทางเลือก

“ขอตัวนะคะ” นารีบอกก่อนจะพาบุตรสาวของผู้เป็นนายเดินไปขึ้นรถที่จอดอยู่ใกล้ๆ แล้วขับออกไปตามทางอย่างรวดเร็ว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ภาคิน (ซีรีส์ 3 หนุ่มซานเตียนโน่)